ทัวร์ฝรั่งเศส 2568 เที่ยวฝรั่งเศสเตรียมตัวอย่างไร?
ฝรั่งเศส ดินแดนแห่งความโรแมนติก ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม และอลังการ เพราะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันล้ำค่า และอาหารเลิศรส หลายคนใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต แต่การจะไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปนั้น ต้องมีการเตรียมตัวหลายอย่าง วันนี้ TraavelZeed จะมาแชร์ประสบการณ์ การเตรียมตัวสำหรับคนที่สนใจเที่ยวทัวร์ฝรั่งเศสใน ปี 2568 ให้สนุก ครบรส อย่างไร้ต้องกังวลกันค่ะ
ข้อมูลเบื้องต้นก่อนเที่ยวฝรั่งเศส
การเตียมเอกสารวีซ่า พาสปอร์ต
ก่อนเดินทางนั้นควรตรวจวันหมดอายุของพาสปอร์ตของเราให้ดี ควรมีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน การเดินทางเข้าฝรั่งเศสนั้น คนไทยต้องขอวีซ่าเชงเกนก่อน ซึ่งสามารถทำได้ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลอิตาลีประจำประเทศไทย หรือสามารถใช้บริการยื่นวีซ่ากับทางเรา Travelzeed ได้เลย
สภาพภูมิอากาศของฝรั่งเศส
เป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแบบทวีปกลาง มีการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่ชัดเจน ประกอบด้วยฤดูกาลหลัก 4 ฤดู ได้แก่
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศเริ่มอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส ต้นไม้เริ่มมีใบงอกใหม่ ดอกไม้บานสะพรั่ง เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวชมเมือง
- ฤดูร้อน ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) เป็นฤดูที่อากาศร้อนและแห้งแล้งในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เหมาะกับการพักผ่อนริมชายหาด
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) ธรรมชาติเปลี่ยนสีสวยงาม ต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลง อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-19 องศาเซลเซียส ถือเป็นหนึ่งในฤดูท่องเที่ยวที่สวยงามของฝรั่งเศส
- ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) มีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ติดลบ 2-6 องศาเซลเซียส บางพื้นที่มีหิมะตกและน้ำแข็งเกาะ เหมาะกับกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ เช่น เล่นสกี เป็นต้น
อัตราการแลกเงิน
ก่อนเดินทางสามารถแลกเงินสดเป็นเงินยูโรได้ที่ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ หรือธนาคารต่าง ๆ ได้เลย โดยอัตราการแลกเงินจะอยู่ที่ 1 EUR ≈ 38.21 THB **ข้อมูล 28/4/2568 เวลา 10.09 น.** ซึ่งถ้าเดินทางกับทัวร์ แนะนำแลกไปอย่างน้อย 50-100 EUR/วัน เพราะจะมีอาหารในโปรแกรมอยู่แล้ว หรือถ้าเดินทางเองแนะนำให้แลกไป 1,000-1,500 EUR/สัปดาห์ อีกทางเลือกหนึ่งสามารถใช้บัตรเครดิต/TravelCard แทนได้
การสื่อสารและภาษาที่ใช้
ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษากลางในการสื่อสาร แต่จะมีบางสถานที่เท่านั้นที่จะพูดภาษาอังกฤษ ก่อนไปเที่ยว เราควรศึกษาภาษาฝรั่งเศสไว้เบื้องต้น เช่น Bonjour (สวัสดี), Au revoir (ลาก่อน), S'il vous plaît (กรุณา), Merci (ขอบคุณ), Excusez-moi (ขอโทษ) เป็นต้น
อาหารฝรั่งเศสที่ต้องลอง
ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต ความพิถีพิถัน เต็มไปด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ผสมผสานวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล เข้ากับเทคนิคการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม จะ,เมนูไหนแนะนำบ้าง ไปดูกัน!!!
- ซุปหัวหอม (French Onion Soup) เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย "ซุปหัวหอม" ทานคู่กับขนมปังกรอบๆ รับรองว่าฟินสุดๆ
- หอยทากอบเนย (Escargots) สัมผัสประสบการณ์อาหารฝรั่งเศสแท้ๆ กับหอยทากตัวโตๆ อบในกระเทียมและเนย ทานคู่กับขนมปังฝรั่งเศส
- สตูว์เนื้อไวน์แดง (Boeuf Bourguignon) เมนูสุดคลาสสิก เนื้อนุ่มละมุนตุ๋นในไวน์แดง หอมเครื่องเทศ ทานคู่กับมันบด หรือพาสต้า
- เป็ดกงฟี (Duck Confit) ขาเป็ดปรุงสุกแบบดั้งเดิม หนังกรอบ เนื้อนุ่มละมุน ทานคู่กับมันบด หรือผักย่าง
- ครัวซองต์ (Croissant) ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย "ครัวซองต์" ขนมอบยอดนิยมของฝรั่งเศส แป้งบางกรอบ หอมเนย ทานคู่กับกาแฟร้อนๆ
แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสที่ไม่ควรพลาด
1. หอไอเฟล (Eiffel Tower)
ถ้าพูดถึงฝรั่งเศส สถานที่แรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง หอไอเฟล โครงสร้างเหล็กที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ ในกรุงปารีส เป็นสถาปัตยกรรมหล็กที่สูงที่สุดในประเทศ สัมผัสประสบการณ์ชมวิวทิวทัศน์ปารีสในมุมสูงแบบ 360 องศา และด้านหลังของหอไอเฟลยังมี แม่น้ำแซน (Seine) แม่น้ำสายหลักทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
2. พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles)
พระราชวังหลวงที่เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ตัวอาคารถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว รายล้อมด้วยสวนสวยที่ตกแต่งให้มีลวดลายราวกับเขาวงกต ภายในล้วนมีเครื่องประดับหรูหราและภาพเขียนที่มีชื่อเสียงประดับอยู่ตามผนังห้องต่างๆ รวมไปถึง ห้องกระจก (The Hall of Mirror) ห้องโถงแบบบาโรกขนาดใหญ่ โดยสุดปลายทางจะเป็นห้องที่ประดับด้วยหินอ่อนและผลงานประติมากรรมที่สื่อถึงเหตุการณ์สำคัญในฝรั่งเศส
3. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในพระราชลูฟวร์ ติดกับสวนสาธารณะตุยเลอรี (Tuileries Garden) ในกรุงปารีส แหล่งรวมผลศิลปะชิ้นเอกระดับโลกอย่างภาพวาดโมนาลิซ่าอันเลื่องชื่อ หรือรูปปั้น Venus de Milo เทพีแห่งความรักยุคกรีกโบราณ และผลงานศิลปะอีกมากมายกว่า 30,000 ชิ้น ที่มีเรื่องราวอันน่าสนใจ และเต็มไปด้วยความสวยงามของแต่ละยุคสมัย
4. มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส (Cathédrale Notre-Dame de Paris)
สร้างความทรงจำอันน่าประทับใจกับมหาวิหารระดับโลก ศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมสำคัญของกรุงปารีส เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และมีผลงานการออกแบบและรูปปั้นแกะสลักมากมาย รวมถึงความงดงามขององค์ประกอบต่างๆทั้งภายนอกและภายในของสถาปัตยกรรม
5. ชายฝั่งโกตดาซูร์ (French Riviera)
หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "ริเวียร่าฝรั่งเศส" เป็นหนึ่งในจุดหมายที่สวยงามมาก ๆ ด้วยทิวทัศน์ทะเลสีฟ้าคราม หาดทรายละเอียด และเมืองสวย ๆ อย่างนีซ คานส์ และมอนาโก ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดหรู นอกจากจะได้ชมวิวทะเลสุดอลังการแล้ว คุณยังสามารถเที่ยวชมเมืองเก่า, ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และเยี่ยมชมงานเทศกาลสุดดังอย่างเทศกาลภาพยนตร์คานส์ได้อีกด้วย
6. เทือกเขาแอลป์ (French Alps)
หนึ่งในสถานที่ที่ทุกคนที่ไปเที่ยวฝรั่งเศสต้องไปเยือนสักครั้ง! โดยเฉพาะหากคุณชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปีนเขา หรือเล่นสกี แอลป์จะทำให้คุณตื่นเต้นทุกครั้งที่สัมผัส แต่ไม่ใช่แค่กิจกรรมที่ทำให้แอลป์เป็นที่นิยม ภูเขาเหล่านี้ยังมีวิวที่สวยงาม มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว หรือจะเป็นการเดินป่าในฤดูร้อนก็ได้!
7. หมู่บ้านเลโบ-เดอ โพรวองซ์(Les Baux-de-Provence)
หมู่บ้านโบราณบนเขตของเทือกเขาแอลป์ในโพรวองซ์ ที่ตั้งของโบสถ์ Eglise St Vincent โบสถ์โบราณสไตล์โรมันเนสก์และ Château des Baux ซากปราสาทขนาดใหญ่ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในยุคอดีตของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ชมความงดงามของบ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยหินปูน และเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของหมู่บ้านผ่านโบราณวัตถุและงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์เลโบ
8. มงแซ็งมีแชล (Mont Saint-Michel)
วิหารสไตล์กอทิกตั้งตระหง่านเหนือผืนดินอันกว้างใหญ่ บนเกาะกลาง แม่น้ำ Couesnon สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่สืบเนื่องมาเป็นเวลายาวนานสัมผัสบรรยากาศราวกับอยู่ในเทพนิยาย สวยเลอค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และความสวยงามตามธรรมชาติ
9. เมืองโบราณคาร์คัสซอน (Carcassonne)
สัมผัสบรรยากาศเมืองโบราณยุคเก่าดั่งภาพในนิทาน เมืองขนาดเล็กทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ยุคกลางที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างสภาพสมบูรณ์ โดยตัวเมืองแบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเป็นเมืองป้อมปราการสุดอลังการแห่งฝรั่งเศส
10. บอร์ก โดซ์เมืองแห่งไวน์ (Bordeaux Wine Region)
ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นฝรั่งเศส ดินแดนของคนรักไวน์ ลิ้มลองไวน์จากเมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชมไร่องุ่นอันกว้างใหญ่ ที่มีแต่องุ่นชั้นเยี่ยมสายพันธุ์ดีและการปลูกไร่องุ่นไวน์ที่นี่ยังคงรักษาความดั้งเดิมของเถาองุ่นที่ปลูกไว้ได้อย่างดี
บทส่งท้าย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในประเทศฝรั่งเศสนะคะ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้านสถาปัตยกรรมที่หรูหรา และอลังการสุด ๆ หรือทางธรรมชาติรอให้คุณไปเยือน รู้แบบนี้แล้วรีบวางแผนเที่ยวได้เลยน๊าาา หรือถ้าใครไม่อยากวางแผนให้ยุ่งยากทาง TravelZeed ก็มี ทัวร์ฝรั่งเศส นะคะ แล้วไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในดินแดนโรแมนติกแห่งนี้กันน๊าาา!