รวมทัวร์ทัวร์ตุรเคีย เริ่มต้นเพียง 29,888 บาท แลนด์มาร์คไหนดี ไฮไลท์ไหนเด่น ตามมาดูกันเลย

รวมทัวร์ทัวร์ตุรเคีย เริ่มต้นเพียง 29,888 บาท แลนด์มาร์คไหนดี ไฮไลท์ไหนเด่น ตามมาดูกันเลย
พูดถึงตุรเคียถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่หลายคนใฝ่ฝัน อยากจะไปเยือนสักครั้งด้วยทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา และเต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ บวกกับค่าครองชีพในราคาที่น่าคบหาทำให้การมาทัวร์ตุรเคียนั้นเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่น่าสนใจมากๆ อีกที่หนึ่ง

แลนด์มาร์คเมื่อมาถึงแล้ว พลาดไม่ได้เลยจริงๆ ก็น่าจะเป็นคัปปาโดเกีย (Cappadocia) มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (Katpatuka)  ดินแดนที่มีภูมิประเทศราวหลุดไปในเทพนิยาย แถมองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย เมื่อปี ค.ศ.1985 เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน

และอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงามมากๆ นักท่องเที่ยวหลั่งใหลกันเข้ามาที่นี่เพราะอยากชมภาพบรรยากาศความงามของบอลลูนที่ลอยเต็มทั่วท้องฟ้า และยังเป็นสัญลักษณ์ของตุรกี ถ้ายิ่งได้ขึ้นมาชมพระอาทิตย์ยามเช้า ชมวิวเมืองคัปปาโดเกีย แบบพาโนราม่าวิวแล้วล่ะก็ บอกเลยค่ะว่ามันดีต่อใจที่สุด (การขึ้นบอลลูนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม)โดยกิจกรรมขึ้นบอลลูนนั้นเขามีให้บริการเกือบทุกวัน รอบละประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาก็สามารถจ่ายหน้าง่านได้เลย ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 230 USD/ท่าน ถือว่าแพงใช้ได้แต่ถ้าแลกกับความทรงจำก็ถือว่าคุ้มค่าล่ะค่ะ

ปามุคคาเล (Pamukkale) หรือ ปราสาทปุยฝ้าย ความสวยงามของน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา
ทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ตามหลังคัปปาโดเกียมาติดๆ ที่นี่เคยถูกเรียกว่าเป็นเมืองสปาของคนรวยสมัยโรมันอีกด้วยนะ คงเพราะคิดว่า มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถช่วยรักษาโรคได้ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยว ก็แช่น้ำในบ่อต่างๆบ้างก็เอาดินขาวๆ มาพอกตัว ก็ถือเป็นอีกความเชื่อนึงที่เราก็เชื่อไว้ก็ไม่เสียหายอะไร

นอกจากปราสาทปุยฝ้ายและบ่อน้ำสีฟ้านี้แล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก unesco พร้อมๆกันคือเมืองโบราณเฮราโพลิส(Hierapolis)ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบบนยอดเขาของปามุคคาเลด้วยนะ เมืองเฮียราโพลิส เป็นเมืองโบราณซึ่งเป็นแหล่งแร่หินปูนขนาดใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ราว 2,200 ปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 200 เมตร “เฮียราโพลิส” มีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่บนยอดเขาของปามุคคาเล่ กินพื้นที่ยาวร่วม 2,700 เมตร บริเวณทางเข้าของเฮียราโพลิส คือสุสานของบุคคลสำคัญในสมัยโบราณจำนวนมาก ที่เฮียราโพลิสยังมีพิพิธภัณฑ์เฮียราโพลิส ซึ่งในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมืองในสมัยโบราณ โดยต่อมาได้ถูกปรับปรุงให้พิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1984 ซึ่งนอกจากภายในพิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงเกี่ยวเฮียราโพลิสแล้ว ยังจัดแสดงเกี่ยวกับที่อื่นๆ ด้วย อาทิเช่น เลาดิเซีย , โคลอสเซ่ , ทริโพลิส , อัททูด้า  และสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง

เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ที่ถูกเรียกว่า นครใต้ดินชาดัค (Underground City of Chadak)
ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ถือว่านครใต้ดินก็เป็นอีกที่นึ่งที่มหัศจรรย์มากๆ

ฮิปโปโดรม (Hippodrome) สิ่งก่อสร้างจากสมัยกรีกซึ่งใช้เป็นสนามแข่งม้า และการแข่งขันขับรถศึก (Chariot Racing) โดยคำว่า ฮิปโปส และ โดรโมส ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในภาษาฝรั่งเศสด้วย หมายถึงการแข่งขันม้าใจกลางเมืองมอสโคว์ (Central Moscow Hippodrome) น่าเสียดายที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของฮิปโปโดรมของกรุงคอนสแตนดิโนเบิลในอดีตหรืออิสตันบูลที่เรารู้จักนั่นเองค่ะ ปัจจุบันเหลือเพียงครึ่งต้น และเสาต้นสุดท้ายคือ เสาอียิปต์ หรือเสาโอเบลิสก์ (Obelisk of Thutmose) ที่สร้างจากหินแกรนิตขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว ฐานของเสาจะกว้างและค่อยๆ เรียวแหลมขึ้นสู่ยอดด้านบนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมสี่ด้าน ยอดบนสุดจะเป็นลักษณะเหมือนพีรามิด นับว่าเป็นสถานที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของตุรกีอีกที่ก็ว่าได้

สุเหร่าสีน้ำเงิน ( Blue Mosque) หรือ Sultan Ahmed Mosque ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่มีข้อห้ามว่าผู้หญิงต้องมีผ้าคลุมหัวนะคะ ปัจจุบันเปิดให้เข้าไปทำละหมาด 24 ชั่วโมง และช่วงกลางคืนในฤดูร้อนจะมีการแสดงแสงสีเสียงในทุกค่ำคืน สุเหร่าสีน้ำเงินแห่งนี้แม้จะไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก แต่ก็ได้รับการจัดอันดับที่ 6 จากสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจของอิสตันบลู และได้รับรางวัล Traveller’s Choice ในปี 2015 ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ทุกคนต้องหลงรัก เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย แถมเมืองนี้ก็ยังคงเป็นเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสถาปัตยกรรมสวยๆแล้วนั้น ยังมีวิวทะเลสวยๆด้วยค่ะ มี บรรยากาศที่ดีสุดๆ ท้องฟ้าสวยๆ มาทีเดียวได้เที่ยวสองทวีป คือยุโรปและเอเชีย

ม้าไม้เมืองทรอย (Troy) หรือ ม้าโทรจัน (Trojan Horse) อยู่ใจกลางเมืองชานัคคาเล่ ม้าเป็นพาหนะที่โปรดปรานของเทพเนปจูน ชาวทรอยจึงนับถือม้า ตราโล่ นักรบทรอยนั้นแม่ทัพประดับด้วยรูปม้า ม้าโทรจันเป็นม้าไม้หมากกลในสงครามใหญ่ชาวกรีก-ชาวทรอย แต่ครั้งโบราณนานมาแล้ว และรู้จักกันว่าสงครามโทรจันหรือโทรจันวอร์ (Trojan war) เป็นสงครามที่รบรากันนานถึง 10 ปี แล้วม้าโทรจันของกรีกตัวนั้นแหละทำให้กองทัพกรีกชนะ ม้าไม้เมืองทรอยเรื่องราวที่ใครๆก็คงเคยได้ยินและก็มีภาพยนตร์ให้ดูกันอีกนะคะ ใครที่ชอบแนวประวัติศาสตร์ก็อย่าลืมไปสืบค้น ตามดูกันด้วยนะคะ มาตุรกีแล้วก็อย่าลืมมาที่นี่ด้วยนะคะ ถือว่าเป็นอีกจุดไฮไลท์สำคัญที่ต้องตามเก็บภาพบันทึกเป็นความทรงจำของเรากันค่ะ

ตลาดสไปซ์ (Spice Market) เป็นตลาดที่เราสามารถหาซื้อสิ่งของพื้นเมืองต่างๆตลาดนี้จะเน้นขาย ขนม อาหาร ชากาแฟ ผลไม้อบแห้ง และถั่วหลากหลายรวมถึงTurkist delight ขนมหวานชื่อดังของตุรเคีย ตลาดแห่งนี้เป็นจุดที่เมื่อมาอิสตันบูลแล้ว เพื่อนๆ ต้องไม่พลาดนะคะ ใครมาแล้วก็อย่าลืมซื้อของฝากติดไม่ติดมือกลับมาบ้านเราด้วยน๊า

ระบำหน้าท้อง (Bellydance) โชว์ที่มาถึงตุรเคียแล้วไม่ควรพลาด เป็นการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อส่วนท้องและสะโพก เชื่อกันว่าระบำหน้าท้องมีต้นกำเนิดมาจากพิธีกรรมและพิธีกรรมทางศาสนาในสมัยโบราณที่สวดมนต์เพื่อความเจริญพันธุ์ในตุรกี อียิปต์ โลกเมดิเตอร์เรเนียน ตะวันออกกลาง การแสดงแบบพื้นเมืองของตุรกี ก็หาได้แค่ที่นี่จริงๆค่ะ หากใครมาแล้วก็อย่าลืมเข้ามาแวะเที่ยวชมด้วยนะคะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง

ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส (Bosporus) เป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black sea) เข้ากับ “ทะเลมามาร่า” (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่าง เอเชียกับยุโรป ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี สำหรับคนไทยแล้วเรามักจะรู้จักคำๆนี้ ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus ) แต่สำหรับชาวตุรกีแล้วเค้าจะมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ช่องแคบอิสตันบูล” (İstanbul Boğazı) ค่ะ มาแล้วก็อย่าลืมชมและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็น พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ที่ภูมิสถาปัตย์มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างกลิ่นอายของยุโรป เชื่อว่าทุกคนประทับใจกลับไทยแน่นอนค่ะ

สกีรีสอร์ทอูลูดัก (Uludag Ski Resort) ตุรกีก็มีสกีให้เล่นนะจ๊ะ ถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวฤดูหนาวยอดนิยมของประเทศตุรเคียเลยก็ว่าได้ค่ะ ลานสกีรีสอร์ทของอูลูดักมีความสูงเริ่มต้น 1,800 เมตร ลานสกีรีสอร์ทเป็นจุดศูนย์รวมสำหรับเล่นสกี เป็นที่ตั้งของโรงแรมสกีรีสอร์ท สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ สกีรีสอร์ท ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าเสื้อผ้าและอุปกรณ์การเล่นสกี ร้านเช่าอุปกรณ์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการเล่นสกีอีกมากมาย

เป็นยังไงกันบ้างคะ ใครที่กำลัง ลังเลใจว่าจะไปเที่ยวประเทศนี้ดีมั้ยน๊า ก็สามารถลองดูบทความที่เราได้รวบรวมทุกสถานที่ไฮไลท์ของประเทศตุรเคียดูกันก่อนนะคะ ตรุเคียยังมีที่กิน ที่เที่ยว รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งอีกเยอะเลย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอนค่ะ

สรุป

ถ้าไม่อยากพลาดที่สถานที่เด็ด ร้านดังในตุรเคีย ก็ลองมาเยี่ยมชมดินแดนที่คุณไม่เคยสัมผัส พร้อมค้นหาประสบการณ์ใหม่ด้วยกันกับ TravelZeed ที่รวบรวมโปรแกรมทัวร์ตุรกีกับโปรโมชั่นลดแรง ราคาพิเศษ คุณภาพดี หลากหลายเส้นทางแบบอัปเดตล่าสุด ที่คัดมาแล้วทั้งคุ้มและครบที่สุดรอไว้ให้เลือกเที่ยวได้ตามไลฟ์สไตล์คุณ

Facebook Comments
Scroll to Top