7 ที่เช็คอินถ่ายรูปที่ๆสวยที่สุด​นิยมที่สุด​ ในฤดูซากุระประเทศญี่ปุ่น​ มีสถานที่ไหนโดนใจกันบ้าง​เข้ามาดูกันได้เลยจ้า

เราคัดสรร 7 ที่เช็คอินถ่ายรูปที่ๆสวยที่สุด​นิยมที่สุด​ ในฤดูซากุระประเทศญี่ปุ่น​ มีสถานที่ไหนโดนใจ เพื่อนๆบ้าง ดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น ที่มีอยู่มากกว่า 300 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันที่ สี รูปร่าง และช่วงเวลาในการบาน ซึ่งพันธ์ทั่วๆไปคือสายพันธุ์ที่มีชื่อว่า “โซเมอิโยชิโนะ” เพราะมีอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ประเทศญี่ปุ่นจะจัดงานที่เรียกว่า ฮานามิ(Hanami) หรืองานชมดอกซากุระตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ ทำให้ช่วงซากุระบานเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลท่องเที่ยวหลักของญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติมากมายเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆเพื่อชื่นชมความงามของดอกซากุระ โดยเฉพาะบริเวณ ปราสาท, วัด, และสวนสาธารณะต่างๆ

1.สวนชินชูกุเกียวเอน(Shinjuku Gyoen)-โตเกียว ตั้งอยู่ภายในย่านชินจูกุ(Shinjuku)ของเมืองโตเกียว(Tokyo) ถือว่าเป็นอีกจุดที่ต้องมาปักหมุดให้ได้ถ้ามาเยือนยังโตเกียวเชียวล่ะ ที่สำคัญเดินทางมาง่ายมากๆสามารถมาด้วยรถไฟได้สบายๆเพราะไม่ไกลจากสถานีรถไฟชินจูกุ สวนชินจูกุเงียวเอนแห่งนี้นั้นนับว่าเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดของกรุงโตเกียวเลยนะคะ ความเก่าแก่ของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงสมัยเอโดะราวๆปี ค.ศ.1603-1867 และที่พลาดไม่ได้ที่สุดก็ช่วงสำคัญๆอย่างฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระสะพรั่งมากๆ รวมไปถึงช่วงใบไม้ร่วงกลางเดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนธันวาคมก็จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วย เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามอันดับต้นๆของโตเกียวตลอดกาลเลยล่ะ

2.จุดชมซากุระที่แม่น้ำเมกุโระ(Meguro River)เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมของชาวโตเกียว เพราะจะมีต้นซากุระปลูกอยู่ 2 ข้างทางของแม่น้ำ และตลอดสองฝั่งของแม่น้ำจะมีทางเดินและที่นั่ง เหมือนเป็นสวนหย่อมเล็กๆยาวตลอดแม่น้ำเมกูโระ ตั้งแต่บริเวณสะพาน Meguro Shinbashi ที่อยู่บริเวณตะวันตกของสถานีรถไฟ Meguro ไปจนถึงสถานี Nakameguro โดยดอกซากุระที่นี่จะบานแบบ Full Bloom ในช่วงที่ซากุระบาน จะมีร้านค้าแบบแผงลอยเล็กๆขายของกินพวก ปิ้งย่าง และเบียบริเวณนี้ด้วย และจะคึกคักมากในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนในตอนกลางคืนที่นี่จะมีโคมไฟสีเหลืองแดง ห้อยอยู่ตามต้นซากุระ ให้บรรยากาศสุดชิวริมน้ำ

3.ชิโดริกาฟุจิ (Chidorigafuchi) ความงามของซากุระที่นี่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังหลงใหล ดอกสีชมพูดอ่อนบานสะพรั่งไปทั่วในฤดูกาลนี้ ผู้คนต่างหลั่งไหลมาชมซากุระกันอย่างครึกครื้น ที่นี่มีต้นซากุระอยู่ประมาณ 260 ต้น การจะได้สัมผัสกับความงดงามที่มีพลังและเสน่ห์แบบนี้ จะต้องมาที่นี่เท่านั้นเลยครับ ซากุระที่นี่จะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงเวลานั้นจะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระและประดับไฟในตอนกลางคืน ระหว่างเวลาประมาณ 18:00 – 22:00 น. กำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการบานของซากุระและสภาพอากาศ แนะนำให้ตรวจสอบทางเว็บไซต์หรือศูนย์แนะนำข้อมูลการท่องเที่ยวเพื่อความถูกต้องครับ

4.ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) เรียกได้ว่าเป็นอีกจุดฮอตฮิตในช่วงฤดูใบไม้ผลิสุดๆเลยทีเดียวค่ะ ความยาวขอทางเดินนักปราชญ์นั้นยาวประมาณ 2 กิโลเมตรตลอดเส้นทางในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะเรียงรายไปด้วต้นซากุระนับร้อยๆต้นที่พากันพร้อมใจบานสะพรั่งพร้อมๆกัน ขนานไปด้วยทางน้ำสายเล็กๆยิ่งพาให้ชวนฟันเข้าไปอีก นี่ถ้าเดินมาพร้อมกับคนรู้ใจน่าจะโรแมนติกไม่ใช่เล่นๆ ด้วยเส้นทางเดินจะปูด้วยหินทำให้เดินได้ง่ายๆ ต้นทางจะอยู่บริเวณวัดกินคะคุจิหรือวัดเงินและทอดยาวไปจะสุดทางคือวัดนันเซนจิ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเรียกว่า “ทางเดินนักปราชญ์” นั่นก็เพราะเดิมทีเส้นทางนี้เป็นทางที่ท่านนิชิดะ คิทาโร่ (Nishida Kitaro) ที่เป็นนักปราชญ์แห่งยุคที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของญี่ปุ่น ซึ่งท่านได้ใช้เส้นทางนี้เดินทางไปกลับเป็นประจำในการไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเกียวโต พอภายหลังที่ท่านกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนเลยพร้อมใจกันตั้งชื่อเส้นทางนี้ตามท่านั่นเอง ไม่ใช่แค่เป็นจุดที่ชมซากุระเท่านั้นนะคะที่คนนิยมกัน ยิ่งช่วงเทศกาลชมดอกไม้ฮานามิก็นับว่าฮอตไม่แพ้กัน เรียกด้ว่าถ้าอยากมีที่นั่งวิวดีๆต้องมาจองกันแต่หัววันไม่งั้นมีอดแน่ๆ หากใครมีแพลนจะช่วงฤดูใบไม้ผลิต้องรีบๆมากันนิดนึงนะคะ ไม่อย่างนั้นคนจะแน่นจนไม่มีที่วิวดีๆให้ชมกันนะเออ

5.ศาลเจ้าเฮอันจิงกู (Heianjingu Shrine) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1895 ภายในศาลเจ้ามีต้นซากุระมากกว่า 20 สายพันธุ์รวม 300 ต้น สีแดงชาดของวิหารตัดกับหลังคาสีเขียวดูสวยงามและยังมีสีชมพูของซากุระมาช่วยเพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีก ภายในพื้นที่ศาลเจ้ามีสวนญี่ปุ่นบรรยากาศเงียบสงบ สามารถมาชมซากุระในอีกบรรยากาศที่ตรงข้ามกับส่วนวิหารที่มีสีสันสดใส ช่วงต้นเมษายนจะมีการจัดอีเวนท์หลายงาน เช่น งานดื่มน้ำชาชมซากุระ (Kan-ouchakai) เพียงจ่ายเพิ่มอีก 800 เยนก็สามารถมาดื่มชาเขียวมัทฉะชมซากุระได้ 

6.ภูเขาโยชิโนะ (Yoshinoyama) เป็นภูเขาที่ทอดตัวแผ่กว้างไปทั่วเมืองโยชิโนะจังหวัดนาระ และเป็นจุดล้ำค่าที่ภูเขาทั้งลูกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมซากุระชื่อดังอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีอาคารสิ่งปลูกสร้างประวัติศาสตร์หลายแห่งเช่นวัดและศาลเจ้าตามเชิงเขาและบนสันเขา ให้คุณสามารถเดินตระเวนไปชมจุดต่างๆ ภูเขาโยชิโนะเป็นสถานที่ที่คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลได้ ตั้งแต่ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยียแห่งฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีประจำฤดูใบไม้ร่วง และทัศนียภาพท่ามกลางหิมะของฤดูหนาว ทิวทัศน์ของแต่ละฤดูกาลกับทิวทัศน์ที่มีบรรยากาศพิเศษที่เกิดจากวัดและศาลเจ้ารวมกันนั้นก็สวยงามมากมากยค่ะ ซึ่งในนั้น ดอกซากุระฤดูใบไม้ผลิก็เป็นจุดเด่นสำคัญค่ะ ดอกซากุระกว่า 30,000 ต้นจาก 200 ชนิดจะบานทั่วทั้งภูเขาโยชิโนะซึ่งมีระยะประมาณ 8 กม. เป็นภาพภูเขาสีชมพูที่กว้างใหญ่สุดสายตา

7.ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของเมืองแห่งนี้ ตัวปราสาทว่าสวยแล้วบริเวณรอบๆช่วงฤดูใบไม้ผลินี่ยิ่งพาให้ฟินเข้าไปใหญ่ค่ะ เนื่องจากในบริเวณรอบๆปราสาทโอซาก้าเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 4,000 ต้น เวลาบานทีมันกลายเป็นภาพที่สวยตะลึงอย่างแรง ทั้งสถาปัตยกรรมแบบโบราณกลมกลืมเข้ากับธรรมชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีสวนนิชิโนมารุ(Nishinomaru Park) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาท เป็นพื้นที่สำหรับปิกนิก และชมแสงไฟของตัวปราสาทในตอนกลางคืนที่สวยงามอีกด้วย จะมากลางวันก็สวยแบบพลิ้วๆแต่มาแบบกลางคืนก็ให้มีเสน่ห์ไปแบบ

พยากรณ์ซากุระบานในญี่ปุ่นปี 2020

ชมคลิป

โปรแกรมทัวร์ : https://bit.ly/2SzbkEL

Facebook: https://www.facebook.com/Travelzeed/

สอบถามข้อมูลโปรแกรมทัวร์ คลิก >> https://line.me/R/ti/p/@travelzeed

 LINE@: @travelzeed