ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2568 ความงามที่ต้องไปเห็นด้วยตา

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายทั้งในด้านวัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติที่งดงามตลอดปี หนึ่งในช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อทั้งเมืองถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ส้ม และเหลืองจากใบไม้หลากชนิด สร้างบรรยากาศโรแมนติกที่ชวนให้หลงใหล ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี คือทางเลือกยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด วันนี้ Travelzeed จะพาคุณไปรู้จักช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดประทับใจ

ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่สวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วย และสีแดงสดของต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่น ใบไม้ทั่วญี่ปุ่นจะเปลี่ยนสีจากเหนือจรดใต้ โดยจะเริ่มที่ฮอกไกโดช่วงปลายกันยายน และค่อย ๆ ไล่มาถึงโตเกียว เกียวโต และโอซาก้าในช่วงพฤศจิกายน จึงสามารถวางแผนทริปให้เหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการเดินทาง หากคุณกำลังมองหา ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี อย่าลืมตรวจสอบช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสีในแต่ละเมืองล่วงหน้า เพื่อไม่พลาดช่วงที่ธรรมชาติสวยงามที่สุดของปี

แนะนำ 11 จุดทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี

1. น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall)

เสน่ห์ฤดูใบไม้ร่วงของ น้ำตกชิราฮิเกะ (Shirahige Waterfall) ในเมืองบิเอะ (Biei) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ในช่วงปลายกันยายน - ตุลาคม ต้นไม้รอบ ๆ น้ำตกจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสทั้งแดง เหลือง และส้ม ตัดกับน้ำสีฟ้าครามจากน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ไหลลงสู่แม่น้ำด้านล่าง สร้างภาพที่สวยงามราวกับภาพวาด 

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด โอบิฮิโระ โทคาจิ แช่น้ำแร่ธรรมชาติ น้ำตกชิราฮิเกะ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ศาลเจ้าฮอกไกโด ใบไม้เปลี่ยนสี

2. ทุ่งโคเคีย (Kochia) 

หนึ่งในไฮไลต์ของฤดูใบไม้ร่วงในสวนโออิชิ (Oishi Park) ของญี่ปุ่นที่สวยงามไม่แพ้ใบเมเปิ้ลก็คือ “ทุ่งโคเคีย” หรือดอกไม้พุ่มปุย ๆ ที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวสดในช่วงปลายฤดูร้อน เป็นสีแดงอมชมพู และเข้มขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นแดงอมน้ำตาลในช่วง กลางกันยายน - ปลายตุลาคม เมื่อเดินชมในช่วงพีค คุณจะได้เห็นทุ่งโคเคียกว่า หลายหมื่นต้น ปกคลุมเนินเขาเป็นพรมสีแดงนุ่มละมุนสุดสายตา พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่ไม่ไกล โรแมนติกเหมือนหลุดเข้าไปในฉากอนิเมะ

โปรแกรมแนะนำ :  ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ ศาลเจ้าฮาโกเนะ ชมภูเขาไฟฟูจิที่สวนโออิชิ ใบไม้เปลี่ยนสี

3. บ่อน้ำสีฟ้าชิราฮิเกะ (Shirogane Blue Pond)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของเมืองบิเอะ (Biei) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ที่ไม่ควรพลาดในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง คือ บ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond) แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีสีฟ้าสดใสราวกับต้องมนตร์ โอบล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดง ในช่วงปลายกันยายน - ตุลาคม สีฟ้าของน้ำเกิดจากแร่อลูมิเนียมที่ผสมกับน้ำพุร้อนใต้ดิน ทำให้ผิวน้ำสะท้อนท้องฟ้าและบรรยากาศโดยรอบได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อใบไม้เปลี่ยนสี ท่ามกลางผิวน้ำยังมีซากต้นเบิร์ชที่จมอยู่ในน้ำ เพิ่มบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา เหมาะสำหรับนักถ่ายภาพและผู้ที่รักธรรมชาติ

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น ซุปตาร์ โซอุนเคียว ฮอกไกโด สวนโจซังเคเก็นเซน ทีเดียวจบ

4. อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Momiji Kairo)

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วง หนึ่งในจุดยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดคือโมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo) หรือ ทางเดินใบเมเปิ้ล ในช่วงประมาณ ปลายตุลาคมถึงกลางพฤศจิกายน ต้นเมเปิ้ลเรียงรายสองฝั่งถนนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ส้ม และเหลืองอย่างพร้อมเพรียงกัน กลายเป็นอุโมงค์ใบไม้ที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด โดยเฉพาะช่วงเย็นจะมีการประดับไฟ (Light-up) เพิ่มความโรแมนติก ทำให้ที่นี่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า นาโกย่า คาวากุจิโกะ เที่ยวชมอุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร (อิสระ 1 วัน) 

5. สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ (Kokonoe Yume Otsurihashi)

สัมผัสบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ (Kokonoe Yume Otsurihashi) สะพานในฝันกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาในจังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นหนึ่งในสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวและสูงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความยาวถึง 390 เมตร และความสูงจากหุบเขาเกือบ 173 เมตร นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับวิวพาโนราม่าของหุบเขา น้ำตก และผืนป่าอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง บรรยากาศรอบสะพานจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นแดง ส้ม และเหลือง สลับกันอย่างสดใส สร้างทัศนียภาพที่งดงามและน่าประทับใจไม่รู้ลืม

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ เบปปุ ทะเลสาบคิริน สะพานแขวนโคโคโนเอะ ยูเมะ อิสระท่องเที่ยว 1 วัน ใบไม้เปลี่ยนสี

6. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)

ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) หนึ่งในปราสาทที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto) บนเกาะคิวชู (Kyushu) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ทรงพลังและสง่างาม บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยสวนญี่ปุ่นและแนวต้นไม้ใหญ่น้อยที่เพิ่มความร่มรื่นและคลาสสิกให้กับตัวปราสาท ในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง ประมาณปลายตุลาคม – พฤศจิกายน บริเวณรอบปราสาทจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และส้ม สร้างความงดงามและโรแมนติกไปอีกแบบ การเดินเล่นชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีภายใต้เงาปราสาทเก่าแก่แห่งนี้ ให้ความรู้สึกราวกับย้อนกลับไปในยุคซามูไร

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น ฟุกุโอกะ คุมาโมโต้ ยูมิ จิโกกุ ย่านเทนจิน ใบไม้เปลี่ยนสี อิสระ 1 วัน

7. โอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai)

โอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai) คือหมู่บ้านเล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) กับทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) โดดเด่นด้วย บ่อน้ำใสทั้ง 8 แห่ง น้ำมีความใสสะอาดจนสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้อย่างชัดเจน ฤดูใบไม้ร่วง ในโอชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai) จะถูกโอบล้อมด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งแดง เหลือง และส้ม ตัดกับบ้านไม้หลังเล็ก ๆ และฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมในช่วงอากาศเย็น

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว ฟูจิ หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะ ฮักไก ปราสาทโอดาวาระ ใบไม้เปลี่ยนสี

8. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโอซาก้าและของญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันงดงาม โดยเฉพาะในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง บริเวณสวนรอบปราสาทจะเต็มไปด้วยใบไม้สีแดง เหลือง และส้ม สร้างบรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติก นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวรอบๆ ปราสาท เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่โอบล้อมตัวปราสาทไว้ พร้อมจุดถ่ายภาพสวยๆ ที่เห็นปราสาทหลังงามตัดกับฉากหลังของใบไม้เปลี่ยนสีอย่างลงตัว

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า ปราสาทโอซาก้า คามิโคจิ ดูใบไม้เปลี่ยนสี

9. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go)

ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) เป็นหมู่บ้านโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO โดดเด่นด้วยบ้านสไตล์กัสโชซึคุริ (Gassho-zukuri) หลังคาทรงพนมมือที่ออกแบบมาให้ทนต่อหิมะในฤดูหนาว ในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง หมู่บ้านจะถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ส้ม และเหลืองของใบไม้ที่เปลี่ยนสีทั่วทั้งหุบเขา บ้านไม้โบราณกับภูเขาที่มีสีสันสดใสเป็นฉากหลัง สร้างบรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติก เหมาะสำหรับทั้งการเดินเล่น ถ่ายภาพ และสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว นาโกย่า กิฟุ คามิโคจิ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ใบไม้เปลี่ยนสี

10. วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple)

วัดพุทธเก่าแก่ วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) ตั้งอยู่ในเกียวโต (Kyoto) ที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมไม้ และระเบียงขนาดใหญ่ที่ยื่นออกจากหน้าผา ให้มุมมองพาโนรามาของเมืองเกียวโตและธรรมชาติรอบด้าน ช่วง ฤดูใบไม้ร่วง วัดคิโยมิสึจะถูกโอบล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งบริเวณ โดยเฉพาะจากมุมระเบียงวัดที่มองเห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นแดงสดและเหลืองทองตัดกับหลังคาไม้ของวัด เป็นภาพที่สวยงามและเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โอซาก้า อาราชิยาม่า โกเบ ป่าไผ่อาราชิยาม่า วัดคิโยมิสึ ใบไม้เปลี่ยนสี

11. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Lake)

หนึ่งในจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น รายล้อมด้วยธรรมชาติ เหมาะสำหรับเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Lake) เป็นสถานที่ที่ผสานความสงบของธรรมชาติเข้ากับวิวภูเขาไฟฟูจิได้อย่างลงตัว เหมาะกับทั้งสายถ่ายภาพ สายชิลล์ หรือผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศอบอุ่นแบบญี่ปุ่น จุดเด่นคือการได้เห็นภูเขาไฟฟูจิสะท้อนผิวน้ำทะเลสาบ โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จึงกลายเป็นฉากหลังที่สวยงามราวภาพวาด

โปรแกรมแนะนำ : ทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว คาวาโกเอะ ชมวิวฟูจิ ริมทะเลสาบคาวากุจิโกะ สวนฮิตาชิ ซีไซค์ ปาร์ค (อิสระ 1 วัน)

เตรียมตัวยังไงให้พร้อม ทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี

1. อุณหภูมิช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

ฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น (กันยายน–พฤศจิกายน) อากาศเริ่มเย็นลง โดยเฉพาะช่วงเช้าและกลางคืน

• กลางวัน: 15–20°C
• กลางคืน: 5–10°C (โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาหรือทางตอนเหนือ เช่น ฮอกไกโด)

2. เสื้อผ้าที่ควรเตรียม 

• เสื้อแขนยาว / เสื้อยืดแขนยาว + เสื้อคลุมบาง (แจ็คเก็ต หรือโค้ท)
• กางเกงขายาว / เลกกิ้ง
• รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เดินสบายฃ
• อุปกรณ์เสริม : หมวก, แว่นกันแดด, ร่มพับ

แนะนำเพิ่มเติม : หากเดินทางไป ฮอกไกโด หรือพื้นที่ภูเขา (อุณหภูมิต่ำกว่า) ควรเตรียม เสื้อกันหนาว,อินเนอร์กันหนาว (Heattech) และการแต่งกายแบบเลเยอร์เพื่อปรับอุณหภูมิระหว่างเช้า–เย็น 

3. อุปกรณ์ถ่ายรูป 

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคือ “ช่วงเวลาทอง” ของการถ่ายภาพ เพราะมีทั้งแสงธรรมชาติสวยและสีสันสดของใบไม้ 

อุปกรณ์ที่ควรพก :

• กล้อง DSLR หรือ Mirrorless พร้อมเลนส์มุมกว้างหรือเลนส์ซูม
• ขาตั้งกล้อง สำหรับถ่ายภาพวิวช่วงเย็นหรือแสงน้อย
• แบตเตอรี่สำรอง และ เมมโมรี่การ์ด เพื่อเก็บภาพได้ไม่สะดุด
• กล้องมือถือ ควรพก เลนส์เสริม และ Power Bank ติดตัวไว้

4. เช็กพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี

ใบไม้จะเปลี่ยนสีเร็ว-ช้าต่างกันในแต่ละภูมิภาค การใช้แอปช่วยวางแผนจะทำให้คุณไม่พลาดช่วงพีคของแต่ละเมือง 

แอปแนะนำ :

• Japan Travel by Navitime วางแผนเส้นทางและหาจุดชมใบไม
• Tabimori ข้อมูลการเดินทาง + ไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น
• ウェザーニュース (Weathernews Japan) รายงานพยากรณ์ช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสีรายวัน 
• Japan Kakkoii เว็บรวมตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีล่าสุด ครอบคลุมกว่า 160 จุดชมวิวทั่วญี่ปุ่น

คำแนะนำสำหรับมือใหม่เที่ยวญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

1. เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม

• พาสปอร์ต (Passport) : ต้องมีอายุเหลือ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง
• วีซ่า (Visa) : คนไทยสามารถ ท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า (สำหรับพาสปอร์ตไทยทั่วไป)
• เอกสารการจอง : เช่น ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ, ใบจองที่พัก, โปรแกรมทัวร์
• ประกันการเดินทาง : แนะนำให้มี คุ้มครองกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือกระเป๋าสูญหาย
• สำเนาเอกสาร : พกสำเนาพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินติดตัวไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน

2. ซื้อ JR Pass คุ้มไหม?

• คุ้ม ถ้าคุณเดินทางหลายเมือง เช่น โตเกียว → โอซาก้า → ฮอกไกโด
• ไม่คุ้ม ถ้าหากเน้นเที่ยวในเมืองเดียว
  แนะนำ : เปรียบเทียบค่าเดินทางจริงกับราคาบัตร JR Pass ก่อนซื้อ

3. จองที่พักและตั๋วล่วงหน้าแค่ไหนถึงดี?

• ที่พัก : จองล่วงหน้า 1–2 เดือน โดยเฉพาะช่วงพีค
• JR Pass : ซื้อก่อนเดินทาง 1–3 เดือน
• ตั๋วชินคันเซ็น (Shinkansen) : หากไม่มี JR Pass ให้จองล่วงหน้า 2–4 สัปดาห์

4. เคล็ดลับเลี่ยงคนเยอะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

• เที่ยววันธรรมดา หลีกเลี่ยงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
• ไปชมวิวช่วงเช้าตรู่ หรือก่อนพระอาทิตย์ตก
• เลือกสถานที่รอง (แต่สวย) เช่น สวนในชนบท หรือเมืองเล็ก
• หลีกเลี่ยงสถานที่ไฮไลต์ช่วงพีค      

5. อาหารตามฤดูกาลและของฝาก

• ขนมญี่ปุ่นตามฤดูกาล เช่น โมจิหรือขนมอบที่มีไส้เกาลัด มันม่วง หรือฟักทอง ซึ่งเป็นวัตถุดิบยอดนิยมของฤดูใบไม้ร่วง
• ชาเขียวหรือชาร้อน ที่เหมาะกับอากาศเย็น ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็นสบายเหมาะกับการจิบชาร้อน ๆ อย่างชาเขียวญี่ปุ่น เช่น เซ็นฉะ (Sencha) รสสดชื่น, โฮจิฉะ (Hojicha) กลิ่นหอมคั่วอ่อน ๆ
• ของตกแต่งลวดลายใบไม้แดง หรือสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านที่ใช้สีโทนอบอุ่น

บทสรุปส่งท้าย

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ทั้งจากสีสันของต้นไม้ อากาศเย็นสบาย อาหารตามฤดูกาล และประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจคือช่วงเวลาที่ธรรมชาติงดงามที่สุด ทั้งสีแดง ส้ม และเหลืองที่แต่งแต้มเมืองให้ดูราวกับภาพวาด บวกกับอากาศเย็นสบาย อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาการเดินทางไป ทัวร์ญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี ที่ครบจบในที่เดียว Travelzeed พร้อมพาคุณไปสัมผัสทุกจุดไฮไลต์และสร้างความทรงจำสุดประทับใจที่ไม่ควรพลาด ญี่ปุ่นใบไม้เปลี่ยนสี กับ ความทรงจำที่ควรไปเห็นด้วยตา