3 วิธีเช็คอินง่ายๆ ให้ทันขึ้นเครื่อง✈

นักเดินทางทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “การเดินทางเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด” และแม้ว่าจะใช้เวลาทั้งชีวิตทุ่มเทกับมันอย่างไร ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการไปเยือนในทุก ๆ ที่ และเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น การเดินทางไปเยือนที่ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอยากจะทำ การเช็คอินก่อนขึ้นเครื่องก็คงเหมือนกัน ไม่มีอะไรจะทำให้เราอารมณ์เสียในวันหยุดไปได้มากกว่าแถวเช็คอินที่ยาวเหยียด ใครที่กำลังจะบินไปต่างประเทศ แต่ไม่อยากไปเช็คอินที่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะขี้เกียจต่อแถว มาดู 3 วิธีง่ายๆ ที่เราสามารถเช็คอินได้ก่อนกันค่ะ

ทำความรู้จักกับการเช็คอินออนไลน์
เช็คอินคืออะไร?
สำหรับผู้ที่อาจยังไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือยังไม่แน่ใจว่าทำไมทุกครั้งที่ขึ้นเครื่องต้องมีการ “เช็คอิน” ก่อนทุกครั้ง เราขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่าการเช็คอินคือการ “ยืนยัน” ว่าคุณจะใช้บริการเที่ยวบินนี้ เพราะการ “ซื้อตั๋วเครื่องบิน” นั้น ไม่ได้ยืนยันว่าคุณพร้อมจะเดินทาง จึงต้องมีการเช็คอินก่อนขึ้นเครื่องเสมอ โดยสายการบินจะออกบัตรขึ้นเครื่องหรือ “Boarding Pass” ให้คุณหลังเช็คอินเสร็จ และการเช็คอินนี้เองที่จะมีการตรวจเอกสารและโหลดกระเป๋าด้วย ซึ่งปกติแล้วต้องต่อคิวหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด

3 วิธีง่ายๆ ที่เราสามารถเช็คอินได้ก่อนกันค่ะ 
1. เช็คอินทางเว็บไซต์
ถือว่าเป็นอะไรที่ง่ายสุดๆการเช็คอินออนไลน์ ทำที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ตภายในประมาณ 24 ชั่วโมงและ 2 ชม.ก่อนเครื่องออก และคุณก็ยังสามารถพิมพ์บอร์ดดิ้งพาสหรือบัตรโดยสารขึ้นเครื่องออกมาจากเครื่องพิมพ์ของคุณได้เลย หรือไม่คุณอาจจะใช้ตู้เช็คอินแบบบริการตัวเอง (บางสายการบินในบางประเทศให้บริการนี้) ที่เทอร์มินอลและพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องจากที่นั่นก็ได้อย่างรวดเร็ว และหากคุณต้องโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องบิน เพียงไปเช็คอินกระเป๋าที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน (ซึ่งมักจะแยกคิวเช็คอินสำหรับออกบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง ทำให้คิวเช็คอินกระเป๋าเดินเร็วกว่า) โดยทั้งหมดนี้ควรจัดการให้เสร็จเรียบร้อยหนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง
ในปัจจุบันสายการบินทั้งภายในและต่างประเทศได้เปิดให้บริการการเช็คอินผ่านเว็บไซต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารกันแล้วทุกสายการบิน
ข้อดี สามารถเช็คอินจากที่บ้านได้ ไม่ต้องรอคิว มีเวลาเผื่อคิวที่ตม. (ด่านตรวจคนเข้าเมือง) และจุดตรวจค้นที่เช็คสัมภาระขึ้นเครื่อง รวมทั้งยังเอาเวลาที่เหลืออีกนิดไปเดินดูสินค้าปลอดภาษีได้อีกด้วยนะคะ

ขั้นตอนการเช็คอินออนไลน์
ทุกสายการบินนั้นมีขั้นตอนในการเช็คอินออนไลน์ที่คล้ายคลึงกัน โดยคุณต้องเข้าไปที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเพื่อเช็คอินตามเวลาที่สายการบินกำหนดไว้ แล้วกรอกข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอาทิเช่น หมายเลขการจองตั๋ว ชื่อ-สกุลภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ข้อมูลหนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ อีเมล และรายละเอียดอื่นๆ จากนั้นเมื่อคุณยืนยันข้อมูลเสร็จเรียบร้อยสายการบินก็จะส่งบอร์ดดิ้งพาสให้ทางอีเมลและ/หรือแสดงในแอปพลิเคชันก็เป็นอันจบการเช็คอิน แค่นี้เอง!

ข้อควรระวัง การกรอกข้อมูลนั้นสำคัญมากที่จะต้องไม่ผิดเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว เพราะนั่นอาจหมายถึงการปฏิเสธการให้บริการได้เลย และจำเป็นต้องพิมพ์บอร์ดดิ้งพาสออกมาเป็นกระดาษติดตัวไปด้วยทุกครั้ง ยกเว้นสายการบินบางแห่งที่ให้บริการแบบ e-Ticket

2. ตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง
สายการบินใหญ่ๆ ในสนามบินใหญ่ๆ ในญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมัน อเมริกา จะมีตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง ซึ่งจะเปิดให้บริการประมาณ 24 ชั่วโมงถึง 90 นาทีก่อนเครื่องออก (ขึ้นอยู่กับสายการบิน) โดยปกติแถวคิวที่ตู้เช็คอินนี้จะสั้นกว่าเนื่องจากขั้นตอนนั้นรวดเร็วกว่า คือ สแกนหนังสือเดินทางและ/หรือตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งอาจต้องพิมพ์ออกมาจากบ้าน) เลือกจุดหมายปลายทางและยืนยันที่นั่งที่คุณเลือก จากนั้นเครื่องจะแสดงรายละเอียดเที่ยวบินของคุณและจะพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องของคุณออกมา หากมีกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง ก็ให้นำไปเช็คที่จุดวางกระเป๋าของสายการบิน เท่านี้ก็เรียบร้อย

*ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดให้มีระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Auto Check-in System) หรือระบบ CUSS ซึ่งช่วยลดเวลาในการเช็คอินของผู้โดยสาร ทำให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้มีจุดบริการอยู่ทั้งหมด 2 จุด บริเวณชั้น 4 ระหว่างประตู 3 กับ 4 และประตู 6 กับ 7 ค่ะ
*ท่าอากาศยานดอนเมืองได้จัดให้มีระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Auto Check-in System) ทั้งของสนามบินเองและของสายการบินต่างๆ ครบครันทั้ง 2 อาคาร (ภายในประเทศและต่างประเทศ) ซึ่งช่วยลดเวลาในการเช็คอินต่างๆ ของผู้โดยสาร ทำให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นสายการบินที่คุณจะเดินทางไปด้วยนั้นอาจไม่มีบริการตู้เช็คอินดังกล่าวเลย หรือหากไม่เปิดให้บริการตามเส้นทางเฉพาะของคุณ หรือหากไม่มีตู้ดังกล่าวที่เทอร์มินอลนั้นๆ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบก่อนเลือกวิธีนี้ นอกจากนี้ เด็กๆ ที่เดินทางโดยลำพังมักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานตู้ดังกล่าว และสายการบินบางสายอาจสงวนสิทธิ์ในการใช้ตู้เหล่านี้เฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่องเท่านั้นค่ะ

3. การเช็คอินผ่านมือถือ
นอกเหนือจากการอัพเดทสถานะในเฟสบุ๊ค หรือลงรูปบนอินสตาแกรม มาลองใช้ประโยชน์จากมือถือด้วยการเช็คอิน โดยให้ไปที่เว็บไซต์ของสายการบินและเตรียมพร้อมรายละเอียดการจองตั๋วเครื่องบินของคุณไว้ให้พร้อม ใส่รายละเอียดลงไปและกดที่ปุ่ม “เช็คอิน” และรอให้ได้ข้อความส่งเข้ามือถือซึ่งเป็นข้อความที่ใช้แทนบัตรขึ้นเครื่องของคุณ เมื่อคุณมาถึงประตูขาออก พนักงานของสายการบินจะสแกนข้อความในมือถือของคุณอย่างง่ายดาย ในปัจจุบันนี้ถือเป็นวิธีการเช็คอินที่นิยมทำกันมากที่สุดและสะดวกรวดเร็วมากที่สุด ที่สำคัญสายการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศก็ได้เปิดให้บริการการเช็คอินผ่านแอปพลิเคชันกันหมดแล้วทุกสายการบิน

อย่างไรก็ตามการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดและอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับบางท่านอยู่นะคะ  แม้ว่าท่านจะได้ดำเนินการเช็คอินด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว แต่เราขอแนะนำให้มาถึงสนามบินก่อนเวลาออกเดินทางแต่เนิ่นๆ เพราะอาจต้องต่อคิวยาว หรืออาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ด้วย  ด้วยเหตุผลที่ว่ามันคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ถือเป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุดและได้เห็นความสำคัญของการเดินทางอีกด้วยค่ะ
ท่านไหนที่กำลังมองหาที่ท่องเที่ยวแต่ยังไม่รู้จะไปประเทศไหน อย่าลืมเข้าแวะไปชมโปรแกรมทัวร์ทั้งหมดของเราที่ www.travelzeed.com นะคะ มีทุกประเทศให้คุณได้เลือกเดินทางพร้อมคัดสรรมาหมดแล้วว่าราคาถูกและดีมีอยู่จริง

?สอบถามข้อมูล : https://lin.ee/VKAaDt0
☎️ เบอร์ติดต่อบริษัท 02-108-7900
?เบอร์ติดต่อเซล 081-573-9944 (เบียร์)
?เบอร์ติดต่อเซล 062-103-3313 (เติ้ล)
?เบอร์ติดต่อเซล 099-432-9990 (อาย)
?เบอร์ติดต่อเซล 081-639-8333 (ชะเอม)
?Email: contact@travelzeed.com
?Line ID: @travelzeed (มี@นำหน้านะคะ)

Facebook Comments
Scroll to Top