7 จุดไฮไลท์ที่ต้องไปเช็คอินที่คามิโคจิ

UPDATE 2024 ข้อมูลเที่ยวคามิโคจิพร้อม 7 จุดไฮไลท์ที่ต้องไปเช็คอิน

       คามิโคจิ (上高地) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีบึงกับแม่น้ำที่ใสเหมือนกับกระจกที่สะท้อนกับท้องฟ้า ถือว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์และสวยที่สุดอีกหนึ่งแห่งในญี่ปุ่น คามิโคจิเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติจูบุซังกะคุ (中部山岳国立公園) ที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือในจังหวัดนากาโนะ

       ข้อดีของคามิโคจิคือนักท่องเที่ยวที่ไม่ชำนาญในการเดินป่าก็สามารถท่องเที่ยวได้ เพราะเส้นทางเดินป่าแต่ละจุดง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ ใช้เวลาไม่นานก็เดินจบได้ภายใน 1 วัน พร้อมกับมีรถบัสรอรับส่งที่สถานีคามิโคจิ

คามิโคจิ

คามิโคจิ (Kamikochi) เปิดช่วงไหน? 

โดยปกติแล้วคามิโคจิจะเปิดทุกวันที่ 17 เมษายน – 15 พฤษจิกายน ของทุกปี ปี 2024 ก็เช่นกัน (ถ้าไม่มีประกาศเปลี่ยนแปลงก็จะเป็นช่วงนี้เลย)

ช่วงที่ควรไป คามิโคจิ(Kamikochi)

ถึงจะเปิดแค่ครึ่งปี แต่ฤดูเที่ยวก็ครอบคลุมและสวยทุกช่วงจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาว อยากเที่ยวแบบไหน ช่วงไหนไปดูกัน

ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-มิถุนายน)

เริ่มตั้งแต่เปิดอุทยานในช่วงเมษายน ต้นไม้ภูเขา เขียวชะอุ่ม ชุ่มชื่นหัวใจ พร้อมอากาศเย็นสบายที่ยังไม่จางไปจากฤดูหนาว (ที่อุทยานปิด) บางทีหิมะก็ยังไม่ละลายดี โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ 1 – 19 องศาเซลเซียส 

แต่เป็นช่วงที่อุทยานพึ่งเปิดทำการได้ไม่นานหลังจากผ่านฤดูหนาวมา ดังนั้นในช่วงนี้ ร้านค้า โรงแรมบางแห่งอาจจะยังไม่เปิดให้บริการเท่าไหร่นัก

ฤดูร้อน(กรกฎาคม-กันยายน)

แม้จะเรียกว่าเป็นฤดูร้อน แต่อากาศก็ไม่ได้ร้อนเท่าประเทศไทย เพราะอุณหภูมิจะอยู่ที่ 12 – 24 องศาเซลเซียส ความรู้สึกแบบเปิดแอร์เบา ๆ ที่บ้านเรา

ซึ่งคามิโคจิจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าโตเกียว 5 – 10 องศาเซลเซียส เป็นฤดูยอดนิยมที่คนญี่ปุ่นมาหลบร้อน และยังเป็นฤดูกาลแห่งการปีนเขาอีกด้วย

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี(กันยายน-พฤศจิกายน)

ช่วงที่สวยที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นช่วงที่ใบไม้ต่าง ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง-ส้มเต็มทั่วท้องอุทยาน โดยช่วงต้นฤดูจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 10 – 14 องศาเซลเซียส ส่วนปลายฤดูจะติดลบ 4 – 9 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้อากาศยังเริ่มเย็นเพราะเข้าใกล้ฤดูหนาวด้วย บอกเลยว่าถ้าใครหาที่เที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ควรเก็บคามิโคจิเข้าลิสต์ไว้เลย!  

ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)

เป็นช่วงที่อุทยานปิดทำการ ร้านค้า โรงแรม ต่าง ๆ ในอุทยานจะปิดให้บริการทั้งหมด แต่หากต้องการมาเที่ยวชมจำเป็นต้องมีไกด์ท้องถิ่นไปด้วยเพื่อดำเนินการยื่นแบบฟอร์มก่อนเข้าอุทยาน และใส่รองเท้าสโนว์ชูทส์เดินเข้าไปเอง 

คามิโคจิ ใบไม้เปลี่ยนสี

ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไป คามิโคจิ

  • ไม่สามารถนำรถส่วนตัวเข้าพื้นที่ได้
  • ไม่ควรเข้าใกล้ หรือ ให้อาหารสัตว์ป่า
  • ไม่ทิ้งขยะในอุทยาน
  • จะมีค่าบำรุงในการเข้าใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ
  • จำเป็นต้องพกแผนที่เดินป่า (สำหรับคนที่เดินป่า)
  • เพื่อให้ทำธรรมชาติได้ฟื้นฟู ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม จะปิดให้บริการทั้งหมดรวมถึงรถโดยสารด้วย (ในช่วงฤดูหนาว)

การเดินทางไป คามิโคจิ (Kamikochi)

รถส่วนตัว

รถบัส

โตเกียว – คามิโคจิ 

  • ขึ้นรถบัสที่สถานีชินจูกุ เทอมินอล (Shinjuku bus terminal) ยาวถึงสถานีคามิโคจิ (Kamikochi) ได้เลย 
  • ระยะเวลา : ประมาณ 4 ชั่วโมง 50 นาที หรือ 7 ชั่วโมง
  • ราคา : 6,700 – 9,700 เยน

รสบัสด่วนพิเศษ (Expressway Bus) 

  • รถบัสด่วนจากโตเกียว ➝ สถานีมัตสึโมโต้ (Matsumoto) >> รถไฟที่สถานีมัตสึโมโต้ (Matsumoto station) >> สถานีรถไฟชินชิมะชิมะ (Shinshimashima) >> รถบัสประจำทางชินชิมะชิมะ เทอมินอล (Shinshimashima Bus Terminal) >> สถานีคามิโคจิ (Kamikochi)
  • ระยะเวลา : 6 – 7 ชั่วโมง
  • ราคา : 8,900 เยน (รวมค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง)

นาโกย่า – คามิโคจิ

  • นั่งบัสด่วนพิเศษที่สถานีนาโกย่า (Nagoya Station) >> สถานีคามิโคจิ (Kamikochi) จะวิ่งในเดือนกรกฎาคม – เดือนตุลาคมเท่านั้น
  • ระยะเวลา : 6 – 7 ชั่วโมง
  • ราคา : 7,800 เยน

ทาคายาม่า – คามิโคจิ

  • นั่งรสบัสที่สถานีนาโกย่า (Nagoya Station Bus Stop) >> สถานีทาคายาม่า (Takayama Nohi Bus Center) >> ฮิระยุ ออนเซ็น (Hirayu Onsen) หรือ บัสฮิระยุ เทอมินอล (Hirayu Bus Terminal) >> สถานีคามิโคจิ (Kamikochi)
  • ระยะเวลา : 3 – 4 ชั่วโมง
  • ราคา : 5,710 เยน

โอซาก้า – คามิโคจิ

  • นั่งบัสจากสถานีโอซาก้า (Osaka Station)  >> ชินโอซาก้า (Shin-Osaka Station) >> สถานีคามิโคจิ (Kamikochi)
  • ระยะเวลา : 7 – 8 ชั่วโมง
  • ราคา : 7,700 – 8,900 เยน

7 จุดไฮไลท์ที่ต้องไปเช็คอิน เมื่อมาถึงคามิโคจิ 

      คามิโคจิ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวญี่ปุ่นมักมาใช้เวลาร่วมกับครอบครัว คนรัก หรือ เพื่อน เพื่อหลบร้อน เพราะคามิโคจิจะมีอุณภูมิต่ำกว่าที่อื่นถึง 10 องศาเซลเซียส ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำ 7 จุดไฮไลท์ที่เมื่อมาคามิโคจิแล้วจะพลาดไม่ได้ค่ะ

คามิโคจิ

1.บึงไทโช (大正池)

       บึงไทโช เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคามิโคจิ อยู่ใกล้กับเขื่อนกั้นแม่น้ำอาซูสะ ซึ่งบรรยากาศของบึงน้ำที่ใสจนสะท้อนเห็นภูเขาและป่าโดยรอบ ทำให้ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

คามิโคจิ บึงไทโช

2.สะพานคัปปะ (河童橋)

       สะพานคัปปะ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นพิเศษเพราะขึ้นชื่อว่าถ่ายรูปสวย เป็นสะพานไม้แขวนข้ามแม่น้ำอาซูสะอยู่ใจกลางคามิโคจิ เมื่อข้ามสะพานไปจะมีโรงแรม ร้านค้าให้บริการอยู่ และสะพานแห่งนี้ยังเคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับนวนิยายเรื่อง Kappa ของ Ryunosuke Akutagawa อีกด้วย

คามิโคจิ สะพานคัปปะ

คามิโคจิ

คามิโคจิ

คามิโคจิ

3.บึงทะชิโระ (田代湿原)

       บึงทะชิโระ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดในคามิโคจิ ตั้งอยู่ริมเส้นทางการเดินป่าที่เชื่อมระหว่างสะพานคัปปะและสระน้ำไทโช นอกจากจะมีภูเขาล้อมรอบแล้วยังมีดอกซาเลีย และดอกซากิสุเกะ ที่สามรถชมได้ในฤดูร้อน และจะเปลี่ยนเป็นสีขาวในฤดูใบไม้ร่วง

คามิโคจิ บึงทะชิโระ

4.บึงดาเกะซาวะ (岳沢湿原)

       บึงดาเกะซาวะ เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งที่ที่มีความสวยงาม และสงบไม่แพ้กับสะพานคัปปะ อยู่ห่างจากสะพานคัปปะเพียงแค่เดิน 5 – 10 นาทีตามเส้นทางก็ถึงบึงแล้ว

คามิโคจิ บึงดาเกะซาวะ

5.บึงเมียวจิน (明神池)

       บึงเมียวจิน เป็นบึงน้ำที่ใสราวกับคริสตัล ที่นี่มีศูนย์กลางบ้านพัก ร้านค้า และศาลเจ้าโฮทากะ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยจะมีพิธีกรรมแบบชินโต เรียกว่า โอะฟุเนะมัตสึริ หรือ เทศกาลเรือ จัดในวันที่ 8 ตุลาคม ของทุกปี เป็นพิธีสักการะเทพเจ้าโดยให้ธรรมชาติเป็นสื่อกลาง

บึงเมียวจิน

6.แม่น้ำอะซุสะ (梓川)

       แม่น้ำอาซุสะ เป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากน้ำพุที่อยู่ลึกเข้าไปในเขาแอลป์ตอนเหนือ และมีสีฟ้าใสราวกับกระจก ผู้คนต่างพูดว่าคามิโคจินั้นจะไม่เป็นคามิโคจิเลย ถ้าไม่มีแม่น้ำอะซุสะ ซึ่งชื่ออาซุสะนั้นได้มาจากต้นไม้ที่ได้รับการยกย่องตั้งแต่สมัยโบราณในด้านความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น จึงมีพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นนำไปตั้งชื่อให้ลูกเลยทีเดียวค่ะ

แม่น้ำอะซูสะ

7.สถานที่ตั้งแคมป์โคะนาชิไดระ (小梨平)

       สถานที่ตั้งแคมป์โคะนาชิไดระ เป็นสถานที่ตั้งแคมป์ที่อยู่ห่างจากสถานีรถบัสคามิโคจิเพียงเดินเท้า 15 นาที ที่นี่จะมีร้านค้าเล็ก ๆ พร้อมกับโรงอาบน้ำสาธารณะให้ใช้ และหากไม่ต้องการตั้งแคมป์ก็มีบ้านพักที่มีของอำนวยความสะดวกครบครันแม้จะอยู่กลางป่าให้บริการอีกด้วย

สถานที่ตั้งแคมป์

รีวิวเที่ยวคามิโคจิฉบับ Travelzeed

      ต้องบอกว่าคามิโคจิเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ดูผ่านรูปว่าสวยแล้ว ไปเห็นที่เที่ยวจริง ๆ ว้าวกว่ามากค่ะ เพราะบรรยากาศโดยรอบทำเอาคิดว่าไม่มีอยู่จริงกันเลยทีเดียว

คามิโคจิ

ที่ที่เราพาไปชมกันวันนี้เป็นจุดแลนมาร์คที่ชื่อว่า สะพานคัปปะ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวพากันไปถ่ายรูปเยอะที่สุดค่ะ

คามิโคจิ

จะเห็นว่าน้ำที่คามิโคจิใสมาก เหมือนกับคริสตัลเลยค่ะ

คามิโคจิ

คามิโคจิ

คามิโคจิ

บทสรุป

       เป็นยังไงกันบ้างคะ จากที่ได้เห็นภาพธรรมชาติและการแนะนำคามิโคจิไป รู้สึกถึงความสวยงามของป่ากำลังบำบัดเราเลยใช่ไหมคะ? นอกจากคามิโคจิแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากในญี่ปุ่นที่รอให้คุณได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่ง Travelzeed เองก็มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น หลายโปรแกรมที่น่าสนใจ และทัวร์ต่างประเทศอีกมากมาย หากสนใจติดต่อได้ที่ Line ID : @travelzeed หรือ โทร 02-108-7900

Facebook Comments
Scroll to Top