แนะนำอาหารอิตาลี

เปิดลิสต์ 15 เมนูเด็ด! อาหารอิตาลี ที่ต้องตามไปชิมเมื่อถึงถิ่น

หากพูดถึง อาหารอิตาลี (Italian Food) หลายคนคงนึกถึงพิซซ่า พาสต้า หรือเจลาโต้ แต่ความจริงแล้วอาหารท้องถิ่นของอิตาลีมีเสน่ห์และความหลากหลายมากกว่านั้น ทั้งวัตถุดิบสดใหม่ วิธีการปรุงที่พิถีพิถัน และรสชาติที่เรียบง่ายแต่ลงตัว วันนี้ Travelzeed จะพาไปรู้จัก 15 เมนูเด็ดอาหารอิตาลี ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเยือนแดนรองเท้าบูทแห่งนี้ จะมีเมนูไหนกันบ้าง ไปดูกันเล๊ย!!!!

1. Pizza Napoletana (พิซซ่าเนเปิลส์)

Pizza Napoletana (พิซซ่าเนเปิลส์)

พิซซ่า ต้นตำรับที่ถือกำเนิดในเนเปิลส์ จุดเด่นอยู่ที่การอบด้วยเตาถ่านอุณหภูมิสูงกว่า 400 องศาเซลเซียส ใช้เวลาเพียง 60–90 วินาที แป้งบางนุ่ม ขอบกรอบฟูเล็กน้อย หน้าพิซซ่าเรียบง่ายด้วยมะเขือเทศซานมาร์ซาโน่ มอสซาเรลล่านมควาย และใบโหระพา ความเรียบง่ายนี้เองที่ทำให้กลายเป็นพิซซ่าที่คนทั่วโลกยอมรับ จนยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกวัฒนธรรมอาหาร”

2. Pasta alla Carbonara (พาสต้าอัลลา คาร์โบนารา)

Pizza Napoletana (พิซซ่าเนเปิลส์)

เมนูดังจากกรุงโรมที่หลายคนเข้าใจผิดว่าต้องใส่ครีม แต่จริง ๆ แล้วใช้เพียงไข่แดง ชีสเพโคริโน่หรือพาร์เมซาน กวนชาเล่ และพริกไทยดำ คลุกเส้นพาสต้าให้เคลือบด้วยซอสครีมมี่จากไข่แท้ ๆ รสชาติเข้มข้น มัน เค็มนิด และหอมสมุนไพร

3. Tagliatelle al Ragù (โบโลเนส/อัลรากู)

Tagliatelle al Ragù (โบโลเนส_อัลรากู)

เมนูขึ้นชื่อจากเมืองโบโลญญา ใช้เส้น Tagliatelle ที่กว้างและแบน เพราะซอส Ragù เข้มข้นจากการเคี่ยวเนื้อกับไวน์แดงและมะเขือเทศนานหลายชั่วโมงต้องการเส้นที่ซับซอสได้ดี ต่างจากที่นักท่องเที่ยวเรียก “สปาเก็ตตี้โบโลเนส” ที่จริงแล้วชาวอิตาลีแท้ ๆ จะไม่ใช้เส้นสปาเก็ตตี้กับซอสนี้

4. Lasagna al Forno (ลาซานญ่าอัลฟอร์โน)

Lasagna al Forno (ลาซานญ่าอัลฟอร์โน)

อาหารอบสุดคลาสสิก จัดชั้นแผ่นพาสต้า สลับกับซอส Ragù เบชาเมล และชีส ก่อนนำไปอบจนด้านบนเป็นสีทองหอมกรุ่น ลาซานญ่าเป็นอาหารที่มักเสิร์ฟในครอบครัวช่วงวันหยุดหรือเทศกาล เพราะให้รสชาติที่ทั้งอบอุ่นและเข้มข้น

5. Risotto alla Milanese (รีซอตโต้ อัลลา มิลาเนเซ่)

Risotto alla Milanese (รีซอตโต้ อัลลา มิลาเนเซ่)

อาหารประจำเมืองมิลาน ใช้หญ้าฝรั่น (Saffron) ที่มีราคาสูงและหอมเฉพาะตัว ทำให้เมล็ดข้าวอิตาลีมีสีเหลืองทองสวยงาม รสสัมผัสครีมมี่และกลมกล่อม มักเสิร์ฟคู่กับ Ossobuco (ขาเนื้อตุ๋น) เป็นจานหรูหราที่สะท้อนความประณีตของอาหารอิตาลีเหนือ

6. Minestrone (มีเนสโตรเน)

Minestrone (มีเนสโตรเน)

ซุปผักที่ทุกบ้านในอิตาลีรู้จักดี ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล เช่น แครอท มันฝรั่ง มะเขือเทศ ถั่ว และพาสต้าเม็ดเล็ก เคี่ยวรวมกันจนได้ซุปรสกลมกล่อม อิ่มเบา ๆ และดีต่อสุขภาพ เหมาะทั้งเป็นมื้อกลางวันและมื้อเย็น

7. Pasta al Pomodoro (พาสต้าอัลโปโมโดโร)

Pasta al Pomodoro (พาสต้าอัลโปโมโดโร)

เมนูง่าย ๆ ที่อิตาลีแทบทุกบ้านทำได้ ใช้มะเขือเทศสด น้ำมันมะกอก และใบโหระพา ผัดรวมกับเส้นพาสต้า รสชาติออกเบา สดชื่น และเป็นเมนูพื้นฐานที่โตมาคู่กับเด็กอิตาลีเลยก็ว่าได้ค่ะ

8. Pasta Aglio e Olio (พาสต้าอากลิโอ เอ โอลิโอ)

Focaccia (ฟอคคาเซีย)

พาสต้าสไตล์เนเปิลส์ ใช้เพียงกระเทียมผัดในน้ำมันมะกอก ใส่พริกแห้งเพิ่มความเผ็ดร้อน คลุกกับเส้นสปาเก็ตตี้ กลายเป็นเมนูที่แม้เรียบง่ายแต่รสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น

9. Focaccia (ฟอคคาเซีย)

Focaccia (ฟอคคาเซีย)

ขนมปังแบนสไตล์อิตาลี แป้งหนานุ่ม ราดน้ำมันมะกอก โรยเกลือทะเลและสมุนไพรอย่างโรสแมรี่ หอมฟุ้ง นิยมทานคู่กับน้ำมันมะกอกหรือใช้ทำแซนด์วิช

10. Panini (ปานินี่/ปานิโน)

Panini (ปานินี่_ปานิโน)

แซนด์วิชอิตาลี ใช้ขนมปัง Ciabatta หรือ Baguette ประกบไส้ชีส แฮม หรือซาลามี่ แล้วนำไปกดร้อนจนหอม กรอบนอกนุ่มใน เป็นอาหารกลางวันยอดนิยมที่หาทานได้ทั่วไปตามบาร์และคาเฟ่

11. Prosciutto e Melone (พรอสชุตโตและเมลอน)

Prosciutto e Melone (พรอสชุตโตและเมลอน)

เมนูเรียกน้ำย่อยที่โด่งดังในการจับคู่รสเค็มของแฮมดิบ Prosciutto เข้ากับความหวานฉ่ำของเมลอน กลายเป็นรสชาติที่ตัดกันลงตัวและสดชื่น เหมาะกับหน้าร้อนของอิตาลี

12. Caprese Salad (คาเปร์เซ่สลัด)

Caprese Salad (คาเปร์เซ่สลัด)

สลัดสดจากเกาะคาปรี ประกอบด้วยมะเขือเทศสด มอสซาเรลล่าชีส และใบโหระพา ราดด้วยน้ำมันมะกอกและบัลซามิก สีของวัตถุดิบยังสื่อถึงสีธงชาติอิตาลี (แดง ขาว เขียว) อีกด้วย

13. Parmigiano-Reggiano (ชีสพาร์มิจาโน่ เรจจาโน่)

Caprese Salad (คาเปร์เซ่สลัด)

ราชาแห่งชีสอิตาลี ผลิตจากแคว้นเอมีเลีย-โรมาญา ผ่านการบ่มอย่างน้อย 12 เดือนขึ้นไป ยิ่งบ่มนานยิ่งรสเข้ม นิยมโรยบนพาสต้า ริซอตโต้ หรือหั่นชิ้นเล็กกินกับไวน์แดง

14. Gelato (เจลาโต)

Gelato (เจลาโต)

ไอศกรีมอิตาลีเนื้อแน่น ใช้นมมากกว่าครีม ทำให้รสนุ่มละมุนและหวานน้อยกว่าไอศกรีมทั่วไป มีรสชาติให้เลือกมากมาย ตั้งแต่รสผลไม้สดไปจนถึงดาร์กช็อกโกแลต

15. Tiramisu (ทิรามิสุ)

Tiramisu (ทิรามิสุ)

ของหวานอันดับหนึ่งของอิตาลี ทำจากเลดี้ฟิงเกอร์ชุบกาแฟ สลับชั้นกับครีมมาสคาร์โปเน่ โรยโกโก้ หอมหวานละมุนปนขมนิด ๆ คำว่า Tiramisu แปลว่า “ยกฉันขึ้น” เพราะเชื่อว่ากินแล้วให้ความสดชื่นและพลังงาน

เคล็ดลับการกินแบบชาวอิตาลี

  • คาปูชิโน่ดื่มเฉพาะตอนเช้า คนอิตาลีเชื่อว่าคาปูชิโน่เหมาะกับมื้อเช้าเท่านั้น หลังจากนั้นจะดื่มแค่เอสเพรสโซ่ shot สั้น ๆ ตลอดทั้งวัน
  • พาสต้า = จานหลัก ไม่ใช่ side dish สำหรับคนอิตาลี พาสต้าเป็น “Primo” (จานแรก) ไม่ใช่เครื่องเคียง และพวกเขาจะกินพาสต้าค่อนข้างจริงจัง รสชาติไม่จัดมาก แต่เน้นวัตถุดิบสด
  • พิซซ่าหน้าไม่เยอะเกินไป พิซซ่าอิตาเลียนแท้ ๆ จะหน้าเรียบง่าย ไม่ใส่เครื่องจนล้น เพราะเขาเน้นรสชาติของแป้ง มะเขือเทศ และชีส
  • สลัดไม่ราดน้ำสลัดข้น ๆ คนอิตาลีชอบกินสลัดสด ๆ ราดเพียงน้ำมันมะกอกและบัลซามิก ไม่ใส่น้ำสลัดครีมเหมือนตะวันตก
  • มื้อค่ำกินไม่หนักเกินไป คนอิตาลีมักทานอาหารเย็นดึกหน่อย แต่ไม่จัดหนัก เน้นไวน์ อาหารเบา ๆ และปิดท้ายด้วยของหวานเล็กน้อย
  • หลังอาหาร = Digestivo หลังมื้อใหญ่ ชาวอิตาลีมักดื่มเหล้าสมุนไพรหรือ Limoncello (เหล้ามะนาว) เพื่อช่วยย่อย
  • ขนมหวาน + กาแฟ = ของคู่กัน ของหวานอย่าง Tiramisu, Cannoli หรือ Gelato มักตามด้วยเอสเพรสโซ่ shot สั้น ๆ ไม่ใช่กาแฟใส่นม

บทส่งท้าย

อิตาลีไม่เพียงขึ้นชื่อเรื่องประวัติศาสตร์ ศิลปะ และแฟชั่น แต่ยังเป็นดินแดนแห่งรสชาติที่ใครไปเยือนก็ต้องหลงรัก ดังนั้น หากคุณอยากสัมผัสทั้งความงามของเมืองและความอร่อยของ อาหารอิตาลี (Italian Food) แบบต้นตำรับแท้ ๆ วันนี้ Travelzeed แนะนำ ทัวร์อิตาลี ที่รับรองเลยว่าทั้งอร่อยครบ เที่ยวคุ้ม ประทับใจแน่นอน เตรียมตัวเก็บกระเป๋าแล้วไป “กิน–เที่ยว–อินกับอิตาลี” ให้ครบทุกมิติ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมอิตาลีถึงเป็นประเทศที่ครองใจนักเดินทางทั่วโลก

Facebook Comments
Scroll to Top