ที่เที่ยว โอซาก้า

18 ที่เที่ยว โอซาก้า อัปเดทล่าสุด จุดเช็กอิน ในปี 2024

โอซาก้า

โอซาก้า ที่เที่ยว ยอดฮิตของคนไทย คงเป็นอีกจุดหมายปลายทางการมาญี่ปุ่นของใครหลายคน เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมหลายแห่ง บทความนี้ได้รวบรวมและคัดสรร 18 ที่เที่ยว โอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวต้องไปเช็กอินให้ได้ภายในปี 2024 นี้ มาดูกันว่าจะมีที่ไหนน่าสนใจ จนต้องลิสต์ไว้ในแพลนกันบ้าง

อัปเดทล่าสุด 18 ที่เที่ยว โอซาก้า เปิดจุดเช็กอินห้ามพลาด

อัปเดทจุดท่องเที่ยว จุดเช็กอิน 18 ที่เที่ยวโอซาก้า มีหลายที่ห้ามพลาด ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ตลาดปลา ชิงช้าสวรรค์ ไปจนถึงย่านช้อปปิ้ง เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มแน่นอน จะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน

โอซาก้า

1. ชินเซไก

ประเดิมกันที่  ชินเซไก (Shinsekai) เมืองเพื่อนบ้านเก่าแก่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโอซาก้า สร้างขึ้นเมื่อปี 1912 โดยรับโมเดลมาจากนิวยอร์ก (ฝั่งตอนใต้) และปารีส (ฝั่งตอนเหนือ) รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ New World เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้งร้านอาหารราคาย่อมเยา บาร์ และอีกมากมาย 

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower) ซึ่งอยู่ใจกลางชินเซไก ได้รับต้นแบบดีไซน์มาจากหอไอเฟลของฝรั่งเศส โดยหอคอยนี้สูงถึง 103 เมตร และมีจุดสังเกตการณ์อยู่ที่ 94.5 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมวิวพาโนรามารอบโอซาก้า ตัวหอคอยประดับด้วยไฟ LED ที่เปลี่ยนสีสันทุกฤดูกาล นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมมาเดินแวะถ่ายรูปท่ามกลางไฟประดับยามค่ำคืนตลอดย่านนี้ด้วย เพื่อซึมซับบรรยากาศย้อนยุครวมทั้งชิมคุชิคัตสึ (Kushikatsu) ตำรับญี่ปุ่นแท้ ๆ 

โอซาก้า

2. อูเมดะสกาย

อูเมดะสกาย (The Umeda Sky Building) ได้ชื่อว่าเป็นตึกสูงอันดับ 19 ของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่น่าจดจำที่สุดของเมืองอีกด้วย จากการคัดเลือกของนิตยสาร British ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การออกแบบประตูชัยแบบฝรั่งเศสร่วมสมัย (Modern Arc de Triomphe) ตกแต่งด้วยสีเมทัลลิค จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 20 ตึกระดับโลก

ตึกมีทั้งหมด 42 ชั้น เป็นตึกระฟ้าเชื่อม 2 อาคาร คือตึกฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งรวมของสถานบันเทิงต่าง ๆ ทั้งสำนักงาน โชว์รูม ฮอล์จัดอีเวนต์ จุดสังเกตการณ์ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และร้านค้าต่าง ๆ

จุดชมวิวอาเบะโนะ

3. จุดชมวิวอาเบะโนะ

อีกหนึ่งจุดแวะพักเช็กอินที่พลาดไม่ได้เมื่อมาโอซาก้า ก็คือ จุดชมวิวอาเบะโนะ (Abeno Harukas) ถือเป็นจุดชมวิวที่ให้บริการความสะดวกอเนกประสงค์ ตัวตึกสูงประมาณ 300 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งห้างร้านต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โรงแรม และจุดสังเกตการณ์

จุดสังเกตการณ์ของที่นี่เรียกว่า Harukas 300 อยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 58-60 ซึ่งต้องขึ้นลิฟต์มาจากชั้น 16 เมื่อมาถึงจุดสังเกตการณ์จะพบกับผนังกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานล้มรอบ ช่วยให้เห็นวิวรอบเมืองโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า

4. ปราสาทโอซาก้า ปราสาทสุดคลาสสิก

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) คือหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นภาพลักษณ์สำคัญในการเป็นต้นแบบรวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียวช่วงศตวรรษที่ 16 ของยุคอาซูจิ-โมโมยามะ (Azuchi-Momoyama) 

ปราสาทโอซาก้ากลายเป็นที่รู้จักจากสิ่งก่อสร้างอย่างกำแพงหินที่เรียงรายอย่างสวยงาม โดยใช้หินทั้งหมด 5 แสน – 1 ล้านก้อน แต่ละก้อนมีน้ำหนักถึง 12 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังมีความสูงประมาณ 20 เมตร และกว้าง 90 เมตร หากใครแวะมาที่นี่ ต้องไม่ลืมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกให้ได้

Universal Studio Japan

5. ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน 

ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studio Japan) จัดเป็นหนึ่งในหกของธีมปาร์คของยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ โดยที่นี่จะคล้ายกับยูนิเวอร์ซัล ออร์แลนโด รีสอร์ท (Universal Orlando Resort) เพราะประกอบด้วยสถานที่และสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจหลากหลายอย่างที่คัดสรรมาจากยูนิเวอร์ซัล ออร์แลนโด รีสอร์ท และ ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ ฮอลลีวูด (Universal Studios Hollywood) 

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรลิสต์ไว้ในแพลนทริปโอซาก้า นอกจากเดินทางมาจากตัวเมืองได้สะดวกแล้ว ยังมีสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ทำมากมายตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมชมเมืองเวทมนต์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ชมความตื่นตาตื่นใจของ Jurassic Park และ Hollywood Dream และเล่นเครื่องเล่นอีกหลายอย่าง

6. เดนเดนทาวน์

เดนเดนทาวน์ (Den Den Town) ได้ชื่อว่าเป็นย่านอากิฮาบาระแห่งโอซาก้า เพราะที่นี่ได้ยกแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมมาไว้ โดยเฉพาะสำหรับแฟน ๆ อะนิเมะและมังงะ นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยร้านให้เลือกซื้อของอีกหลากหลายประเภท ทั้งร้านจำหน่ายภาชนะ คอมพิวเตอร์ กล้อง อุปกรณ์เครื่องมือประจำบ้าน และเครื่องใช้ขนาดใหญ่ 

ที่สำคัญ เดนเดนทาวน์จะชัตดาวน์ทุกเดือนมีนาคม เพื่อจัดขบวนพาเหรดชื่อว่า เทศกาลถนนนิปปอนบะชิ (Nipponbashi Street Festa) ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมโอตาคุ โดยขบวนประกอบด้วยพาเหรดแต่งกายคอสเพลย์ การเล่นดนตรีสด และการแสดงเต้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการแต่งกายคอสเพลย์ไปร่วมฉลอง หรือจะถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้

ชินไซบาชิ

7. ชินไซบาชิ

ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ได้ชื่อว่าเป็นช็อปปิ้งสตรีท เหมาะสำหรับสายช็อปที่ต้องไปให้ได้เมื่อมาถึงโอซาก้า โดยที่นี่ถือเป็นศูนย์รวมร้านค้าขนาดใหญ่ มีทั้งร้านขายเครื่องสำอาง เครื่องประดับ และร้านอาหารอีกมากมาย ตั้งเรียงรายตลอด 600 เมตร ชินไซบาชิตั้งอยู่บริเวณนัมบะ ใจกลางของโอซาก้า

ความน่าสนใจของร้านค้าที่นี่ก็คือ ขายของหลากหลายในราคาจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง สินค้าปลอดภาษี สินค้าราคา 100 เยน และผลิตภัณฑ์คุณภาพอีกมากมาย ส่วนใครที่ชื่นชอบตัวการ์ตูนต่าง ๆ ต้องไม่พลาดมาที่ 3COINS ร้านค้ารวมไอเทมน่ารักในราคา 300 เยน หรือ Disney Store ที่จัดจำหน่ายสินค้าแฟชัน ของเล่น เครื่องเขียนและสินค้าทั่วไป

8. อะเมมูระ

อะเมมูระ (Amemura) เรียกได้ว่าเป็นย่านฮาราจูกุในแบบฉบับโอซาก้า นอกจากเป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนให้ได้แล้วนั้น ยังเต็มไปด้วยหนุ่มสาววัยรุ่นที่มาพร้อมเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่แหวกขนบละลานตา แน่นอนว่าที่นี่ก็เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชันและร้านขายของมือสอง ตลอดจนบาร์สุดหรูและร้านอาหารระดับคุณภาพ 

โอซาก้า

9. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพันธุ์ 

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติพันธุ์ (The national Museum of Ethnology) จัดว่าต้องไปเยี่ยมชมให้ได้ เพราะที่นี่คือหนึ่งในพิพิธภัณฑ์หลักของญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นสถาบันวิจัยและศึกษาวิจัยด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1974 และเปิดให้สาธารณชนเข้าไปใช้บริการเมื่อปี 1977

การมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพันธุ์ถือเป็นการเปิดโลกทำความรู้จักวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้แก่ โอเชียเนีย อเมริกา ยุโรป แอฟริกา เอเชีย และอีกมากมาย การจัดแสดงดังกล่าวยังนำไปสู่การเรียนรู้วัฒนธรรมทางดนตรีอีกด้วย

10. หอศิลป์คามิกาตะอุคิโยเอะ

หอศิลป์คามิกาตะอุคิโยเอะ (Kamigata Ukiyoe Museum) คือพิพิธภัณฑ์ภาพที่จัดแสดงงานศิลปะอุคิโยเอะดั้งเดิม โดยนำเสนอผ่านนักแสดงคาบูกิ ทั้งนี้ คามิกาตะอุคิโยเอะเป็นงานศิลปะแบบลายพิมพ์ที่ขายในคามิกาตะ ซึ่งเป็นพื้นที่ระหว่างโอซาก้าและเกียวโต ชื่อคามิกาตะเป็นชื่อเรียกบริเวณดังกล่าวที่รู้จักกันดีในยุคสมัยเอโดะ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ที่นี่เป็นหอศิลป์ที่เดียวในโลกที่ผสมผสานการจัดแสดงงานคามิกาตะอุคิโยเอะแบบถาวร ผู้มาเยี่ยมชมจะได้ชมงานอาร์ตที่มีความสมจริง สื่อสะท้อนบุคลิกภาพของมนุษย์ โดยหอศิลป์จะเปิดให้บริการและจัดแสดงงานประมาณ 50 ชิ้น

โอซาก้า

11. วัดโฮเซ็นจิ

โฮเซ็นจิ (Hozenji) ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักกันดีจากประติมากรรมฟุโดเมียวโอ (Fudo Myoo) ผู้คนที่มาที่นี่มักสักการะประติมากรรมดังกล่าว สรงน้ำขอพรให้โชคดี โดยฟุโดเมียวโอถือเป็นหนึ่งในห้าของผู้พิทักษ์พระพุทธเจ้า 

นอกจากมาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้น ก็แวะมาเดินตรอกโฮเซ็นจิโยโกโจะ (Hozenji Yokocho) ซึ่งคลาคร่ำไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ซึ่งมีทั้งเทปปันยากิและร้านขายของท้องถิ่นหลากหลาย หนึ่งในนั้นต้องไม่พลาดมาชิมโมดันยากิ (Modanyaki) ขนมแพนเค้กสไตล์โอซาก้า

12. เท็นโนจิ

เท็นโนจิ (Tennoji) คือศูนย์กลางดาวน์ทาวน์หลักอันดับสามของโอซาก้า ตั้งอยู่ทางใต้ของใจกลางโอซาก้า เต็มไปด้วยตึกระฟ้าและพื้นที่สีเขียว เหมาะแก่การมาพักผ่อนเยี่ยมชมกับครอบครัว โดยสวนเท็นโนจิล้อมรอบด้วยสวนสัตว์ยอดนิยมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองโอซาก้า (the Osaka Museum of Fine Arts) 

สถานที่สำคัญที่น่าไปเยือนในแถบนี้ก็มีหลายแห่ง เพราะใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวดังที่กล่าวไปบ้างแล้วข้างต้น ทั้งจุดชมวิวอาเบะโนะ ห้างสรรพสินค้าเท็นโนจิมิโอะ (Mio Tennoji) ศูนย์การค้าอาเบะโนะคิวส์มอล์ (Abeno Q’s Mall) และวัดเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่างวัดชินเท็นโนจิ (Shintennoji)

13. สปา เวิลด์

ปิดท้ายกันที่สปา เวิลด์ (Spa World) อีกหนึ่งธีมปาร์คน้ำพุร้อนขนาดยักษ์ โดยที่นี่พร้อมสรรพไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกของการอาบน้ำพุร้อนและซาวน่าแบบนานาชาติ ซึ่งแบ่งตามเพศ นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการพื้นที่สระน้ำและสไลด์เล่นน้ำ ร้านอาหาร พื้นที่เด็กเล่น ยิมเล่นกีฬา ซาลอน บริการนวด ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรม 

จุดเด่นคงเป็นโซนอาบน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนยุโรปอยู่ชั้น 4 และโซนเอเชียอยู่ชั้น 6 โดยที่นี่จะเปิดให้ผู้ใช้บริการแต่ละเพศเข้าใช้บริการต่างเดือนกัน ยกตัวอย่าง เดือนเลขคู่จะเปิดให้โซนยุโรปใช้บริการได้เฉพาะเพศหญิง และเปิดโซนเอเชียให้เพศชายใช้บริการ เป็นต้น นอกจากนี้ การตกแต่งโซนยุโรปค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งสไตล์โรมัน กรีก และฟินนิช ในขณะที่โซนเอเชียจะเน้นการตกแต่งแบบญี่ปุ่น เปอร์เซีย และบาหลี

เท็นโนจิ

14. ย่านโดทงโบริ

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอซาก้า มีสัญลักษณ์ที่ดังอย่าง ป้ายไฟกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) ที่ใครหลายคนต้องมาถ่ายรูปเช็คอิน โดยย่านโดทงโบริอยู่ที่เลียบไปตามแม่น้ำโดทงโบริ

นอกจากพื้นที่ช้อปปิ้งแล้ว ที่นี้ยังเป็นย่านกินดื่มยามค่ำคืน มีแสงสี ร้านอาหารหลายร้าน ทั้งปูยักษ์ ปลาหมึกยักษ์ ให้เลือกทานอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยอดนิยมอย่าง การล่องเรือ ชมวิวตามแม่น้ำ

15. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) สถานที่รวบรวมสัตว์น้ำ สัตว์บก มากกว่า 30,000 ชีวิต ประมาณ 620 สายพันธุ์ มาจัดแสดงในสภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ โดยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง เป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

สำหรับไฮไลท์สำคัญของอควาเรียมคือ ฉลามวาฬ ขนาดใหญ่ที่ว่ายวนที่ตู้อควาเรียมที่มีความลึกมากกว่า 9 เมตร นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ใต้น้ำขนาดยาวที่จำลองมาจาก วงแหวนไฟ เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้

16. พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติโอซาก้า (National Art Museum) ที่รวบรวมศิลปะหลากหลายแขนง ตั้งแต่อดีตจนถึงในปัจจุบัน รวมถึงมีนิทรรศการคอลเล็คชั่นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่อาคารที่มีเอกลักษณ์เป็นเส้นโค้งด้วยวัสดุโลหะ ที่ถูกออกแบบโดย เซซาร์ เปลลี (Cesar Pelli) สถาปนิกระดับโลก

โอซาก้า

17. ตลาดคุโรมง

ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) ตลาดปลาโอซาก้า ครัวแห่งโอซาก้า ที่ในตลาดมีของกิน อาหาร ทะเลสด มีทั้ง ปลาหมึก ปู หอย กุ้ง ปลา จัดหนักจัดเต็ม โดยตลาดคุโรมงมีร้านอาหารที่น่าสนใจ เช่น ร้านซูชิอย่างร้าน Kuromon Sakae Sushi และร้าน Fujino Sengyo ร้านอาหารทะเลย่างๆ ร้อนๆ มีเอกลักษณ์อยู่ตรงที่การใช้เตาถ่าน เป็นต้น

18. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน

ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) ตั้งอยู่ที่ริมอ่าวโอซาก้า ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ มีความสูงถึง 112.5 เมตร เป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้า โดยมีตู้นั่งชิงช้าให้เลือกสองแบบ คือ ตู้กระจกใสทั้งหมด และ ตู้ที่เป็นสีสัน 7 สี ซึ่งใครที่ชอบความหวาดเสียวสามารถมาลองดูได้

สรุป

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดเช็กอินในโอซาก้าเท่านั้น เพราะยังมีที่เที่ยวโอซาก้าอีกหลายแห่งที่รอให้ผู้คนได้ไปสัมผัสและเปิดประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกหลากสไตล์ หลายแห่ง หากใครมีเวลาจำกัดหรือยังจัดแพลนไม่ลงตัว ก็ลองมาดู ทัวร์ญี่ปุ่น หรือทริปเที่ยว โอซาก้า กับ Travelzeed ก่อนได้ รับรองว่าเที่ยวได้คุ้ม และครบทุกจุดเช็กอินที่อยากไปแน่นอน

Facebook Comments
Scroll to Top