ปาลาวัน (Palawan) เกาะที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามว่าเป็น “เกาะที่ดีที่สุดในโลก” จากนิตยาสารชื่อดังอย่าง Travel + Leisure หรือ National Geographic Traveler ด้วยเพราะความสมบูรณ์ของธรรมชาติ น้ำใส หาดทรายขาว เหมือนเกาะที่ยังไม่ได้รับการบุกรุกจากมนุษย์มากนัก ฉายา “เกาะสวรรค์แห่งฟิลิปปินส์” จะเป็นยังไง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับปาลาวันให้มากขึ้น
“ปาลาวัน” หมู่เกาะใหญ่แห่งฟิลิปปินส์
ปาลาวัน เป็นจังหวัดและหมู่เกาะทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ด้วยจำนวนหมู่เกาะและเกาะเล็กเกาะน้อยรวมกันมากกว่า 1,780 แห่ง ทำให้ปาลาวันเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ เกาะหลักคือเกาะปาลาวัน ซึ่งมีความยาวประมาณ 450 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 50 กิโลเมตร และเกาะอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วย (บางคนอาจจะรู้จักเกาะชื่อดังอย่าง El nido หรือ Coron)
เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่คือ “Puerto Princesa” ภาษาที่ใช้กันโดยทั่วไปเลยคือภาษาตากาล็อก ควบคู่ไปกับภาษาพื้นเมือง เช่น ภาษาคูโยนอน ภาษาปาลาวาโน คนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้พอสมควรเลย ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง
- “ปาลาวัน” หมู่เกาะใหญ่แห่งฟิลิปปินส์
- เที่ยวปาลาวันช่วงไหนดี?
- ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเที่ยวปาลาวัน
- วิธีเดินทางไป ปาลาวัน
- 9 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เมื่อไป “ปาลาวัน”
- 1. อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซา (Puerto Princesa Underground River)
- 2. อ่าวบาคุย (Bacuit Bay)
- 3. โครอน (Coron)
- 4. ทับบาตาฮา รีฟ (Tubbataha Reef)
- 5. ฮอนด้า เบย์ (Honda Bay)
- 6. แม่น้ำ Iwahig และ Kitu-Kito
- 7. Las Cabanas Beach
- 8. เกาะมาลายอน Malajon Island
- 9. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะคาลาวิต (Calauit Safari Park)
- บทส่งท้าย
เที่ยวปาลาวันช่วงไหนดี?
ปาลาวันมีภูมิอากาศแบบเขตร้อน โดยจะมี 2 ฤดูกาลหลักคือ ฤดูแล้ง และ ฤดูฝน แต่ละฤดูจะกินเวลาประมาณ 6 เดือน รวม ๆ แล้วอุณหภูมิจะอุ่นตลอดทั้งปี ประมาาณ 24°C ถึง 29°C
ฤดูแล้ง: เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม – พฤษภาคม ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมาก ๆ เพราะท้องฟ้าที่นี่จะแจ่มใสคลื่นทะเลสงบ เดือนที่เป็น เดอะ-เบส เลยก็ช่วงมกราคม – มีนาคม เป็นช่วงที่อากาศดีและมีฝนน้อยที่สุด
ฤดูแล้งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับกิจกรรมทางน้ำมาก ๆ เช่น การตะลุยทัวร์เกาะต่าง ๆ ดำน้ำตื้น-ลึก และการพักผ่อนบนชายหาด
ฤดูฝน: ในฤดูฝน ช่วงมิถุนายน – ต้นตุลาคม ฝนจะไม่ได้ตกตลอดเวลาอย่างที่เราคิด แถมช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มบอกว่า ฝนตกน้อยกว่าที่คิด ข้อดีของการเที่ยวฤดูนี้คือราคาตั๋วและที่พักจะถูกมาก แถมนักท่องเที่ยวยังน้อย ใครอยากประหยัดงบแนะนำเลย!
ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเที่ยวปาลาวัน
- ฟิลิปปินส์เวลาเร็วกว่าไทย 1 โมง (UTC+8)
- คนไทยท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ได้ 30 วัน แบบไม่ต้องขอวีซ่า
- คนฟิลิปปินส์ใช้สกลุเงินเปโซ (PHP) 1 PHP = ~ 60 Thai baht
- แนะนำให้แลกเงินไป เนื่องจากบางแห่งไม่มีแลกเงินหรือรับบัตร
วิธีเดินทางไป ปาลาวัน
STEP 1 : บินจากกรุงเทพฯ ไปฟิลิปปินส์
สำหรับที่ไทยนั้น ยังไม่มีบินตรงไปปาลาวันนะ จะเป็นการต่อเครื่องไปลงที่ มะนิลา(MNL) หรือ เซบู(CEB) แทน
- ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
- ส่วนใหญ่คนจะเลือกไปลงที่มะนิลา เพราะค่าตั๋วถูกกว่าเซบูและปรินโตเซสซ่า
- สายการบินที่บินไปยัง MNL, CEB ได้แก่ Philippine Airlines, Cebu Pacific, AirAsia, Thai Airways และ Scoot (บางช่วง)
STEP 2 : ต่อเครื่องไปยัง “ปาลาวัน”
เราสามารถเลือกลงได้ 3 สนามบิน ได้แก่ Puerto Princesa (PPS), El Nido (ENI) และ Busuanga / Coron (USU)
- ใช้เวลาต่อเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง
- สายการบินที่บินไปยังปาลาวันได้แก่ Cebu Pacific, Philippine Airlines, AirSWIFT (บินไป El Nido โดยตรง) และ Sunlight Air (บางช่วง)
STEP 3 : เดินทางจากสนามบินไปยังเกาะต่าง ๆ
การเดินทางสามารถทำได้ 3 ทางคือ ไปด้วยรถแท็กซี่ รถตู้ หรือ เรือ (เรือจะแพงกว่า) โดยปกติแล้วการเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ จะใช้เวลาประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง
9 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เมื่อไป “ปาลาวัน”
1. อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซา (Puerto Princesa Underground River)
ปูเวร์โตปรินเซซา ถูกตั้งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO ในปี 1999 และเป็นหนึ่งในแม่น้ำใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก(ยาวประมาณ 8 กิโลเมตร) เราสามารถนั่งเรือเข้าไปชมถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย
2. อ่าวบาคุย (Bacuit Bay)
อ่าวบาคุย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปาลาวันใกล้กลับ El nido เป็นหนึ่งในเกาะที่ ห้ามพลาด!! เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามมาก ๆ ที่นี่เป็นเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในทะเลสีฟ้าใส เราสามารถล่องเรือตะลุยไปยังเกาะต่าง ๆ เช่น Big Lagoon, Small Lagoon และ Secret Lagoon ได้ (แถวนี้มีเกาะประมาณ 45 แห่ง)
3. โครอน (Coron)
ใครสายดำน้ำปักหมุดเลย! Coron เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ดังมาก ๆ เพราะมีน้ำทะเลสาบใสราวกับคริสตัล มีแนวปะการังให้ชม และจุดไฮไลท์ของคนที่ชอบดำน้ำเลยคือ ซากเรือจมจากสงครามโลกครั้งที่สอง เต็มไปด้วยสถานที่ย่อย ๆ เช่น
- *แนะนำ* ทะเลสาบคายางกัน (Kayangan Lake) – ทะเลสาบน้ำจืดใสที่สุดในฟิลิปปินส์
- ทะเลสาบบาร์ราคูด้า (Barracuda Lake) – จุดดำน้ำที่อุณหภูมิน้ำที่เปลี่ยนตามความลึก
- *แนะนำ*ลากูนแฝด (Twin Lagoon) – ลากูนสองฝั่งที่เชื่อมกันด้วยช่องหิน
- บ่อน้ำพุร้อนมากีนิต (Maquinit Hot Spring) – น้ำพุร้อนธรรมชาติริมทะเล
- เกาะเจ็ดบาป (Siete Pecados)จุดดำน้ำตื้นยอดนิยมที่เต็มไปด้วยแนวปะการังและฝูงปลาใกล้ตัวเมืองโครอน
- หาดซีวายซี (CYC Beach) – หาดฟรี! น้ำใส ตื้น เหมาะกับปิกนิกหรือพายคายัค
- *แนะนำ* ซากเรือสเกเลตัน (Skeleton Wreck) – จุดดำน้ำชมซากเรือรบญี่ปุ่นที่จมช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
- ภูเขาทาเพียส (Mt. Tapyas) – จุดชมวิวเมืองโครอน เดินขึ้น 700 ขั้น แต่คุ้มวิวสุด!
4. ทับบาตาฮา รีฟ (Tubbataha Reef)
Tubbataha Reef แหล่งดำน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1993 ด้วยความที่เป็นแหล่งดำน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในฟิลิปปินส์ (มากกว่า 1,000 ชนิด) ห่างจากเมืองปวยร์โตปรินเซซาในจังหวัดปาลาวันประมาณ 150 กิโลเมตร เราจะสามารถพบเจอปลา ปะการัง ฉลาม วาฬและโลมาหลายสายพันธ์ได้จากที่นี่!
5. ฮอนด้า เบย์ (Honda Bay)
หากใครไม่มีเวลามาก Honda Bay เป็นจุดดำน้ำตื้นและล่องเรือที่ดีจุดหนึ่งเลย เพราะมีเกาะเล็ก ๆ หลายแห่งประมาณ 18 แห่ง ทำให้เป็นแหล่งตะลุยชมเกาะ (Island hopping) ได้เป็นอย่างดี เกาะที่น่าสนใจมีดังนี้
- Starfish Island – เกาะปลาดาว เป็นเกาะที่เราจะเจอปลาดาวเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธ์ (กุมภาพันธ์-มีนาคม)
- Pandan Island – เกาะที่มีคลื่นสงบ เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและดำน้ำตื้น
- Bat Island – เกาะค้างคาว เกาะที่เราจะพบค้างคาวนับพันตัว ซึ่งจะบินออกจากถ้ำในช่วงเย็น
- LuLi Island เป็นสันทรายที่จะโผล่มาในช่วงน้ำลง และจะหายไปในช่วงน้ำขึ้น
6. แม่น้ำ Iwahig และ Kitu-Kito
ที่แม่น้ำ Iwahig และ Kitu-Kito คือจุดที่เราสามารถล่องเรือพายผ่านป่าชายเลน ชมหิ่งห้อยนับพันที่ส่องแสงระยิบระยับตามต้นไม้ พร้อมชมแพลงก์ตอนเรืองแสงด้วย
7. Las Cabanas Beach
Las cabanas ชายหาดที่หันหน้าเข้าทางทิศตะวันตกและขึ้นชื่อเรื่องจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยติดอันดับต้น ๆ ของแถบเอลนิโด ใช้เวลาเพียง 10 – 15 นาที จากตัวเมืองเอลนิโดเท่านั้น นอกจากนี้ที่นี่ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารสวย ๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย
8. เกาะมาลายอน Malajon Island
เกาะดำ หรือที่รู้จักในชื่อท้องถิ่นว่า เกาะมาลายอน (Malajon Island) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบูซวงกา (Busuanga) ใกล้กับเมืองโครอน (Coron) เกาะนี้ได้ชื่อเกาะดำเพราะมีหน้าผาหินปูนสีดำตั้งอยู่แบบโดดเด่นสุด ๆ บนเกาะนี้ยังไม่มีร้านค้า หรือที่พัก ดังนั้นควรเตรียมตัวไปให้พร้อม
9. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะคาลาวิต (Calauit Safari Park)
อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเที่ยวทะเลมาเป็นเที่ยวซาฟารีบ้างมั้ย? ที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะคาลาวิต เกาะที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยมีการนำสัตว์ต่างๆ มาจากแอฟริกา เช่น ยีราฟ ม้าลาย และละมั่ง รวมถึงสัตว์ป่าพื้นเมืองของปาลาวัน ให้เราได้นั่งรถชมสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด