สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกท่านออกเดินทางไปเยือนเมือง อาร์ธ-โกเดา (Arth-Goldau) เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาริกิ การเดินทางอันแสนพิเศษนี้ เราเดินทางมากจากเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ใช้เวลา 3ชม ได้ก่อนมาถึงที่ อาร์ธ โกเดา อากาศที่นี่ก่อนที่เราจะมาถึงคือข้างล่างที่เราอยู่ฝนตกพึ่งเสร็จ และอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนติดๆกันมาก  ก่อนเรามาคือเราเช็คอุณหภูมิอยู่ที่ 5-10 องศา ซึ่งพอวันที่มาถึง เอาเข้าจริงๆ อากาศอยู่ที่ 1 องศาพร้อมหิมะขาวโพลนทั่วทั้งภูเขา

เรามาถึงสถานีรถไฟช่วงสาย เพราะต้องรีบมาขึ้นรถไฟ ที่ได้ทำการจองช่วงเวลา 11 โมง รถไฟที่นี่ ก็จะมาตรงเวลา หมายความว่าถ้าเรามาไม่ทัน เราก็ตกรถไฟไปสิคะ แล้วก็ต้องรอขบวนถัดไป แต่ไม่ต้องกังวลรถไฟที่นี่ก็มีออกทุกๆ ชั่วโมง ทางที่ดีก็มาตรงเวลาดีกว่าเราจะได้ไม่เสียตังค์ซื้อตั๋วอีกรอบน๊า

ขบวนของเราเป็นสีฟ้าแหละ รถไฟที่นี่ก็จะมีหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า สีแดง หรือสีเทา ตอนนี้ก็ยังงงอยู่ ว่าสีเนี่ย แตกต่างอะไร หรือเป็นแค่ที่บริษัทเดินรถต่างกัน หรือสีก็อาจเป็นตัวกำหนดเส้นทางก็เป็นไปได้

ภูเขาริกิ “ราชินีแห่งเทือกเขา” สถานที่สุดโรแมนติกดั่งสวงสวรรค์ เพราะอะไรน่ะเหรอ  ก็เพราะว่ามีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา  ซึ่งยอดเขาสามารถดูวิวได้อย่างสวยงาม ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพ มองเห็นวิวเมืองและทะเลสาบแบบ 360 องศา และยังว่ากันว่าเป็นหัวใจของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามคำเปรียบเปรยที่ว่า “ถ้าเบิร์นคือหัว ซูริคกับเจนีวาคือแขนซ้ายขวา ลูเซิร์นนี่แหละคือหัวใจของสวิตเซอร์แลนด์” ทัศนียภาพของ 2 ฝั่งรถไฟ ทำให้เราเห็นธรรมชาติที่งดงามดั่งที่เค้าบอกว่ามันคือสรวงสวรรค์ มันสวยงามมากๆทุกคน เราแทบไม่ละสายตาออกจากหน้าต่างเลย ตลอดข้างทางบนภูเขา ก็จะมีหิมะที่ตกค้างอยู่บนต้นสน ลูกวัว ลูกแกะ อยู่กันเป็นฝูง หรือบ้านที่ชาวบ้านขึ้นมาปลูกอยู่ด้านบนเขา

ตลอดการเดินทางขึ้นมา ก็ยังมีโรงแรม รวมไปถึงร้านอาหาร ที่ตั้งอยู่ข้างบนคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยล่ะค่ะ ใครที่ขึ้นมาแล้วเปลี่ยนใจอยากสูดอากาศนอนบนเขา ก็สามารถจอง walk-in หรือท่านไหนที่จองมาก่อนแล้ว ก็เข้าพักได้เลยเหมือนกัน แต่เรามาแค่ one day trip แค่นี้ก็ชื่นใจสุดๆแล้ว

จุดตรงที่เรายืน หากใครลงรถไฟออกมาแล้ว ก็อย่าลืมมาถ่ายตรงนี้ด้วยนะคะ เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ ของริกิ 360 องศาเลยล่ะค่ะ อย่าลืมภาวนาให้ท้องฟ้าเกิดด้วยนะคะ เพราะก่อนเราขึ้นมาก็ภาวนากันทั้งบัสเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ เพราะข้างบนเขาริกิ ช่วงที่หนาวๆ อากาศบางวันก็จะมืดครึ้ม ไม่มีแดดเลย ต้องลุ้นเลยจริงๆค่ะ

ยอดภูเขาริกิแห่งนี้มีความสูง 1798 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในรัฐ Schwyz แต่ตัวเขาในอยู่ทั้งในเขตรัฐ Lucerne และ Schwyz ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบ Lucerne Zug และ Lauerz ได้ชื่อว่า “ราชินีแห่งเทือกเขา”  เอาจริงๆ มายืนตรงนี้แล้วก็บอกเลยว่าไม่สามารถหาคำไหนมาเปรียบเปรยหรือทดแทนได้เลยค่ะท่านผู้โช้มมมม

ความสูงก็คงยังไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเราค่ะ ขึ้นมาตรงยอดนี้แล้ว ทุกคนระวังศรีษะกันด้วยนะคะ เพราะจะมีเกร็ดของหิมะที่ตกล่วงลงมาเป็นเกร็ดน้ำแข็งกระเด็นลงมา และทางขึ้นก็ค่อนข้างชันนิดนึง จึงอาจทำให้ลื่นได้ง่ายๆเลยล่ะค่ะ

ลงเขาริกิมา ข้างล่างก็ยังมีพวกโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน หรือเดินช้อปปิ้งกันอีกตามเคยค่ะ ยิ่งถ้ามาช่วงวันหยุด นักท่องเที่ยวก็จะึกคัก เป็นพิเศษ แต่ก็ต้องดูอีกทีว่าเป้นวันหยุดที่ตรงกับวันอาทิตย์มั้ยนะคะ เพราะคนที่นี่ก็จะพากันเข้าโบสถ์ วัยรุ่นก็จะพากันพักผ่อน ห้างร้าน ต่างๆ ก็อาจปิดบริการไปด้วย

เขาริกิ สามารถเดินทางได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ หรือเริ่มต้นด้วยการล่องเรือบริเวณท่าเรือ Luzern จะผ่านทะเลสาบ Forest Cantons ที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม เมื่อมาถึงตีนเขาใช้บริการรถไฟไต่เขา Rigi ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวได้สนุก เช่น การเล่นสกี หรือลากเลื่อนในฤดูหนาว และเดินป่าในช่วงฤดูร้อน ซึ่งแต่ละช่วงเราก็จะเห็นผู้คนเข้ามาที่ภูเขาแห่งนี้ไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นชาวสวิสเองหรือนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

วันที่เรามาถือว่าพิเศษสุดๆไปเลยไหนจะเจอหิมะหนาๆ แถมเรายังได้มีโอกาสเจอการสับเปลี่ยนรางรถไฟด้วยแหละ เค้าจะมีเจ้าหน้าที่ ที่คอยทำการหมุนรางรถไฟโดยใช้ระบบไฟฟ้าในการหมุนรางเผื่อให้เส้นของรางรถไฟมาบรรจบเข้าหากัน ถือว่าแปลกตาสำหรับเราเลยค่ะ เพราะที่ไทย น้อยนักที่จะได้เห็นอะไรแบบนี้

สวิตเซอร์แลนด์ก็ยังมีอีกหลายเมืองที่สวยและน่าสนใจไม่แพ้ไปกว่า เขาริกิ ค่ะ และที่สำคัญก่อนที่คุณจะไปเที่ยวในประเทศนั้น ๆก็อย่าลืมหาข้อมูล เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละที่ไว้คร่าวๆ ด้วยนะคะ เพราะเราอาจจะเจอสถานการณ์ที่ท้าทายและอาจพบสิ่งใหม่ ๆให้ตัวเองเพิ่มก็เป็นได้

สรุป

การมาเที่ยวครั้งนี้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำในสิ่งใหม่ ๆ เพราะโลกมันกว้างมากแถมยังมีอะไรให้เราค้นหาอยู่อีกเยอะเลยว่ามั้ยคะ สำหรับใครที่กำลังแพลนมองหาที่เที่ยวอยู่
เราขอแนะนำทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ทั้งหมดของTravelzeed เชื่อว่าที่ประเทศนี้ ยังคงเป็นจุดมุ่งหมายของใครอีกหลายคนแน่นอน

Facebook Comments