Europe Scotland Wales England - ทัวร์ยุโรป สกอตแลนด์ เวลส์ อังกฤษ เข้าชมโรมันบาธ มรดกโลก
England Wales Scotland Northern Ireland - ทัวร์อังกฤษ เวลส์ สกอตเเลนด์ ไอร์เเลนด์เหนือ
สกอตแลนด์ (Scotland) ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีภูมิประเทศที่น่าทึ่ง และวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ แล้วสกอตแลนด์อยู่ในทวีปอะไรล่ะ? โดยประเทศนี้ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป โดยประเทศนี้มีชื่อเสียงในด้านปราสาทและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย เรามาทําความรู้จักกับเมืองหลวงของสกอตแลนด์กันค่ะ
เมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์คือ เอดินเบอระ (Edinburgh) ซึ่งหลายคนอาจจะอ่านผิดเป็นเอดินเบิร์ก เป็นเมืองหลวงของประเทศสกอตแลนด์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจาก เมืองกลาสโกว์ (Glasgow) โดยถูกยอมรับให้เป็นเมืองหลวงในช่วงก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 15 เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน และโด่งดังในเรื่องของงานศิลปะ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า เมืองที่เป็นมิตรกับเด็ก (The Child Friendly City) เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์วัยเด็ก (Museum of Childhood), สวนสัตว์ที่มีศูนย์การศึกษาที่เคลื่อนไหวได้จริง (Dynamic Education Centre), โลกแห่งผีเสื้อและแมลง (Butterfly & Insect World), และโลกทะเลลึก (Deep Sea World) เป็นต้น
ภาษาหลักที่พูดในสกอตแลนด์คือ ภาษาอังกฤษ (English) อย่างไรก็ตาม ภาษาเกลิก (Gàidhlig) ก็เป็นภาษาที่ใช้กันในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ราบสูงและหมู่เกาะต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและสัญชาติเป็นอย่างมาก แม้ว่าภาษาอังกฤษจะเข้าใจและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่าก็ตาม
ต๋ากู่ปิงชวน เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางที่รักการผจญภัยหรือผู้ที่ต้องการผ่อนคลายกลางธรรมชาติ ที่นี่ต๋ากู่ปิงชวนเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ใครพร้อมแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปกันเลย!
ปราสาทเอดินบะระ (Edinburgh Castle) เป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงของเมือง ทําให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ในมุมกว้าง และยังป็นที่เก็บรักษามงกุฎเพชรแห่งสกอตแลนด์ (The Crown of Scotland) มงกุฎที่ใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ โดยสร้างใหม่เลียนแบบของพระเจ้าเจมส์ที่ 5 แห่งสกอตแลนด์เมื่อปีค.ศ. 1540 โดยที่นี่เปิดให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าชมปราสาท ห้องโถงใหญ่ พระราชวัง พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติ และปืน One O'Clock ที่จะมีการยิงปืนใหญ่จากยอดปราสาทในเวลาบ่ายโมงตรง ซึ่งจะมีการยิงทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ อีกทั้งในแต่ละปีจะมีการจัดงาน Edinburgh Military Tattoo โดยจะมีการจัดแสดงดนตรี เต้นรำ และขบวนแห่ ทำให้ปราสาทเอดินบะระเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยี่ยมชมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
ถนนรอยัลไมล์ (The Royal Mile - Edinburgh) เป็นถนนหินอันน่าหลงใหลที่ทอดยาวตั้งแต่ปราสาทเอดินบะระไปจนถึงพระราชวังโฮลีรูดเฮาส์ โดยถนนเก่าแก่สายนี้มีความยาวประมาณหนึ่งไมล์ เรียงรายไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี อีกทั้งยังมีร้านค้า ผับ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ที่น่าหลงใหล สถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น วิหารเซนต์ไจลส์ (St.Giles Cathedral) ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่น่าทึ่ง รวมถึง แมรี่คิงส์โคลส (Real Mary King's Close) ซึ่งเป็นทางเดินไปยังถนนใต้ดินที่ซ่อนอยู่ตั้งแต่ยุคกลาง โดยมีเรื่องเล่าและตํานานมากมายเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับและการฆาตกรรม ไม่ว่าคุณจะสนใจประวัติศาสตร์ ช้อปปิ้ง หรือเพียงดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะพลาดไม่ได้เลยแหละค่ะ
ทะเลสาบล็อกเนสส์ (Loch Ness) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในเรื่องความลึกลับและตำนานของสัตว์ประหลาด Loch Ness หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Nessie" นอกจากนิทานพื้นบ้านเเล้ว ทะเลสาบแห่งนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่และลึกที่สุดในสกอตแลนด์ โดยมีความยาวประมาณ 23 ไมล์และความลึกมากกว่า 700 ฟุต ทะเลสาบล็อคเนสยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยความงามของธรรมชาติอันน่าทึ่งและบรรยากาศอันเงียบสงบ อีกทั้งยังเปิดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมความงามของทะเลสาบซึ่งมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเนินเขาสีเขียวชอุ่มโดยรอบ และปราสาทโบราณที่เรียงรายตามแนวชายฝั่งได้อีกด้วย
เกาะสกาย (The Isle of Skye) เป็นเกาะที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และใหญ่เป็นอันดับสองของสก๊อตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลแห่งหนึ่ง มีชื่อเสียงจากภูมิประเทศที่ค่อนข้างขรุขระ มีปราสาทยุคกลาง และมีหมู่บ้านที่งดงาม โดยเกาะแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของที่นี่ได้แก่ ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก เนินเขา Cuillin, และสระน้ำที่ใสดุจคริสตัล Fairy Pools ซึ่งเป็นดินแดนมหัศจรรย์และสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ สำหรับคนที่ชอบการเดินป่าและถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
เมืองกลาสโกว์ (Glasgow) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ มีชื่อเสียงในเรื่องเมืองที่ชีวิตชีวา รวมถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เคลวินโกรฟ (Kelvingrove) และพิพิธภัณฑ์ริเวอร์ไซด์ (Riverside Museum) ซึ่งจัดแสดงคอลเล็กชั่นมากมายตั้งแต่งานศิลปะ ไปจนถึงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์ ในขณะที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์กลาสโกว์ (Glasgow Science Centre) ก็มีนิทรรศการจัดแสดงท้องฟ้าจำลองสำหรับผู้ชื่นชอบวิทยาศาสตร์อีกด้วย อีกทั้งที่นี่ยังกลายเป็นสถานที่ช็อปปิ้งยอดนิยม โดยมีถนนที่คึกคัก เช่น Buchanan Street และ the stylish Merchant City อันทันสมัยที่มีตลาดและร้านค้ามากมาย รวมถึงสนามกีฬาบอลชื่อดัง แฮมป์เดนพาร์ก
ปราสาทสเตอร์ลิง (Stirling Castle) เป็นปราสาทเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของสกอตแลนด์ โดยถูกสร้างขึ้นเป็นประทับและฐานที่มั่นของราชวงศ์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เป็นปราสาทแห่งที่มีทิวทัศน์อันตระการตาของยอดผาภูเขาไฟ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมการตกแต่งภายในแบบเรอเนซองส์ที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม รวมถึงห้องโถงใหญ่ที่กษัตริย์จัดงานเลี้ยง พระราชวังที่มีพรมทอหรูหราและงานไม้อันประณีต สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการตลอดหลายศตวรรษ
พระราชวังฮอลีรูด (Holyrood Palace) เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Royal Mile เส้นทางที่เชื่อมไปยังปราสาทเอดินบะระ ถือเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ในฐานะที่เป็นที่ประทับของกษัตริย์อังกฤษในสกอตแลนด์ โดยสามารถสำรวจห้องรับรองอันวิจิตรงดงาม ซึ่งสมเด็จพระราชินียังคงใช้สำหรับพิธีทางการต่าง ๆ ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะเป็นตัวพระราชวัง ที่นี่ยังตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะโฮลีรูด ภูเขาไฟ และเมืองเอดินบะระ ทําให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ต่าง ๆ ของสกอตแลนด์ได้
วงล้อฟอลเคิร์ก (The Falkirk Wheel) เป็นสถานที่แห่งความสําเร็จอันน่าทึ่งในด้านวิศวกรรมของสกอตแลนด์ ทำหน้าที่เป็นลิฟต์ยกเรือแบบหมุนได้เพียงแห่งเดียวในโลก ซึ่งเชื่อมต่อคลอง Forth and Clyde กับ Union Canal เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินเรือและคมนาคม อีกทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาชื่นชมการออกแบบของสถานที่แห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ผู้เยี่ยมชมยังสามารถนั่งเรือชมความงามของคลองแห่งนี้ได้
ประติมากรรมเคลพี (The Kelpies) เป็นประติมากรรมรูปทรงหัวม้าที่สูง 30 เมตรที่ตั้งอยู่ในเมืองฟัลเคิร์ก สิ่งมหัศจรรย์สมัยใหม่ และเป็นตัวแทนของมรดกทางอุตสาหกรรมของสกอตแลนด์ที่ถูกออกแบบโดยศิลปิน Andy Scott โดยสร้างขึ้นจากสแตนเลสที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความลื่นไหลของม้าที่กำลังเคลื่อนไหว ประติมากรรมอันงดงามเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์น้ำในตำนานที่เรียกว่า เคลพี ซึ่งว่ากันว่ามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับม้า 10 ตัว และสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
หมู่เกาะออร์กนีย์ (The Orkney Islands) เป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคหินใหม่ มีโบราณสถานมากมาย ตลอดจนทิวทัศน์ชายฝั่ง และสัตว์ป่าที่น่าทึ่งให้ออกสำรวจ เช่น นกพัฟฟิน แมวน้ำ และอาณานิคมของนกทะเล สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของที่นี่คือ วงแหวนแห่งบรอดการ์ (Ring of Brodgar) และ หมู่บ้านหินโบราณ สการ่า แบร์ (Skara Brae) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นหมู่บ้านยุคหินใหม่ที่มีอายุมากกว่า 5,000 ปี เหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงามทางธรรมชาติของหมู่เกาะและอารยธรรมอันน่าทึ่งต่าง ๆ
ประเทศสกอตแลนด์นั้นเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งล้วนแต่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมี เกาะทางธรรมชาติที่งดงาม ท้าให้คุณได้ไปลองดูด้วยตัวของคุณเอง หากท่านใดสนใจ Travelzeed ก็มีโปรแกรม ทัวร์สกอตแลนด์ ทัวร์อังกฤษ ที่น่าสนใจมากมาย หรือไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไรเราก็พาไปได้
ติดต่อ