ทัวร์ทิเบต | Travelzeed.com

ทัวร์ทิเบต

แสดงผล 2 รายการ


เรียงตาม keyboard_arrow_down
  • ราคาน้อย - มาก
  • ราคามาก - น้อย
  • ทัวร์ยอดนิยม
  • ใกล้วันเดินทาง

ค้นหาทัวร์




Our Service

Loading

ทัวร์ทิเบต ตะลุยหลังคาโลกกลางฤดูหนาว พิชิตธารน้ำแข็ง Laigu

รหัสทัวร์
TVZ6163
จำนวนวัน
10 วัน 9 คืน
สายการบิน
โรงแรม
starstarstarstar
เที่ยว
ไฮไลท์
icon
วัดโจคัง - ทะเลสาบบาซัม - วิวยอดเขาหนานเจียปาหว่า - ป่าหลู่หลาง - ธารน้ำแข็งหลายกู่ - นั่งรถไฟความเร็วสูง - พระราชวังนอร์บุลิง - พระราชวังโปตาลา - พิพิธภัณฑ์ทิเบต - ทะเลสาบยัมดรก
icon
พิชิตธารน้ำแข็งดินแดนหลังคาโลก Laigu Glacier ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของโลก "โจคัง" วัดหลังคาทอง วิวยอดเขาหนานเจียปาหว่า พระราชวังฤดูร้อนตำหนักนอร์บุลิงกา วังมรดกโลก "พระราชวังโปตาลา" พักดี 4 ดาวตลอดทริป
calendar_month ช่วงเวลาเดินทาง ธ.ค. 68 - ธ.ค. 68
ธ.ค. 68
05-14
เที่ยว
ไฮไลท์
icon
ซิตี้ทัวร์เมืองลาซา - ทะเลสาบยัมดรก - ทะเลสาบบาซัม - หลินจือ - ป่าหลู่หลาง - วิวยอดเขาหนานเจียปาหว่า - ธารน้ำแข็งMidui - ธารน้ำแข็งLaigu
icon
พระราชวังโปตาลา วัดโจคัง พระราชวังนอร์บูลิงกา ทะเลสาบยัมดรก ถนนบาคอร์ ทะเลสาบบาซัม ป่าหลู่หลาง วิวยอดเขาหนานเจียปาหว่า ธารน้ำแข็งMidui ธารน้ำแข็งLaigu
calender private ช่วงเวลาเดินทาง ธ.ค. 67 - ต.ค. 68

ทัวร์ทิเบต

ทัวร์ทิเบต 2568 สัมผัสแดนสวรรค์แห่งหลังคาโลก

ทิเบต (Tibet) หรือที่รู้จักกันในนามของ “หลังคาโลก” หรือ “Roof of the World” เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก โดยอยู่เหนือระดับน้ำทะเลด้วยความสูงเฉลี่ย 4,000 เมตร ดินแดนนี้ไม่เพียงแต่มีธรรมชาติที่สวยงามและน่าทึ่ง แต่ยังเป็นที่ตั้งของวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่ง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว แล้วในวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปทําความรู้จักกับ ทิเบต กันค่ะ 

เมืองหลวง

ลาซา (Lhasa) เมืองหลวงของทิเบต เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญทางศาสนา รวมถึงความเชื่อเป็นอย่างมาก จนมักเรียกเมืองนี้ว่าเป็น "เมืองแห่งเทพเจ้า" ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง และวัฒนธรรมของศาสนาพุทธแบบทิเบต อีกทั้ง ด้วยระดับความสูงราว ๆ 3,650 เมตร ลาซาจึงเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่อยู่สูงที่สุดในโลก ทิเบตนั้นแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 จังหวัด โดยเขตจังหวัดทั้งหมด ได้แก่

  • ลาซา (เมืองหลวง)

  • น่าชูตี้ชู (Nagchu Prefecture)

  • ชางตูตี้ชู (Chamdo Prefecture)

  • หลินจือตี้ชู (Nyingtri Prefecture)

  • ชานหนานตี้ชู (Shannan Prefecture)

  • ลื่อคาเสอตี้ชู (Shigatse Prefecture)

  • อาหลี่ตี้ชู (Ngari Prefectur


ทิเบต อยู่ประเทศอะไร

เขตปกครองตนเองทิเบต หรือ เขตปกครองตนเองซีจ้าง เป็นเขตปกครองตนเองของชาวทิเบต ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพื้นที่ติดต่อกับมณฑลต่าง ๆ ของจีน รวมถึงประเทศเนปาล ประเทศภูฏาน ประเทศพม่า ประเทศอินเดีย และประเทศปากีสถาน

ทิเบตอยู่ทวีปอะไร

จากแผนที่ ทิเบต ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพื้นที่ส่วนมากครอบคลุมที่ราบสูงทิเบต ซึ่งกินพื้นที่ไปประมาณ 2,500,000 ตารางกิโลเมตร (970,000 ตารางไมล์)

เที่ยวทิเบตเดือนไหนดี

ช่วงเวลาที่น่าไปเที่ยว ทิเบต มากที่สุดคือ ช่วงฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลายอดนิยมที่คนเลือกเดินทางมาเยือนทิเบต เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นสบาย และไม่ค่อยมีฝนตก ทําให้ง่ายต่อการเดินทางนั่นเองค่ะ 

ทิเบต มีกี่ฤดู

ทิเบตมีฤดูกาลที่คล้ายกับจีน แต่จะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าเนื่องจากระดับความสูง โดยจะมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ได้แก่

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายนถึงพฤษภาคม) : อากาศเริ่มอบอุ่นและหิมะเริ่มละลาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระดับความสูงต่ำ เป็นช่วงที่ดีในการมาเที่ยวชมธรรมชาติ หรือสวนดอกไม้บาน

  • ฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม) : เป็นฤดูที่อบอุ่นที่สุดของทิเบต แต่ยังไงก็ยังเย็นกว่าประเทศไทยค่ะ ซึ่งในช่วงนี้จะมีฝนตกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ถ้าจะเที่ยวในช่วงนี้ควรวางเเผนและเช็คสภาพอากาศกันให้ดีก่อนออกเดินทางนะคะ

  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายนถึงตุลาคม) : เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนค่อนข้างเยอะค่ะ เนื่องจากมีท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินป่าและเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ

  • ฤดูหนาว (พฤศจิกายนถึงมีนาคม) : ช่วงนี้มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะในพื้นที่สูง ซึ่งต่างปกคลุมไปด้วยหิมะ โดยเฉพาะในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวไม่มากและมีบรรยากาศเงียบสงบมากค่ะ


แนะนํา 15 สถานที่เที่ยว ทัวร์ทิเบต 2568

1. วัดโจคัง (Jokhang Temple)


วัดโจคัง - วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองลาซา หนึ่งในแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 โดย King Songtsen Gampo ภายในมีรูปปั้นของ โจโว ศากยมุนี หรือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า (Jowo Rinpoche) จุดเด่นของที่นี่ คือ เสาไม้ที่แกะสลักอย่างประณีต ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม และหลังคาสีทองอร่าม


2. อารามเซรา (Sera Monastery)


อารามเซรา - เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของทิเบต รองจากวัดเดรปุง หนึ่งในวัดสำคัญและเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายทิเบต ก่อสร้างขึ้นในปี 1419 โดยศิษย์ของท่าน ซองคาปา ชื่อ Jamchen Chojey ตั้งอยู่ทางเหนือของลาซา ในอดีตเคยถูกทำลายใน ค.ศ. 1906 โดยประเทศจีน เเต่ก็ได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ในภายหลัง นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพระประจําอยู่มากกว่า 5,000-6,000 รูป และมีวิทยาลัยใหญ่ 3 แห่งตั้งอยู่ในวัดอีกด้วย


3. อารามเดรปุง (Drepung Monastery)

อารามเดรปุง - วัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเกเฟล (Gephel) ใกล้เมืองลาซา เคยเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในทิเบต ที่ประทับหลักขององค์ทะไลลามะก่อนที่จะสร้างพระราชวังโปตาลา ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1416 มีชื่อเสียงจากโครงสร้างกำแพงสีขาวที่ผู้คนมักบอกกันว่าเหมือน “กองข้าว” ซึ่งมาจากคําว่า “เดรปุง” ในภาษาธิเบต นอกจากนี้ ที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาล Shoton ประจำปี ซึ่งมีการแสดงโอเปร่าและการเปิดตัว Thangka ภาพวาดทางศาสนาขนาดใหญ่ที่งดงาม


4. อารามทาชิลฮุนโป (Tashilhunpo Monastery)


อารามทาชิลฮุนโป หรือ วัดจาสือหลุนปู้ - เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใน เมืองชิกัตเซ่ (Shigatse) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1447 โดยองค์ทะไลลามะองค์แรก เพื่อเป็นพระที่นั่งของ ปันเชนลามะ (Panchen Lama) ผู้นำอันดับสองในพระพุทธศาสนาแบบทิเบต จุดเด่นของที่นี่ คือ ห้องโถงใหญ่สีเเดง หลังคาสีทอง และ Maitreya Chapel ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเมตไตรยสูง 26 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในทิเบต


5. พระราชวังนอร์บุลิงกะ (Norbulingka Palace)


พระราชวังนอร์บุลิงกะ - เป็นที่ประทับฤดูร้อนขององค์ทะไลลามะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของลาซา สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 18 โดยมีพื้นที่กว่า 36 เฮกตาร์ และมักเรียกกันว่า “สวนอัญมณี” เนื่องจากรายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้สีสันสวยงาม และบ่อน้ำ ให้บรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบและ นอกจากนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัด เทศกาลโชตัน (Shoton Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวธิเบตพากันทำโยเกิร์ตไปถวายพระลามะ มีไฮไลท์ คือ ประเพณีแห่ผ้าหรือพรมผืนใหญ่ ที่ปักเป็นรูปพระศากยมุนี ซึ่งต้องใช้คนหลายร้อยคนในการถือ และระบำหน้ากากสุดระทึก


6. วัดรงบุก (Rongbuk Monastery)


วัดรงบุก - เป็นวัดที่อยู่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่ความสูงประมาณ 5,000 เมตร ก่อตั้งเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 เป็นสถานที่สักการะบูชาและทำสมาธิสำหรับพระภิกษุและภิกษุณี มีโครงสร้างทํามาจากหินที่เรียบง่าย และมีธงมนต์ที่โบกสะบัดท่ามกลางเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อีกทั้งภายในมีรูปปั้นโบราณ และจิตรกรรมฝาผนัง ใครที่ชอบพื้นที่เงียบสงบและมีธรรมชาติสวยงามต้องที่นี่เลย


7. ทะเลสาบนัมโซ (Namsto Lake)


ทะเลสาบนัมโซ - หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ทะเลสาบน่ามู่ชั่ว” หนึ่งในทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ตั้งอยู่บนระดับความสูงประมาณ 4,718 เมตร โดยที่ทะเลสาบแห่งนี้มีสีฟ้าครามสดใส สะท้อนทิวทัศน์ของยอดเขาหิมาลัยที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ให้บรรยากาศที่ร่มรื่น สวยงามมากค่ะ 


8. เอเวอเรสต์เบสแคมป์ (Everest Base Camp)


เอเวอเรสต์เบสแคมป์ - เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งหลาย ๆ คนใฝ่ฝันที่จะปีนขึ้นไปหรือเพียงแค่ได้ชมยอดเขาแห่งนี้ โดยตั้งอยู่ที่ความสูงกว่า 5,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมที่นี่จะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขาเอเวอเรสต์และเทือกเขาหิมาลัย พร้อมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวทิเบตที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดยอดนิยมของกิจกรรม Trekking สําหรับเหล่านักผจญภัยอีกด้วยค่ะ


9. ทะเลสาบยัมดรก ยัมโซ (Yamdrok Yam Tso)