เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี ประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรปจะถูกเนรมิตให้กลายเป็นโลกแห่งเทพนิยาย ที่เต็มไปด้วยต้นคริสต์มาสยักษ์ ไฟประดับระยิบระยับ และกลิ่นไวน์ร้อนที่มีกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลไปทั่วทุกมุมเมือง บรรยากาศแบบนี้แหละที่ทำให้ ตลาดคริสต์มาสยุโรป กลายเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเดินเล่นช้อปของทำมือ อิ่มอร่อยกับขนมพื้นเมือง หรือยืนฟังเพลงคริสต์มาสท่ามกลางหิมะตกเบา ๆ …บอกเลยว่าฟินสุด ๆ

และในปี 2025 นี้ TravelZeed เลยจะขอพาทุกคนไปเช็กอินกับ 15 พิกัดตลาดคริสต์มาสยุโรปที่ห้ามพลาด ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำกัน ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!!!

15 พิกัด ตลาดคริสต์มาสยุโรป 2025 ที่ห้ามพลาด

1. ตลาดคริสต์มาสสตราสบูร์ก (Strasbourg Christmas Market), ฝรั่งเศส

เริ่มกันที่…ตลาดคริสต์มาสสตราสบูร์ก (Strasbourg Christmas Market) หรือที่คนฝรั่งเศสเรียกว่า “Christkindelsmärik” ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งตลาดคริสต์มาสในยุโรป” เพราะมีจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1570 ถือเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดของโลก บรรยากาศสนุกสนานและอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ ไวน์ร้อน (Vin Chaud) และกลิ่นของอบเชยที่ลอยคลุ้งตลอดถนน

จุดเด่นของตลาดนี้คือ ต้นคริสต์มาสยักษ์สูงกว่า 30 เมตร ที่จัตุรัส Kléber ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจของงาน นอกจากนี้ยังมีซุ้มกว่า 300 ร้าน ที่ขายของทำมือ ของตกแต่งไม้แกะสลัก ไปจนถึงอาหารอัลซาซ (Alsace) เช่น ขนมเบร็ตเซิล (Bretzel) และขนมปังขิง (Pain d’épices) ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองได้ดื่มด่ำกับความอบอุ่นท่ามกลางอากาศหนาว

ระยะเวลาจัดงาน: 26 พ.ย. – 24 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 11:30–21:00 น. (*ยกเว้น* 26 พ.ย. เปิด 14.00 น. // 24 ธ.ค. ปิด 21:00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

2. ตลาดคริสต์มาสนูเรมเบิร์ก (Nuremberg Christkindlesmarkt), เยอรมนี

ตลาดคริสต์มาสนูเรมเบิร์ก (Nuremberg Christkindlesmarkt) คือหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่และโด่งดังที่สุดของเยอรมนี จัดขึ้นที่จัตุรัสหลัก Hauptmarkt ใจกลางเมืองเก่า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในทุกปีทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับและซุ้มไม้กว่า 180 ร้าน ที่คนท้องถิ่นเรียกว่า “เมืองเล็ก ๆ แห่งไม้สน”

สิ่งที่ทำให้ตลาดนี้ไม่เหมือนใครคือการเปิดงานโดย “คริสต์ไคน์ด” (Christkind) หญิงสาวในชุดสีทอง สวมมงกุฎระยิบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และการเริ่มต้นเทศกาล เธอจะอ่านบทกลอนเปิดงานที่กลายเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาหลายร้อยปี นอกจากนี้ยังมีของขึ้นชื่อที่ต้องลองคือ ขนมปังขิงนูเรมเบิร์ก (Nürnberger Lebkuchen) ที่ได้รับสถานะ Protected Geographical Indication (PGI) ในสหภาพยุโรป บ่งบอกถึงรากเหง้าวัฒนธรรมอาหารที่สืบทอดกันมายาวนาน รวมถึง ไส้กรอกนูเรมเบิร์ก (Nürnberger Rostbratwürste) ที่ย่างหอมกรุ่นทั่วตลาด

ระยะเวลาจัดงาน: 28 พ.ย. – 24 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10:00–21:00 น. (*ยกเว้น* 28 พ.ย. เปิด 17.30 น. // 24 ธ.ค. 10:00–14:00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

3. ตลาดคริสต์มาสเดรสเดน (Dresden Striezelmarkt), เยอรมนี

ตลาดคริสต์มาสเดรสเดน (Dresden Striezelmarkt) ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่ง ตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมนี เพราะจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1434 บนจัตุรัส Altmarkt ใจกลางเมืองเดรสเดน ไฮไลท์สำคัญคือ ขนมสโตเลน (Stollen) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า Striezel ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ชื่อตลาด ขนมปังผลไม้แห้งคลุกน้ำตาลนี้ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์คริสต์มาสของเยอรมนี และยังมีการจัดงาน เทศกาล Stollenfest ขบวนพาเหรดขนมสโตเลนยักษ์หนักหลายร้อยกิโลกรัม ที่ทั้งสนุกและอลังการมาก ๆ

นอกจากนี้ ยังมีอีกจุดที่ดึงดูดสายตาคือ พีระมิดไม้คริสต์มาส (Christmas Pyramid) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่า 14 เมตร หมุนได้ด้วยแรงลมร้อนจากเทียนไข สะท้อนศิลปะหัตถกรรมไม้จากแคว้นซัคโซนีที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีเลยทีเดียว

ระยะเวลาจัดงาน: 26 พ.ย. – 24 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10.00 – 21.00 น. (*ยกเว้น* 26 พ.ย. เปิด 16.00 // 24 ธ.ค. ปิด 14.00 น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

4. ตลาดคริสต์มาสเวียนนา (Vienna Christmas Market), ออสเตรีย

ตลาดคริสต์มาสเวียนนา (Vienna Christmas Market) ตั้งอยู่หน้าศาลาว่าการเมืองเวียนนา (Rathaus) กลางจัตุรัส Rathausplatz เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว พื้นที่นี้จะถูกตกแต่งด้วยแสงไฟกว่าหลายหมื่นดวง และบรรยากาศที่อบอุ่นไปด้วยกลิ่นไวน์ร้อน (Glühwein) และขนมอบแบบออสเตรีย

สิ่งที่ทำให้ตลาดนี้พิเศษคือ การผสมผสานศิลปะกับความโรแมนติกของเวียนนา ไม่ว่าจะเป็นซุ้มร้านค้ากว่า 150 ร้าน ที่ขายของทำมือ ของตกแต่งต้นคริสต์มาส ไปจนถึงขนม Vanillekipferl และ Apfelstrudel หอมกรุ่น และไฮไลท์อีกอย่างคือ ลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นท่ามกลางตึกเก่าอายุกว่าร้อยปี กับต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ประดับไฟสวยงาม บอกว่าใครไปก็ต้องฟินแน่นอน

ระยะเวลาจัดงาน: 14 พ.ย. – 26 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

5. ตลาดคริสต์มาสโคโลญจน์ (Cologne Cathedral Christmas Market), เยอรมนี

ตลาดคริสต์มาสโคโลญจน์ (Cologne Cathedral Christmas Market) ถือเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ยิ่งใหญ่และโรแมนติกที่สุดของเยอรมนี ตั้งอยู่ตรงลานกว้างด้านหน้ามหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral) 

ภายในตลาดมีซุ้มร้านค้ากว่า 150 ร้าน ที่ขายทั้งของทำมือ เครื่องประดับงานคราฟต์ ของตกแต่งคริสต์มาส ไปจนถึงอาหารขึ้นชื่อ เช่น ไวน์ร้อน (Glühwein) ที่เสิร์ฟในแก้วลายพิเศษ, ขนมเวเฟอร์โคโลญจน์ (Kölner Spekulatius) และ ไส้กรอกเยอรมันย่างหอมกรุ่น นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือ ต้นคริสต์มาสสูงกว่า 25 เมตร ที่ถูกประดับด้วยไฟนับร้อยดวงที่ส่องสว่างอยู่กลางตลาด พร้อมเวทีการแสดงดนตรีสดและคณะนักร้องประสานเสียงที่ขับกล่อมบรรยากาศที่แสนอบอุ่น

ระยะเวลาจัดงาน: 17 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: อาทิตย์-พุธ: 11:00 – 21:00 น. // พฤหัสบดี-วันศุกร์: 11:00 – 22:00 น. // วันเสาร์: 10:00 – 22:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

6. ตลาดคริสต์มาสปราก (Prague Christmas Market), สาธารณรัฐเช็ก

ตลาดคริสต์มาสปราก (Prague Christmas Market) ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่สวยที่สุดของยุโรป เพราะจัดขึ้นกลางจตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่มีฉากหลังเป็นโบสถ์ติน (Týn) กับหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ทำให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในนิทานจริง ๆ

สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว นั่นคือ ต้นคริสต์มาสยักษ์ ที่ตกแต่งด้วยไฟระยิบระยับ เปลี่ยนสีไปตามจังหวะเสียงเพลง และล้อมรอบด้วยซุ้มร้านค้าไม้กว่า 100 ร้าน ที่ขายทั้งของทำมือ เครื่องประดับแก้วโบฮีเมีย ของตกแต่ง และอาหารพื้นเมือง จุดเด่นคือ Trdelník ขนมแป้งโรลย่างบนถ่าน คลุกน้ำตาลและอบเชย หอมหวานอุ่นมือ และ ไส้กรอกย่างแบบเช็ก ที่มีกลิ่นลอยหอมไปทั่วงานเลย

ระยะเวลาจัดงาน: 29 พ.ย. 2025 – 6 ม.ค. 2026

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10:00–22:00 น. 

ค่าเข้าชม: ฟรี

7. ตลาดคริสต์มาสบาเซิล (Basel Christmas Market), สวิตเซอร์แลนด์

ตลาดคริสต์มาสบาเซิล (Basel Christmas Market) ได้ชื่อว่าเป็น ตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่และสวยงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ จัดขึ้นทั้งที่ Barfüsserplatz และ Münsterplatz ท่ามกลางอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ริมแม่น้ำไรน์ พร้อมแสงไฟนับพันดวง

เสน่ห์ของตลาดนี้คือซุ้มร้านค้าไม้กว่า 150 ร้าน ที่เต็มไปด้วยของตกแต่งทำมือ และอาหารพื้นเมือง เช่น Basler Läckerli ขนมปังขิงสูตรโบราณประจำเมือง และ ชีสแร็กเลตต์ (Raclette) และอีกหนึ่งไฮไลท์ นั่นคือ  ต้นคริสต์มาสยักษ์ที่ Münsterplatz ซึ่งถูกประดับตกแต่ง โดยศิลปินชื่อดังอย่าง Johann Wanner ผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งคริสต์มาสระดับโลก

ระยะเวลาจัดงาน: 27 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 11:00–20:30 น. 

ค่าเข้าชม: ฟรี

8. ตลาดคริสต์มาสซาเกร็บ (Advent Zagreb), โครเอเชีย

ตลาดคริสต์มาสซาเกร็บ (Advent Zagreb) ของโครเอเชีย ได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดในยุโรป ติดต่อกันหลายปี บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและโรแมนติกสุด ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ในยุโรปตะวันตก แต่ซาเกร็บกลับเนรมิตถนน สวนสาธารณะ และจัตุรัสกว่า 20 แห่งให้กลายเป็นเวทีแห่งแสงไฟและเสียงดนตรีฤดูหนาว

ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ ลานสเก็ตกลางเมืองที่ King Tomislav Square ซึ่งล้อมรอบไปด้วยไฟประดับระยิบระยับ, ร้านขายอาหารที่มีทั้งไวน์ร้อน (Kuhano Vino), ขนมพื้นเมืองอย่าง fritule (โดนัทโรยน้ำตาล) และไส้กรอกโครเอเชียหอมกรุ่น อีกหนึ่งจุดเด่นคือคอนเสิร์ตและการแสดงดนตรีสดที่จัดตามมุมต่าง ๆ ของเมือง ทำให้ผู้มาเยือนได้ทั้งเดินชม ชิม และเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง

ระยะเวลาจัดงาน: 29 พ.ย. 2025 – 7 ม.ค. 2026

เวลาเปิด–ปิด: อาทิตย์-พฤหัสบดี 11:00–23:00 น. // ศุกร์-เสาร์ 11:00-01:00น

ค่าเข้าชม: ฟรี

9. ตลาดคริสต์มาสซาลซ์บูร์ก (Salzburg Christkindlmarkt), ออสเตรีย

ตลาดคริสต์มาสซาลซ์บูร์ก (Salzburg Christkindlmarkt) จัดขึ้นที่ Domplatz และ Residenzplatz ใต้เงามหาวิหารซาลซ์บูร์กอันเก่าแก่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป เพราะมีการบันทึกว่าเริ่มมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15

จุดเด่นของตลาด คือ ซุ้มร้านค้ากว่า 90 ร้านที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ขายทั้งของทำมือ เครื่องประดับไม้แกะสลัก งานแก้ว และอาหารท้องถิ่น เช่น Glühwein (ไวน์ร้อน), ขนมอบออสเตรีย อย่าง Vanillekipferl และเบเกอรี่นุ่ม ๆ หอมอบเชย และไฮไลทือีกอย่างคือการแสดงดนตรีสดจาก คณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ ที่ขับกล่อมบทเพลงคริสต์มาส เติมเต็มบรรยากาศให้คล้ายฉากจากหนังสือเก่ามาก ๆ

ระยะเวลาจัดงาน: 20 พ.ย. 2025 – 1 ม.ค. 2026

เวลาเปิด–ปิด: จันทร์-พฤหัสบดี 10:00-21:00 น. // ศุกร์ 10:00-21:00น. // เสาร์ 09:00-21:00น. // อาทิตย์ 09:00 – 20:30 น.

(*ยกเว้น* 24 ธ.ค. 09.00-15:00 น. และ 25-26 ธ.ค. 11:00 – 18:00น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

10. ตลาดคริสต์มาสแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Christmas Market), เยอรมนี

ตลาดคริสต์มาสแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Christmas Market) ถือเป็นอีกหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี จัดขึ้นที่ Römerberg Square และ Paulplatz ใจกลางเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก อาคารรอบ ๆ จะบ้านไม้ครึ่งปูนครึ่งไม้ (Half-timbered houses) ที่ถูกตกแต่งแต่งไฟระยิบระยับตัดกับท้องฟ้าหนาวเย็น

สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดนี้คือ ต้นคริสต์มาสยักษ์สูงกว่า 30 เมตร ที่ตั้งตระหง่านกลาง Römerberg พร้อมเสียงระฆังโบสถ์กว่า 10 แห่งดังประสานในช่วง “Frankfurter Stadtgeläut” สร้างบรรยากาศขลังแบบยุโรปดั้งเดิม ขณะเดียวกัน ซุ้มกว่า 200 ร้านก็เต็มไปด้วยของทำมือ งานคราฟต์ และอาหารประจำท้องถิ่น เช่น Bethmännchen (ขนมมาร์ซิปังประดับอัลมอนด์ สูตรดั้งเดิมของแฟรงก์เฟิร์ต), Bratwurst หอมกรุ่น และ Glühwein เสิร์ฟในแก้วลายพิเศษ

ระยะเวลาจัดงาน: 24 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: จันทร์-เสาร์ 10:00–21:00 น. // อาทิตย์ 11:00-21:00น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

11. ตลาดคริสต์มาสโคลมาร์ (Colmar Christmas Markets), ฝรั่งเศส

ตลาดคริสต์มาสโคลมาร์ (Colmar Christmas Markets) ในแคว้นอาลซัส ประเทศฝรั่งเศส ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่โรแมนติกที่หนึ่งในยุโรป เพราะจัดขึ้นท่ามกลางเมืองเก่าที่มีบ้านไม้ มีลักษณะเด่นคือเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้หลากสีเรียงอยู่ริมคลอง โคลมาร์มีตลาดกระจายอยู่ทั่วเมืองกว่า 5 ตลาดหลัก ซึ่งแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์ที่ต่างกัน เช่น ตลาด Place des Dominicains ที่โดดเด่นด้วยโบสถ์สมัยโกธิค, ตลาด Place de l’Ancienne Douane ที่อยู่ริมคลองกลางเมือง และตลาดสำหรับเด็กที่ Place Jeanne d’Arc ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมสนุก ๆ และมุมเวิร์คช็อปงานทำมืออีกด้วย

นอกจากนี้ อาหารท้องถิ่นก็เป็นไฮไลท์เช่นกัน ตั้งแต่ ขนมปังขิงอัลซาซ (Pain d’épices), ไวน์ร้อน (Vin Chaud) ไปจนถึงชีสและชาร์กูตท้องถิ่น ที่สะท้อนวัฒนธรรมผสมผสานฝรั่งเศส–เยอรมันของอาลซัสได้อย่างชัดเจน

ระยะเวลาจัดงาน: 25 พ.ย.–29 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: จันทร์-พฤหัสบดี 10:00-19:00น. // ศุกร์-อาทิตย์ 10:00-20:00น. // 24 ธ.ค. ปิด 17:00น. // 26 ธ.ค. เปิด 11:00น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

12. เทศกาลวินเทอร์วันเดอร์ส (Brussels Winter Wonders), เบลเยียม

เทศกาลวินเทอร์วันเดอร์ส (Brussels Winter Wonders) ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม คือหนึ่งในเทศกาลคริสต์มาสฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ของยุโรป จัดขึ้นยาวตลอด 5 สัปดาห์ ครอบคลุมพื้นที่กลางเมืองรอบ Grand-Place ที่เป็นมรดกโลกยูเนสโก ทำให้ทุกมุมกลายเป็นเวทีแห่งแสง สี และเสียง

ไฮไลท์สำคัญคือ โชว์แสงสีบนอาคาร Grand-Place กับ ลานสเก็ตน้ำแข็ง ขนาดใหญ่และชิงช้าสวรรค์สูงที่จะทำให้คุณมองเห็นวิวเมืองได้แบบพาโนรามาได้อย่างเต็มอิ่ม มีร้านค้ามากกว่ากว่า 200 เต็มไปด้วยของทำมือ อาหารพื้นเมือง เช่น วาฟเฟิลเบลเยียมร้อน ๆ, ช็อกโกแลต และ Mulled Wine ที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลไปทั่วงานเลย

ระยะเวลาจัดงาน: 28 พ.ย. 2025 – 4 ม.ค. 2026

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 12:00–22:00 น. (*ยกเว้น* 24 ธ.ค. // 31ธ.ค. // 4 ม.ค. ปิด 18:00น.)

ค่าเข้าชม: ฟรี

13. ไฮด์ปาร์ก วินเทอร์วันเดอร์แลนด์ (Hyde Park Winter Wonderland), อังกฤษ

ไฮด์ปาร์ก วินเทอร์วันเดอร์แลนด์ (Hyde Park Winter Wonderland) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หนึ่งในงานคริสต์มาสและฤดูหนาวของยุโรป เปิดพื้นที่สวนสาธารณะใจกลางเมืองให้กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยไฟประดับและกิจกรรมมากมาย

สิ่งที่โดดเด่นและไม่ควรพลาด คือ ลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร รายล้อมด้วยไฟประดับระยิบระยับ บวกกับ ตลาดคริสต์มาสสไตล์บาวาเรีย และบริเวณรอบ ๆ มีซุ้มร้านขายอาหาร ขนม และงานทำมือมากมาย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีไฮไลท์อีกอย่างคือ ไจแอนต์วีล (Giant Wheel) ที่พาขึ้นไปชมวิวลอนดอนยามค่ำคืน รวมถึงโชว์สเก็ตน้ำแข็งระดับโลก การแสดงละครสัตว์ และโซนเครื่องเล่นธีมพาร์คที่สร้างความตื่นเต้นให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริง ๆ

ระยะเวลาจัดงาน: 14 พ.ย. 2025 – 1 ม.ค. 2026

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10:00–22:00 น. (*ยกเว้น* 25 ธ.ค.)

ค่าเข้าชม: ฟรี (บางโซน/กิจกรรมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

14. ตลาดคริสต์มาสบูดาเปสต์ (Budapest Basilica Christmas), ฮังการี

ตลาดคริสต์มาสบูดาเปสต์ (Budapest Basilica Christmas Market) จัดขึ้นหน้ามหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Basilica) ใจกลางกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ภายในถูกตกแต่งด้วยแสงไฟนับหมื่นดวงที่สะท้อนกับสถาปัตยกรรมคลาสสิกของมหาวิหารที่มีอายุกว่าร้อยปี

จุดเด่นคือ โชว์แสงสีสามมิติ (3D Light Show) ที่ฉายบนผนังมหาวิหาร บอกเลยว่า ว๊าวแน่นอน!! นอกจากนี้ยังมี ลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดเล็กตรงกลางตลาด สำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว รวมถึงซุ้มร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ที่ขายทั้งของทำมือ และอาหารพื้นเมือง เช่น langos แป้งทอดกรอบราดซอสและชีส, kürtőskalács หรือขนมปล่องไฟหอมหวาน และ ไวน์ร้อน (forralt bor) ที่ช่วยคลายหนาว

ระยะเวลาจัดงาน: 17 พ.ย. 2025 – 1 ม.ค. 2026 

เวลาเปิด–ปิด: เปิดทุกวัน 10:00–22:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

15. ตลาดคริสต์มาสซูริค (Zurich Christkindlimarkt), สวิตเซอร์แลนด์

และปิดท้ายกันด้วย ตลาดคริสต์มาสซูริค (Zurich Christkindlimarkt) ถือเป็นหนึ่งใน ตลาดคริสต์มาสในร่มที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จัดขึ้นภายในสถานีรถไฟหลัก Zürich Hauptbahnhof ทำให้แม้จะอากาศหนาวหรือหิมะตกก็ยังเดินเที่ยวได้อย่างอบอุ่นและสะดวกสบาย

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ ต้นคริสต์มาสยักษ์สูงกว่า 15 เมตร ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (SWAROVSKI) นับหมื่นชิ้นที่ระยิบระยับกลางโถงสถานี จนกลายเป็นจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องหยุดถ่ายรูป รอบ ๆ ยังมีซุ้มร้านค้ากว่า 140 ร้าน ที่ขายทั้งของตกแต่งคริสต์มาส งานหัตถกรรมสวิสแท้ ๆ และอาหารขึ้นชื่อ เช่น ชีสแร็กเลตต์ (Raclette), ฟองดู (Fondue) และขนมหวานอบเชยที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นในหน้าหนาว

ระยะเวลาจัดงาน: 20 พ.ย. – 24 ธ.ค. 2025

เวลาเปิด–ปิด: จันทร์-เสาร์ 11:00–22:00 น. // อาทิตย์ 11:00–20:00 น.

ค่าเข้าชม: ฟรี

เคล็ดลับการเตรียมตัวเที่ยวตลาดคริสต์มาสในยุโรป

เมื่อรู้สถานที่ที่จัด ตลาดคริสต์มาสในยุโรป กันไปแล้ว ที่นี่มาดูกันดีกว่าว่า cถ้าจะไปเที่ยวต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ไปดูกันเลย

1. เตรียมเสื้อผ้าให้อุ่น แต่คล่องตัว

อากาศช่วงปลาย พ.ย.–ต้น ม.ค. มักอยู่ระหว่าง 0 ถึง 5 องศาเซลเซียส (บางเมืองอาจติดลบเลยนะ) ควรใส่ เสื้อหลายชั้น, หมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ และถุงเท้าหนาหน่อยเอาเท่าที่เราคิดว่าอุ่นนะคะ เพราะถ้าเป็นตลาดกลางแจ้งอาอาศจะหนาวมากจริง ๆ นะ

2. เตรียมเงินสดเล็กน้อย

ถึงแม้ว่ายุโรปส่วนใหญ่จะใช้จ่ายด้วยบัตรได้ แต่ก็มีร้านค้าร้านเล็ก ๆ ที่ขายของกินหรือของทำมือ มักจะรับเฉพาะเงินสด ดังนั้น จึงควรเตรียม เงินสด (เหรียญ/ธนบัตรเล็ก) 

3. แบตสำรอง จำเป็นมาก!!!

เนื่องด้วยสภาพอากาศหนาวจึงอาจจะทำให้แบตมือถือหมดเร็วมาก เพราะฉะนั้นจึงควรพก Power Bank สำรองไว้

4. เลือกเวลาไปเดิน

การไปเดินตลาดคริสต์มาสในยุโรป ควรไปเดินช่วงเย็นถึงค่ำ เพราะเป็นเวลาที่ไฟประดับเปิด บอกเลยว่าสวยมาก แต่ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะมาก แนะนำไปช่วงบ่ายแก่ ๆ ก่อนมืด

5. เตรียมพื้นที่ในกระเป๋าเผื่อช้อป

ตลาดส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยของตกแต่งคริสต์มาสทำมือ งานคราฟต์ และของฝากท้องถิ่นมากมาย จึงควรพกกระเป๋าใบสักใบไว้ช้อปปิ้ง 

6. ศึกษาเส้นทางและการเดินทางล่วงหน้า

ตลาดคริสต์มาสในยุโรปส่วนมาก จะมักตั้งอยู่ในจัตุรัสกลางเมือง เดินทางด้วยรถไฟหรือรถรางสะดวกมาก บางเมืองมีหลายตลาด เช่น โคลมาร์ หรือเวียนนา การวางแผนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อไม่พลาดไฮไลท์