พูดถึงประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คงจะนึกถึงวัฒนธรรมอันโดดเด่น และมีมายาวนานอย่างกิจกรรมแช่ออนเซ็น ที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี บำรุงผิวพรรณ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากความเหนื่อยล้า

       ในศตวรรษที่ 6 การแช่ออนเซ็นเป็นการชำระล้างบาปให้ร่างกายและจิตวิญญาณบริษุทธิ์ เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงต้อนรับปีใหม่ นอกจากนั้นยังใช้บ่อน้ำร้อนเพื่อล่าสัตว์อีกด้วย

       ซี่งวันนี้ทาง Travelzeed ขอนำเสนอ 5 ออนเซ็นที่ขึ้นชื่อและนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในญี่ปุ่น แถมวิธีการเดินทางง่าย ๆ ให้ได้ปักหมุดเพิ่มตัวเลือกในทริปของทุกคน

แช่ออนเซ็นฤดูไหนดี?

       นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักแช่ออนเซ็นช่วงหน้าหนาว เพราะอุณหภูมิจะอยู่ที่ 2-10 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นฤดูที่แช่ออนเซ็นได้ฟินที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตก การแช่น้ำร้อนถือเป็นการช่วยอบอุ่นร่างกายได้ดีทีเดียว

5 อันดับออนเซ็น ขวัญใจนักท่องเที่ยว

1.คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen)

       คุซัทสึออนเซ็น ออนเซ็นคุณสมบัติดีอันดับ 1 ครองแชมป์นานถึง 16 ปี ตั้งอยู่จังหวัดกุมมะ จะเห็นยูบาทาเกะ รางไม้สายน้ำร้อนธรรมชาติที่ช่วยลดอุณหภูมิที่มาจากต้นน้ำ ในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับบริเวณน้ำพุร้อน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม

วิธีเดินทาง : รถบัสด่วนพิเศษจากสถานีโตเกียว >> สถานีรถบัสคุซัทสึออนเซ็น

2.คุสึโระงิ โนะ ซาโตะ ยูระคุ (Kutsurogi no Sato Yuraku)

       คุสึโระงิ โนะ ซาโตะ ยูระคุ ออนเซ็นธรรมชาติ 100% ตั้งอยู่ในเมืองซุมิโนเอะ (Suminoe) จังหวัดโอซาก้า เป็นการแช่น้ำร้อนไปพร้อมกับน้องเป็ดสุดน่ารักที่ลอยตุ๊บป่อง ถือเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาแช่ออนเซ็นคนเดียวมีเพื่อนเล่น ไม่เหงาด้วย

วิธีเดินทาง : JR สายเกียวโต บันชูอาโกะ (Banshu-Ako) >> สถานีโอซาก้า >>  คุสึโระงิ โนะ ซาโตะ ยูระคุ

3.วาคุระ ออนเซ็น (Wakura Onsen)

       วาคุระ ออนเซ็น รีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงด้วยประวัติศาสตร์กว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่ในเมืองนานาโอะ จังหวัดอิชิคาว่า ซึ่งในปี 1880 ได้รับรางวัลอันดับ 3 ที่การจัดงานน้ำพุร้อนมีแร่ธาตุของโลกในประเทศเยอรมนี

วิธีเดินทาง : รถไฟเจอาร์ธันเดอร์เบิร์ดจากโอซาก้า >> สถานีวะคุระอนเซ็น จากโตเกียว >> รถไฟเจอาร์โฮคุริคุ ชินคันเซน >> สถานีคานาซาวะ >> รถไฟด่วนพิเศษเจอาร์ >> สถานีวาคุระอนเซ็น

 

4.อิบุสุกิออนเซ็น (Ibusuki Onsen)

       อิบุสุกิออนเซ็น ออนเซ็นริมชายหาด ตั้งอยู่จังหวัดคะโงะชิมะ  ทรายร้อนธรรมชาติที่ดีต่อร่างกายผู้สูงอายุ นิยมมาตั้งแต่ 300 ปีก่อน สร้างประสบกาณณ์ที่แปลกใหม่ และมีเอกลักษณ์ให้กับนักท่องเที่ยว เหมาะกับคนที่ต้องการชมวิวทิวทัศน์ทะเลพร้อมกับสปาไปด้วย

วิธีเดินทาง : รถไฟสายด่วนหรือรถไฟท้องถิ่นจากสถานีคาโกชิม่าชูโอ >> สถานีอิบุสุกิ

5.โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen)

       โดโกะออนเซ็น ออนเซ็นสาธารณะที่เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมของชาติ ตั้งอยู่จังหวัดเอะฮิเมะ 1 ใน 3 ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีตำนานเล่ากันว่าออนเซ็นแห่งนี้เคยรักษาบาดแผลให้นกกระสา มีคุณสมบัติอ่อนโยนต่อผิว และโรคระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี 

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ JR Tokaido สถานีโตเกียว >> สถานีโอกายาม่า >>  JR Limited Express Shiokaze >> สถานีมัตสึยามะ >> รถราง Iyo Railway >> โดโกะออน

ก่อนออนเซ็นคนญี่ปุ่นทำอะไรกันบ้าง?

1.อาบน้ำก่อนลงแช่บ่อเสมอ

2.ดิ่มน้ำให้เพียงพอ

3.ราดตัวด้วยน้ำร้อนก่อนลงบ่อ

4.ลงแช่บ่อครึ่งตัวให้ร่างกายปรับอุณหภูมิ

คนญี่ปุ่นเวาลาแช่ออนเซ็นไม่ทำอะไรกัน?

1.ไม่สวมเสื้อผ้าและผ้าขนหนูลงแช่ (ขึ้นอยู่แต่ละที่)

2.ไม่ทานอาหารและเครื่องดื่มขณะลงแช่

3.ไม่ใช้สบู่และแชมพู ขณะลงแช่

4.ห้ามถ่ายภาพ

5.ไม่ควรให้ผมโดนน้ำ ควรรวบผมให้เรียบร้อย

6.ไม่เสียงดังและกระโดดลงบ่อ

7.ไม่ซักผ้าในบ่อ

8.หากมีรอยสักให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบางที่ไม่อนุญาตให้คนที่มีรอยสักแช่บ่อ

ไปออนเซ็นต้องระวังอะไรไหม?

1.ผู้ป่วยโรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ ความดันโลหิตสูง ควรระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจะเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกได้

2.หลีกเลี่ยงการแช่บ่อ หากมีไข้

3.หลีกเลี่ยงการแช่บ่อ หากมีอาการมึนเมา

4.หลีกเลี่ยงการแช่บ่อ หลังทานอาหารเสร็จทันที ควรเว้นระยะประมาณ 30-60 นาที

5.หลีกเลี่ยงการแช่บ่อที่นานเกินไป

6.หลีกเลี่ยงการแช่บ่อ หลังออกกำลังกาย ควรเว้นระยะประมาณ 30 นาที

7.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำหลังจากแช่บ่อ เนื่องจากสมุนไพรอาจถูกชำระล้างออก

บทสรุป

       ต้องบอกว่าถ้าไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้แช่ออนเซ็นตามวิถีญี่ปุ่นถือว่าพลาดมากค่ะ เพราะนอกจากออนเซ็นที่เราแนะนำ ยังมีอีกหลายเมืองที่มีออนเซ็นกว่า 300 แห่ง ที่น่าสนใจ รอให้คุณไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวกันแบบคนรักสุขภาพ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line ID : @travelzeed หรือ โทร 02-108-7900