ระบบ EES คืออะไร

ระบบ EES คืออะไร? ทำไมคนไปเที่ยวยุโรป จำเป็นต้องรู้!

ข่าวด่วน!!! สำหรับใครที่กำลังจะมีแพลนไปเที่ยวยุโรป ต้องอ่านให้จบ!!! เพราะ สหภาพยุโรป (EU) ได้มีประกาศออกมาว่า จะมีการบังคับใช้ระบบตรวจคนเข้า – ออกในรูปแบบดิจิทัลใหม่ที่เรียกว่า EES – Entry/Exit System อย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป แทนการปั๊มตราบนหนังสือเดินทางแบบเดิม ในส่วนของรายละเอียดจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!!!

ระบบ EES คืออะไร?

Entry/Exit System คือระบบตรวจคนเข้า-ออกแบบใหม่ของสหภาพยุโรปที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data) มาจัดเก็บและบันทึกการเดินทางของบุคคลที่ถือหนังสือเดินทางนอก EU หรือบุคคลที่ไม่ไม่ใช่พลเมืองในกลุ่มประเทศเชงเก้น (29 ประเทศ) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สามารถเข้ายุโรปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า

แทนที่จะใช้วิธีปั๊มตราหนังสือเดินทางแบบเก่า โดย จะใช้การ สแกนพาสปอร์ต + ลายนิ้วมือ + ถ่ายภาพใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตนและบันทึกข้อมูลการเดินทาง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้นาน 3 ปี ทำให้ครั้งต่อไปที่เดินทางเข้ายุโรปสามารถผ่านด่านได้ง่ายและเร็วขึ้นมาก โดยจะทำการลงทะเบียนผ่านตู้ที่มีหน้าตานี้ 

ตู้คีออส (KIOSK) EES

ระบบสำคัญยังไง?

สำหรับคนไทยที่เดินทางไปยุโรปในกลุ่มประเทศเชงเก้น 29 ประเทศ แม้ว่าพาสปอร์ตของคุณยังมีวีซ่าเชงเก้นอยู่ หรือในกรณีที่ไม่ต้องขอวีซ่าใหม่ก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎการพำนัก ไม่เกิน 90 วันใน 180 วัน เหมือนเดิมอยู่นะคะ

ระบบใหม่จะบันทึกการเข้า–ออกอัตโนมัติ ทำให้สหภาพยุโรป (EU) สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าใครเข้ามาเมื่อไหร่ ออกเมื่อไหร่ และพำนักรวมแล้วกี่วัน

ประโยชน์ที่จะได้รับ

✅ ไม่ต้องปั๊มตราลงในหนังสือเดินทางอีกต่อไป

✅ เดินทางครั้งถัดไปผ่านด่านได้รวดเร็วขึ้น

✅ ลดความผิดพลาดในการนับวันพำนัก

✅ เพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในการตรวจคนเข้า–ออก

ขั้นตอนการลงทะเบียนมีอะไรบ้าง?

เมื่อเดินทางถึงสนามบินในยุโรป จะต้องทำการลงทะเบียนเพียง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ตู้คีออส (KIOSK) หรือ ตู้ด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนี้

  1. สแกนพาสปอร์ต – ระบบจะบันทึกข้อมูลหนังสือเดินทางอัตโนมัติ
  2. สแกนนิ้วมือ – ใช้ยืนยันตัวตนและป้องกันการปลอมแปลง
  3. ถ่ายรูปใบหน้า – เพื่อใช้เป็นข้อมูลชีวมิติ สำหรับการเดินทางในครั้งต่อ ๆ ไป

เพียงแค่ 3 ขั้นตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ และสำหรับครั้งถัดไปที่เดินทางเข้ายุโรป คุณก็สามารถผ่านระบบได้รวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ซ้ำทุกครั้งอีกด้วยนะ เป็นยังไงคะ ง่ายมากใช่ไหมล่ะ

ประเทศที่ใช้ระบบ EES

ประเทศกลุ่มเชงเก้น

ระบบนี้จะถูกบังคับใช้กับทุกประเทศในกลุ่มเชงเก้น (Schengen Area) จะมีทั้งหมด 29 ประเทศ ได้แก่

  • ยุโรปตะวันตก : ฝรั่งเศส (France), เยอรมนี (Germany), อิตาลี (Italy), สเปน (Spain), โปรตุเกส (Portugal), เนเธอร์แลนด์ (Netherlands), เบลเยียม (Belgium), ลักเซมเบิร์ก (Luxembourg)
  • ยุโรปเหนือ : เดนมาร์ก (Denmark), สวีเดน (Sweden), นอร์เวย์ (Norway), ฟินแลนด์ (Finland), ไอซ์แลนด์ (Iceland)
  • ยุโรปกลางและตะวันออก : ออสเตรีย (Austria), สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland), ฮังการี (Hungary), โปแลนด์ (Poland), เช็ก (Czechia), สโลวาเกีย (Slovakia), สโลวีเนีย (Slovenia), เอสโตเนีย (Estonia), ลัตเวีย (Latvia), ลิทัวเนีย (Lithuania), ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
  • ยุโรปใต้ : กรีซ (Greece), มอลตา (Malta), โครเอเชีย (Croatia), โรมาเนีย (Romania), บัลแกเรีย (Bulgaria)

ถึงแม้ระบบจะเริ่มต้นใช้ในวันที่ 12 ตุลาคม 2568 แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ บางสนามบินอาจยังมีการปั๊มตราลงบนพาสปอร์ตควบคู่ไปด้วย จนกว่าระบบจะสมบูรณ์เต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบภายในวันที่ 10 เมษายน 2569

คำถามที่พบบ่อย

บทส่งท้าย

การบังคับใช้ระบบ EES – Entry/Exit System ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสหภาพยุโรป ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และโปร่งใสในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงคนไทยอย่างเรา ๆ ด้วย ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยว ยุโรป ยิ่งควรรู้จักระบบใหม่นี้ไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
📌 และถ้าไม่อยากปวดหัวกับขั้นตอนการวางแผนการเดินทาง TravelZeed มี ทัวร์ยุโรป หลากหลายเส้นทางให้เลือกด้วยนะ รับรองว่าเที่ยวครบจบในที่เดียว มั่นใจได้ว่าเที่ยวสนุก คุ้มค่า และอุ่นใจทุกเส้นทางแน่นอน
—————————————————————————–
ที่มาข้อมูล : European Union

Facebook Comments
Scroll to Top