ตะลุย 12 ไฮไลท์ เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว แลนมาร์คเด็ดใกล้เซี่ยงไฮ้

หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนใกล้เซี่ยงไฮ้ ที่ไม่ต้องเดินทางไกล แต่ได้บรรยากาศสุดคลาสสิกแบบจีนโบราณแท้ ๆ เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao Ancient Town) คือคำตอบที่ใช่สุด ๆ เมืองเล็ก ๆ ที่พื้นที่ไม่เล็ก เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเฉากังที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนโบราณ บ้านไม้โบราณ และสะพานหินเก่าแก่ที่สวยราวภาพวาด ยิ่งเดิน ยิ่งเพลิน ยิ่งน่าหลงใหล และในบทความนี้ Travelzeed จะพาคุณไป ตะลุย 12 ไฮไลท์ห้ามพลาดของเมืองโบราณจูเจียเจี่ยว ที่จะทำให้คุณรู้ว่าทำไมที่นี่ถึงถูกขนานนามว่า “เวนิสแห่งเซี่ยงไฮ้” พร้อมแล้ว ไปชมความงามของเมืองแห่งสายน้ำนี้กันเลย!

12 ไฮไลท์ห้ามพลาด เมืองโบราณจูเจียเจี่ยว

1. สะพานฟางเซิ่ง (Fangsheng Bridge)

สะพานฟางเซิ่ง

สะพานฟางเซิ่ง เป็นสะพานหินโบราณขนาดใหญ่ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำเฉากัง เรียกได้ว่าแลนด์มาร์กอันดับ 1 ของเมืองโบราณจูเจียเจี่ยว ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1571 ใช้เวลากว่า 15 ปีในการระดมเงินจากผู้คนใจบุญเพื่อก่อสร้าง สะพานนี้มีความยาวถึง 70.8 เมตร กว้าง 5.8 เมตร และสูง 7.4 เมตร แถมยังเป็น สะพานหินห้าโค้งที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ส่วนมากจะรู้จักกันในชื่อ สะพานหมายเลข 1 แห่งเซี่ยงไฮ้ เพราะสวยเด่นเห็นมาแต่ไกล ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกก็ยิ่งสวยมาก ๆ

2. สวนเค่อจือ (Kezhi Garden)

สวนเค่อจือ

สวนเค่อจือ เป็นสวนสไตล์จีนโบราณขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 17,997 ตารางเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1912 ใช้เวลาสร้าง 15 ปี และใช้เงินกว่า 300,000 ตำลึง ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่สวนหิน และสวน โดยมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมจีนแท้ ๆ เช่น สะพานงอเลียนแบบสวนอวี้หยวนในเซี่ยงไฮ้ และศาลาสิงโตแบบสวนโบราณในซูโจว เข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันตกอย่างลงตัว

3. สวนแห่งหัวใจ (The Garden Of Inseparable Hearts)

สวนแห่งหัวใจ

สวนแห่งหัวใจ (ถนนซีจิง เลขที่ 79) สวนจีนสไตล์โบราณและพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2007 มีพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ สวนซานถัง สวนซีจิง และสวนอี้โห่ว ภายในสวนมีองค์ประกอบของไม้ หิน ดอกไม้ น้ำ และศาลาคู่สมัยของราชวงศ์ชิงด้านหลังสวน พร้อมจัดแสดงของเก่าสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ทำให้เป็นทั้งสวนและพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมในเวลาเดียวกันได้อย่างลงตัวมาก ๆ

4. หอศิลป์เซี่ยงไฮ้เหอหลง (Shanghai Helong Art Gallery)

หอศิลป์เซี่ยงไฮ้เหอหลง

หอศิลป์เซี่ยงไฮ้เหอหลง (ถนนนอร์ทสตรีท เลขที่ 208-212) เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของจูเจียเจี่ยว มีพื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร ภายในมีจัดแสดงผลงานของจิตรกรชื่อดัง มีการส่งเสริมศิลปะเซี่ยงไฮ้ ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงอารยธรรมจีนที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปี และซึมซับวัฒนธรรมจีนโบราณ

5. ถนนนอร์ทสตรีท (North Street)

ถนนนอร์ทสตรีท

ถนนนอร์ทสตรีท ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิงจะรู้จักกันในชื่อ “ถนนหมายเลข 1 ของเซี่ยงไฮ้” มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี อาคารส่วนใหญ่สองข้างทางเป็นสองชั้น ซึ่งชั้นแรกเปิดเป็นร้านค้าและชั้นสองสำหรับพักอาศัย ถนนนี้มีลักษณะโค้งเป็นรูปตัว “S” เพราะสร้างเลียบแม่น้ำ ปัจจุบันมีร้านขายของมากมาย แต่ยังคงมีร้านค้าเก่าแก่อยู่ เช่น ร้านซอส ร้านผักดอง Han Dalong และร้านน้ำชา

6. สะพานไท่อัน (Tai’an Bridge)

สะพานไท่อัน

สะพานไทอัน เป็นสะพานหินโค้งที่สูงชันที่สุดในเมือง ทอดข้ามแม่น้ำสือเหอ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กที่แยกออกมาจากแม่น้ำเฉากัง ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1584 และได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1685 สะพานแห่งนี้มีความยาว 26.2 เมตร กว้าง 3.2 เมตร และสูง 4.6 เมตร

7. สะพานไม้สำหรับเดินข้าม (The Corridor Bridge)

สะพานไม้สำหรับเดินข้าม

สะพานไม้สำหรับเดินข้ามแห่งนี้ เป็นสะพานไม้แห่งเดียวในเมืองที่เชื่อมระหว่างถนนนอร์ทสตรีท และถนนเฉาเหอ ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อกิจกรรมทางศาสนา และการค้าขายของประชาชน สะพานนี้จึงยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สะพานฮุ่ยมิน” ซึ่งแปลว่า สะพานเพื่อความสะดวกของประชาชน และในปี ค.ศ. 1969 สะพานเก่าได้ถูกรื้อถอน และสร้างใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1996

8. ที่ทำการไปรษณีย์แห่งราชวงศ์ต้าชิง (Post Office of Daqing Dynasty)

ที่ทำการไปรษณีย์แห่งราชวงศ์ต้าชิง

ที่ทำการไปรษณีย์จูเจียเจี่ยวในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นที่ทำการไปรษณีย์ต้าชิงแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ในภาคตะวันออกของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 121 ปี เดิมก่อตั้งเป็นสำนักงานไปรษณีย์ชิงในปี ค.ศ. 1896 และเปิดเป็นสาขาอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1903 ถือเป็นสถาบันไปรษณีย์แห่งแรกในภูมิภาคและเป็นหนึ่งในสถานีไปรษณีย์สำคัญ 13 แห่งของเซี่ยงไฮ้ และในปี ค.ศ. 1953 ได้มีการย้ายไปใกล้สะพานฟางเซิงบนถนนนอร์ทสตรีท และในปี ค.ศ. 2001 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเขตชิงผู่ โดยมีตู้ไปรษณีย์ทองสัมฤทธิ์รูปมังกรโบราณที่ตั้งอยู่หน้าอาคาร ปัจจุบันยังคงใช้งานได้และเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของจูเจียเจี่ยว สื่อถึงความโรแมนติกแบบย้อนยุคสุด ๆ ไปเลย

9. สะพานผิงอัน (Ping’an Bridge)

สะพานผิงอัน

สะพานผิงอัน หรือที่ชาวบ้านเรียกอีกชื่อว่า สะพานตระกูลฉี เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานของกองทัพฉีจีกวงที่สร้างสะพานให้ประชาชนและต่อสู้กับญี่ปุ่น ด้วยพื้นหินของสะพานที่มีลักษณะไม่เรียบ เมื่อมีคนเดินผ่านจะเกิดเสียงดัง “เอี๊ยด” ซึ่งในภาษาถิ่นฟังคล้ายคำว่า “มงคล” จึงได้ชื่อว่า “ผิงอัน” แปลว่า “ความสงบสุข” นั่งเอง

10. ร้านน้ำชาเจียงหนานแห่งแรก (First Jiangnan Teahouse)

ร้านน้ำชาเจียงหนานแห่งแรก

ร้านน้ำชาเจียงหนาน (ถนนนอร์ทสตรีท เลขที่ 208-212) ก่อตั้งในปลายราชวงศ์ชิง ซึ่งเดิมเรียกว่า “สมาคมร้านน้ำชา” มีลักษณะเป็นอาคารอิฐแดง 2 ชั้น กว้าง 11 เมตร ลึก 21 เมตร ด้านหน้าติดถนน ด้านหลังเป็นแม่น้ำ มีประตูโค้งที่ก่อด้วยอิฐและหินที่สะท้องถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ชิกุเมน (Shikumen) ของเซี่ยงไฮ้ ภายในร้านมีเวทีการแสดง “ผิงถาน” (การเล่าเรื่องแบบดั้งเดิม) ผสานกับเสียงพิณจีนสามสาย ปัจจุบัน ร้านน้ำชาแห่งนี้มีอายุกว่าร้อยปี ซึ่งได้รับการบูรณะและถูกจัดให้เป็นสถานที่สำคัญในการแสดงประเพณีพื้นบ้านและมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองโบราณ

11. ร้านน้ำชาอาโป (Apo Tea House)

ร้านน้ำชาอาโป

ร้านน้ำชาอาโป (ถนนตงจิง เลขที่ 222) ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเฉากังและแม่น้ำจิงถิง ล้อมรอบด้วยน้ำ 3 ด้าน เป็นอาคาร 2 ชั้นมีชายคาแบบดั้งเดิม ย้อนไปในอดีต ชาวบ้านใกล้ทะเลสาบเตี้ยนซานต้องออกไปทำนา จับปลา หรือทำงาน ผู้หญิงแก่และสาวใหม่แต่งงานที่อยู่บ้านจึงมานั่งรวมกัน นำผักดองและถั่วรมควันที่ทำเองมาแบ่งปัน พร้อมเย็บปักถักร้อย ดื่มน้ำชา และพูดคุยกัน ประเพณีนี้เรียกว่า “น้ำชาอาโป” และในปัจจุบันร้านน้ำชาอาโปได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวต่างชาติมากขึ้น จนกลายเป็นไฮไลท์สำคัญของจูเจียเจี่ยวที่บอกได้เลยว่าห้ามพลาดมาก ๆ

12. จัตุรัสต้นแปะก๊วย (Ginkgo Tree Square)

จัตุรัสต้นแปะก๊วย

จัตุรัสต้นแปะก๊วย สร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของวัดซือเหมิน ซึ่งเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จูเจียเจี่ยว แต่ในปัจจุบันไม่มีวัดแล้ว เหลือเพียงต้นแปะก๊วยโบราณ 2 ต้น ที่มีอายุยาวนานกว่า 400 ปี โดยมีต้นหนึ่งเป็นหญิงและอีกต้นเป็นชาย เปรียบเหมือนสามีภรรยา โดยต้นที่เป็นหญิงได้ผ่านภัยภิบัติทางธรรมชาติมาหลายครั้ง ซึ่งครึ่งหนึ่งได้เน่าตายแล้ว แต่ก็ยังคงออกดอกและออกผลทุกปี และรูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าต้นแปะก๊วยคือ หลู่ สือเอ๋อ ชาวจูเจียเจี่ยว ย้อนไปในปี ค.ศ. 1910 เขาได้เขียนในหนังสือ “จีนใหม่ (New China)” ว่าภายใน 100 ปี ผู่ตง เซี่ยงไฮ้จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โป ( World Expo) จึงได้รับการยกย่องว่าเป็น “คนแรกที่ทำนาย World Expo” จึงทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความยืนยง และการมองการณ์ไกลของคนในท้องถิ่น

บทส่งท้าย

และนี่คือ 12 ไฮไลท์เด็ดของ “จูเจียเจี่ยว” เมืองโบราณริมน้ำที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสะพานหินเก่าแก่ สวนสวยสไตล์คลาสสิก หรือร้านน้ำชาเก่าแก่ที่ยังคงมีชีวิตชีวาในปัจจุบัน หากคุณมีโอกาสมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ อย่าลืมแวะมาสัมผัสบรรยากาศของเมืองโบราณแห่งนี้ด้วยตัวเอง หรือสามารถเลือกไปกับ Travelzeed ก็ได้นะ เราก็มีโปรแกรม ทัวร์เซี่ยงไฮ้ ที่ไปแวะเมืองโบราณจูเจียเจี่ยวด้วย รับรองว่าจะได้ทั้งภาพสวย ๆ ความทรงจำดี ๆ และความประทับใจกลับไปแน่นอนนนน!!!
____________________
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพ : www.zhujiajiao.com

Facebook Comments
Scroll to Top