จีน เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และมีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม เชื้อชาติ และทรัพยากร ทำให้ โครงสร้างการปกครองจีน มีความซับซ้อนกว่าที่หลายคนคาดคิด หลายครั้งที่เราได้ยินคำว่า “มณฑลจีน” “เขตปกครองตนเองจีน” หรือ “เทศบาลนครจีน” ก็อาจสงสัยว่า แท้จริงแล้ว จีนแบ่งประเทศแบบไหน?
วันนี้ Travelzeed จะพาคุณทำความเข้าใจ 4 รูปแบบการปกครองของจีน ที่ใช้บริหารดินแดนขนาดมหาศาล ตั้งแต่ มณฑลทั่วไป เขตปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อย เทศบาลนครที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง ไปจนถึง เขตปกครองพิเศษของจีน (SAR) อย่างฮ่องกงและมาเก๊า พร้อมตัวอย่างชัดเจนว่ารูปแบบแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
จีนแบ่งประเทศยังไง? ทำไมโครงสร้างถึงซับซ้อน
ถ้าคุณเคยสงสัยว่า “จีนแบ่งประเทศแบบไหน?”, “จีนมีกี่มณฑล?”, “รูปแบบการปกครองของจีนซับซ้อนจริงไหม?”
คำตอบคือ… ใช่เลย จีนมีโครงสร้างการแบ่งเขตที่ละเอียดกว่าไทยหลายเท่า ทั้งเพราะพื้นที่กว้างใหญ่ วัฒนธรรมหลากหลาย และเมืองระดับโลกจำนวนมาก จึงต้องมีระบบปกครองหลายรูปแบบ เพื่อให้บริหารได้มีประสิทธิภาพ โดยประเทศจีนแบ่งการปกครองระดับสูงสุดออกเป็น 4 รูปแบบหลัก ได้แก่
- มณฑลของจีน (Provinces)
- เขตปกครองตนเองจีน (Autonomous Regions)
- เทศบาลนครจีน (Municipalities)
- เขตปกครองพิเศษจีน (Special Administrative Regions / SAR)
เราไปดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละละรูปแบบแตกต่างกันยังไง
1) มณฑลของจีน (Provinces – 省) ส่วนหนึ่งของการแบ่งประเทศจีน
มณฑล คือหน่วยการปกครองหลักของจีน คล้ายจังหวัด แต่มีอำนาจในการบริหารสูงกว่าและมีพื้นที่ใหญ่กว่า จังหวัดของไทยหลายเท่า และเป็นรูปแบบที่มีจำนวนมากที่สุด ปัจจุบันจีนมี 23 มณฑล ตัวอย่างมณฑลยอดฮิตที่คนไทยคุ้นเคยเช่น
– เสฉวน (Sichuan) – เมืองแห่งอาหารเผ็ดร้อน
– ยูนนาน (Yunnan) – อากาศดี ธรรมชาติสวย
– เจ้อเจียง (Zhejiang) – มีเมืองหางโจว เมืองสวยติดอันดับ
– ฝูเจี้ยน (Fujian) – ต้นกำเนิดคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก
จุดเด่น
- เป็นระบบที่เสถียรและใช้มายาวนาน จัดการง่าย
- รัฐบาลมณฑลมีอำนาจบริหารค่อนข้างมาก จัดการเศรษฐกิจได้ตามสภาพพื้นที่
- แต่ละมณฑลสามารถพัฒนาเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น อาหาร การท่องเที่ยว ภาษา
- ระบบมณฑลทำให้จีนสามารถบริหารพื้นที่กว้างใหญ่ได้เป็นระเบียบ
2) เขตปกครองตนเอง (Autonomous Regions – 自治区) ระบบการแบ่งประเทศจีนสำหรับชนกลุ่มน้อย
เขตปกครองตนเองคือ มณฑลพิเศษ ที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่จำนวนมาก ที่รัฐบาลจีนต้องการให้ชนกลุ่มน้อยรักษาวัฒนธรรม ภาษา และศาสนาของตนเองได้ จึงให้สิทธิในการบริหารมากกว่ามณฑลทั่วไป ปัจจุบันจีนมี 5 เขตปกครองตนเอง ได้แก่
– มองโกเลียใน (Inner Mongolia) – ดินแดนแห่งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และวัฒนธรรมชนเผ่าเร่ร่อน
– ซินเจียง (Xinjiang) – สวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนมังกร ดินแดนภูเขาหิมะ ทะเลทราย โอเอซิส
– ทิเบต (Tibet) – หลังคาโลก ดินแดนศาสนาพุทธทิเบต
– กว่างซี (Guangxi) – ดินแดนภูเขาหมอกและเขาหินปูนสวยระดับโลก
– หนิงเซี่ย (Ningxia) – ดินแดนทะเลทรายกับไวน์คุณภาพของจีน
จุดเด่น
- ให้สิทธิทางวัฒนธรรม ศาสนา และภาษาแก่ชนกลุ่มน้อย
- มีความยืดหยุ่นมากกว่ามณฑลทั่วไป
- ส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมของจีน
- ได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่อนข้างมากจากรัฐบาลกลาง
3) เทศบาลนคร (Municipalities – 直辖市) การแบ่งเขตของจีนในเมืองใหญ่
เทศบาลนครคือ เมืองใหญ่ที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง ไม่ได้อยู่ภายใต้มณฑลใด ๆ คล้ายกรุงเทพฯที่มีสถานะเป็นเมืองสำคัญระดับประเทศ แต่ของจีนระดับสูงกว่านั้นและมีสถานะเทียบเท่ามณฑล มี 4 เทศบาลนคร ได้แก่
– ปักกิ่ง (Beijing) – เมืองหลวงและศูนย์กลางการเมือง
– เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) – เมืองเศรษฐกิจอันดับ 1
– ฉงชิ่ง (Chongqing) – เมืองขนาดใหญ่ที่สุดด้านพื้นที่
– เทียนจิน (Tianjin) – เมืองท่าแห่งอุตสาหกรรม
จุดเด่น
- ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากรัฐบาลกลาง ทำให้พัฒนาเร็ว
- เป็นศูนย์เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยีของประเทศ
- ระบบการบริหารมีประสิทธิภาพสูง เมืองทันสมัย และนวัตกรรมเยอะมาก
- เป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เช่น เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน
4) เขตปกครองพิเศษ (Special Administrative Regions – SAR) ระบบหนึ่งประเทศสองระบบของจีน
เขตปกครองพิเศษคือพื้นที่ที่มี ระบบกฎหมาย เศรษฐกิจ และสกุลเงินของตัวเอง ที่อยู่ภายใต้นโยบาย หนึ่งประเทศ สองระบบ คืออยู่ในประเทศจีน แต่ระบบการบริหารไม่เหมือนกับจีนแผ่นดินใหญ่ มี 2 เขตปกครองพิเศษ ได้แก่
– ฮ่องกง (Hong Kong) – มหานครการเงินและช้อปปิ้งระดับโลก
– มาเก๊า (Macau) – ลาสเวกัสแห่งเอเชีย เมืองมรดกโลกสไตล์ตะวันตกและจีน
จุดเด่น
- มีอิสระในการบริหารสูงที่สุดในจีน
- มีกฎหมายและระบบเศรษฐกิจของตัวเอง (เสรีมากกว่าแผ่นดินใหญ่)
- สกุลเงินของตัวเอง ทำให้ระบบการเงินแข็งแกร่ง (HKD / MOP)
- เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การเงิน และท่องเที่ยวระดับโลก
- ระบบภาษีต่ำ ทำให้ดึงดูดนักลงทุนมาก
ถ้าสรุปแบบสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุด
- มณฑล = จังหวัดขนาดใหญ่ของจีน บริหารแบบทั่วไป
- เขตปกครองตนเอง = มณฑลที่มีชนกลุ่มน้อยเยอะ จึงได้สิทธิและความยืดหยุ่นมากกว่า
- เทศบาลนคร = เมืองใหญ่ระดับประเทศ ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลางเทียบชั้นมณฑล
- SAR = พื้นที่พิเศษที่มีกฎหมาย–ระบบเศรษฐกิจของตัวเอง








