หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางในประเทศจีนที่เต็มไปด้วยภูเขาหินรูปทรงแปลกตา ธรรมชาติสุดตระการตา และวัฒนธรรมพื้นถิ่น “จางเจียเจี้ย” คือสถานที่ที่คุณต้องไม่พลาด เมืองมรดกโลกที่โด่งดังจากภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Avatar และยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน สำหรับบทความนี้ Travelzeed จะพาคุณไปทำความรู้จักกับจางเจียเจี้ย พร้อมแนะนำ 5 สถานที่ไฮไลท์ยอดฮิต ที่จะทำให้ทริปจีนของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจแบบไม่รู้ลืม แต่ก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับจางเจียเจี้ยกันก่อนดีกว่า!
ทำความรู้จักกับจางเจียเจี้ย
จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie) คือเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน โดดเด่นด้วยภูเขาหินทรายสูงชะลูด ปกคลุมด้วยหมอก จนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพในความฝัน จนถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างฉาก “ภูเขาลอยฟ้า” ในภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Avatar นั่นเอง
นอกจากนี้ จางเจียเจี้ย ยังเป็นสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็น อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี พ.ศ. 2535 ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งภูเขา ถ้ำ น้ำตก และทะเลหมอก จึงไม่น่าแปลกใจที่จางเจียเจี้ยจะถูกจัดให้อยู่ในระดับ 5A ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของแหล่งท่องเที่ยวตามมาตรฐานของประเทศจีน
จางเจียเจี้ย อยู่ที่ไหน?
เมือง จางเจียเจี้ย ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน (Hunan Province) ทางตอนใต้ของประเทศจีน ห่างจากกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้หลายร้อยกิโลเมตร แต่สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางเครื่องบินและรถไฟความเร็วสูง
บริเวณนี้มีภูมิประเทศแบบภูเขาสลับซับซ้อน จึงเต็มไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ โดยจุดท่องเที่ยวหลักอยู่ในเขต อู่หลิงหยวน (Wulingyuan Scenic Area) ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาหินรูปทรงแปลกตานับพันยอด เช่น เขาเทียนจื่อซาน (Tianzi Mountain), เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain) และสะพานกระจกที่โด่งดังไปทั่วโลก
ที่มาของเมืองจางเจียเจี้ย
เมืองจางเจียเจี้ย หรือที่มีความหมายว่า “บ้านของตระกูลจางที่อยู่ติดขอบเขา” เป็นเมืองที่มีความงดงามทางธรรมชาติและเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมพื้นถิ่น ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เดิมทีเมืองนี้มีชื่อว่า “ต้าหยง” ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าสองพันปี และเป็นถิ่นฐานของชนเผ่าดั้งเดิมอย่าง เผ่าถู่เจียและเผ่าเหมียว ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้านเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ในปี พ.ศ. 2537 รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจากต้าหยงมาเป็น “จางเจียเจี้ย” เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก การเปลี่ยนชื่อในครั้งนั้นไม่เพียงเพื่อสร้างการจดจำที่ง่ายขึ้นในสายตานักท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงการรวมตัวของมรดกธรรมชาติกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง
จางเจียเจี้ยจึงไม่ใช่เพียงจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นดินแดนที่เล่าเรื่องราวของผู้คน ชาติพันธุ์ และตำนานท้องถิ่น ผ่านภูเขาหินทรายสูงชะลูด แม่น้ำลำธารใส และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวอย่างแนบแน่น
ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวจางเจียเจี้ย!
1. สะพานกระจก (Zhangjiajie Glass Floor Bridge)
สะพานกระจกหรือสะพานแก้ว เป็นสะพานกระจกที่ยาวและสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงเหนือก้นเหวถึง 300 เมตร กว้าง 6 เมตร และยาว 400 เมตร สะพานนี้เป็นทางเชื่อมระหว่าง 2 ภูเขา ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 800 คนเลยทีเดียว ตอนสร้างเสร็จมีการทดสอบโดยการขับรถยนต์บนสะพานด้วยนะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเลย!
นอกจากความสูงที่น่าหวาดเสียวแล้ว ทิวทัศน์รอบ ๆ ยังสวยอีกด้วย โดยข้างล่างจะเป็นแกรนด์แคนยอน ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ของจางเจียเจี้ย รับรองว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจางเจียเจี้ยแน่นอน!
2. ทะเลสาบเป่าเฟิงหู (Baofeng Lake)
ทะเลสาบเป่าเฟิงหู อยู่ห่างจากอุทยานจางเจียเจี้ยประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและต้นไม้ อยู่ใจกลางเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ อู่หลิงหยวนของเมืองจางเจียเจี้ย เกิดจากการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำจนพื้นที่นี้กลายเป็นทะเลสาบที่มีพื้นที่ราว 30 กิโลเมตร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
กิจกรรมในทะเลสาบเป่าเฟิงหูคือการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ทะเลสาบ ระหว่างล่องเรือจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งน้ำที่ใสสะอาดของทะเลสาบ ต้นไม้สีเขียวชอุ่ม และอากาศบริสุทธิ์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ซึ่งบริเวณน้ำตกแห่งนี้เคยเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Journey to the West” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ไซอิ๋ว” นั่นเอง
3. เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain)
เขาเทียนเหมินซาน หรือ ประตูสวรรค์ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย และเป็น 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวยที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน ภูเขามีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 1,518 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่นับว่าสูงที่สุดในจางเจียเจี้ย โดยอุทยานสร้างบันไดไว้ถึง 999 ขั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปชมถ้ำด้านบน แต่ถ้าหากใครเดินไม่ไหว ทางอุทยานก็ได้สร้างบันไดเลื่อนไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วย
ความอัศจรรย์ คือ ภูเขาเทียนเหมินซานเกิดจากการระเบิดทางธรรมชาติ หน้าผาของภูเขาซ่งเหลียง ที่สูงกว่าพันเมตรเกิดถล่มลงมา ทำให้เกิดช่องว่างของถ้ำขนาดใหญ่คล้ายช่องประตูยักษ์ หากมองจากข้างล่างจะดูเหมือนประตูขึ้นสู่สวรรค์ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ประตูสวรรค์ (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan)” นั่นเอง
4. เขาเทียนจื่อซาน (Tianzi Shan)
เขาเทียนจื่อซาน หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า “หุบเขาอวตาร” มีเนื้อที่ประมาณ 65 กิโลเมตร และสูงประมาณ 1,250 เมตร ทางด้านทิศตะวันออก โดยที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาหินปูนที่สูงเสียดฟ้า รูปร่างหินมีลักษณะแปลกตา ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม และที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี พ.ศ. 2535 อีกด้วย
จุดเด่นของเขาเทียนจื่อซาน คือ เทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว (สะพานหนึ่งใต้หล้า) ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่างเรื่อง อวตาร (Avatar) โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนยอดเขาได้โดยรถกระเช้า หรือลิฟต์แก้วที่สูงที่สุดในโลก หากใครมาเที่ยวจางเจียเจี้ย ห้ามพลาดสถานที่ไฮไลท์นี้เชียว!
5. เมืองเฟิ่งหวง (Fenghuang)
เมืองเฟิ่งหวง หรือ เมืองโบราณเฟิ่งหวง เป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างในสมัยราชวงศ์ชิง มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งชื่อของเมืองฟ่งหวง แปลว่า หงส์ โดยศูนย์กลางของหมู่บ้านจะมีรูปปั้นนกหงส์ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ ตั้งอยู่กลางหุบเขาและมีแม่ถัวเจียงน้ำไหลผ่านสองฝั่ง ทำให้เป็นเมืองที่สวยงามและโรแมนติก อีกทั้งภายในเมืองยังมีสถานที่อันเก่าแก่ที่ถูกรักษาไว้อย่างดี จึงทำให้ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
บรรยากาศภายในเมืองเหมาะแก่การมาพักผ่อนมาก อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่น ช่วงเช้า ๆ อาจจะเห็นชาวบ้านใช้น้ำในแม่น้ำในการซักผ้า ล้างผัก ล้างปลา ล้างสิ่งของ สงสัยใช่ไหมล่ะคะ ว่าทำไมน้ำในแม่น้ำยังสะอาด เป็นเพราะคนจีนไม่ได้ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำจึงทำให้แม่น้ำถัวเจียงยังคงมีสภาพดีอยู่นั่นเอง