ทัวร์จีน
ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์กัมพูชา
ทัวร์กาตาร์
ทัวร์คาซัคสถาน
ทัวร์คีร์กีซสถาน
ทัวร์จอร์แดน
ทัวร์จีน
ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์ทาจิกิสถาน
ทัวร์ทิเบต
ทัวร์บังกลาเทศ
ทัวร์ปากีสถาน
ทัวร์พม่า
ทัวร์ฟิลิปปินส์
ทัวร์ภูฏาน
ทัวร์มองโกเลีย
ทัวร์มัลดีฟส์
ทัวร์มาเก๊า
ทัวร์มาเลเซีย
ทัวร์ลาว
ทัวร์ศรีลังกา
ทัวร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทัวร์สิงคโปร์
ทัวร์อินเดีย
ทัวร์อินโดนีเซีย
ทัวร์อิหร่าน
ทัวร์อุซเบกิสถาน
ทัวร์ฮ่องกง
ทัวร์เกาหลีใต้
ทัวร์เนปาล
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์ไต้หวัน
ทัวร์กรีซ
ทัวร์กรีนแลนด์
ทัวร์จอร์เจีย
ทัวร์ตุรกี
ทัวร์นอร์เวย์
ทัวร์นิวซีแลนด์
ทัวร์บราซิล
ทัวร์บัลแกเรีย
ทัวร์ฝรั่งเศส
ทัวร์ฟินแลนด์
ทัวร์ยูกันดา
ทัวร์รัสเซีย
ทัวร์ลิเบีย
ทัวร์สกอตแลนด์
ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์
ทัวร์สวีเดน
ทัวร์สหรัฐอเมริกา
ทัวร์สาธารณรัฐเช็ก
ทัวร์สเปน
ทัวร์ออสเตรีย
ทัวร์ออสเตรเลีย
ทัวร์อังกฤษ
ทัวร์อาร์เจนตินา
ทัวร์อาร์เมเนีย
ทัวร์อิตาลี
ทัวร์อียิปต์
ทัวร์ฮังการี
ทัวร์เซอร์เบีย
ทัวร์เดนมาร์ก
ทัวร์เนเธอร์แลนด์
ทัวร์เบลารุส
ทัวร์เปรู
ทัวร์เยอรมนี
ทัวร์แคนาดา
ทัวร์แอฟริกาใต้
ทัวร์โครเอเชีย
ทัวร์โปรตุเกส
ทัวร์โปแลนด์
ทัวร์โมรอคโค
ทัวร์โรมาเนีย
ทัวร์ไอซ์แลนด์
ทัวร์ไอร์แลนด์
หุบเขาจิ่วจ้ายโกว (jiuzhaigou) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเสฉวน ประเทศจีน มีจุดเด่นคือ ทิวทัศน์ที่งดงาม ทั้งป่าไม้หลากสี ทะเลสาบที่เงียบสงบ และนํ้าตกที่งดงาม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1992 โดยคําว่า “จิ่วจ้ายโกว” ในภาษาจีนหมายถึง ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในอดีตมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 แห่ง ด้วยความพิเศษหลาย ๆ อย่าง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยี่ยมชมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมายที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
หากใครยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวจิ่วจ้ายโกว ควรไปเดือนไหนดี มีหิมะตกเดือนไหน และใบไม้เปลี่ยนสีช่วงไหน ที่นี่มีคําตอบ โดยที่นี่จะมี 4 ฤดูกาลดังนี้ค่ะ

ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี - อู๋ฮวาไห่ (Five Flower Lake - Wuhua Hai) เป็นทะเลสาบมีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำทะเลที่ใสดุจคริสตัล จากสาหร่ายหลากสีสัน และแหล่งแร่ธรรมชาติที่ทำให้เกิดสีสันที่แตกต่างกันถึงห้าสี กลายเป็นภาพสะท้อนสะท้อนกับป่าไม้ที่สวยงาม โดยในช่วงฤดูหนาวที่ต้นไม้ต่างปกคลุมไปด้วยหิมะ จะยิ่งสวยเป็นพิเศษเลยค่ะ ในวัฒนธรรมทิเบตเชื่อว่านี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ที่เหล่าเทพธิดามาอาบน้ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มมิติทางจิตวิญญาณให้กับความงามอันน่าหลงใหลได้อย่างอัศจรรย์

น้ําตกโนริรัง (Nuorilang Waterfall) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่และกว้างที่สุดในจิ่วจ้ายโกว โดยน้ำตกแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม และภูเขาสูงตระหง่าน จึงทําให้เป็นที่นิยมสําหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่างภาพที่เข้ามาถ่ายภาพบรรยากาศความงดงามของสถานที่แห่งนี้

ทะเลสาบยาว (Long Lake - Chang Hai) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว โดยมีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร และขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลสีฟ้าเข้มและยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะสะท้อนถึงความเขียวขจีของต้นไม้และดอกไม้ที่เบ่งบาน ในขณะที่ในฤดูใบไม้ร่วงทะเลสาบจะถูกรายล้อมไปด้วยใบไม้สีทอง ในส่วนฤดูหนาวทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นพื้นน้ำแข็ง

น้ำตกธารไข่มุก (Pearl Shoal Waterfall) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งแห่งหนึ่งภายในหุบเขาจิ่วจ้ายโกว โดยเป็นน้ำตกที่มีขนาดกว้าง ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้น มาพร้อมกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวไปตามแนวหิน ทำให้เกิดบรรยากาศที่ตระกาลตา มีหมอกจาง ๆ และสภาพอากาศที่นั้นก็ยังร่มรื่นมากอีกด้วย

หุบเขาไรซ์ (Rize Valley) เป็นหุบเขาที่มีชายหาด แม่นํ้า และยังมีนํ้าตกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง มีชื่อเสียงในด้านป่าไม้หลากสีสันและพืชพรรณนานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เนื่องจากใบไม้ที่เปลี่ยนสี ร่วงและลอยไปตามแม่นํ้า สร้างบรรยากาศชวนหลงใหล

หุบเขาซูเจิง (Shuzheng Valley) เป็นหุบเขาที่มีลำธาร บ่อน้ำ และป่าไม้ที่งดงามราวภาพวาด เนื่องจากเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เป็นหนึ่งในพื้นที่อันน่าหลงใหลภายในหุบเขาจิ่วไจ้โกว เหมาะกับกิจกรรมเดินป่า ชมความงามตามธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ อีกทั้งยังมี หมู่บ้านซูเจิง หนึ่งใน 9 หมู่บ้านแห่งจิ่วจ้ายโกว ที่เก่าแก่ของชาวทิเบตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

หุบเขาจารู (Zharu Valley) เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก มีนักท่องเที่ยวน้อย จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าที่อื่น ๆ โดยจุดเด่นของที่นี่คือ คุณอาจจะได้พบกับสัตว์หายาก อย่างเช่น ลิงสีทอง นกนานาพันธุ์ และแม้แต่หมีแพนด้า โดยการเข้าไปยังสถานที่นี้คุณอาจจะต้องมีไกด์นําทาง หรือไปกับคนท้องถิ่นเพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ

หวงหลง (Huanglong Scenic) เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงจากสระน้ำหินปูนและขั้นบันไดหินปูนที่มีลักษณะคล้ายมังกรทอง ซึ่งก่อตัวขึ้นมานานกว่าพันปีจากการสะสมของแคลเซียมคาร์บอเนตจากน้ำพุร้อน โดยที่ด้านบนสุดของพื้นที่นี้ยังมีวัด Huanglong ซึ่งเป็นวัดพุทธแบบทิเบตที่มีอายุย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์หมิง เหมาะแก่การมาชมวัดโบราณที่เงียบสงบมาก ๆ ค่ะ

ทะเลสาบนกยูง (Peacock Lake) เนื่องจากเป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างคล้ายกับนกยูง จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบนี้ จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ทะเลสาบแห่งนี้มีสีนํ้าที่ใสมากราวกับคริสตัล แล้วก็ไล่สีไปยังสีฟ้าเข้มและอ่อนโดยขึ้นอยู่กับระดับความลึกของน้ำ จึงเป็นความพิเศษอย่างหนึ่งที่ทําให้ที่นี่เป็นที่สนใจ

ทะเลสาบแรด (Rhino Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอุทยานจิ่วจ้ายโกว มีน้ำในทะเลสาบที่ใสจนสะท้อนให้เห็นวิวธรรมชาติโดยรอบ เนื่องจากมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล จึงเป็นสถานที่นิยมสําหรับนักท่องเที่ยว แนะนําให้มาช่วงเช้านะคะ จะได้ภาพบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นสะท้อนกับเเม่นํ้า สวยงามมากค่ะ
การท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว ประเทศจีน ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพลาดไม่ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะมาคนเดียวด้วยตัวเอง กับเพื่อนฝูง หรือครอบครัว ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ทั้งธรรมชาติ ป่าไม้ หุบเขา ทะเลสาบ และนํ้าตก ต่างก็มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างมากค่ะ หากสนใจทัวร์จิ่วจ้ายโกว ทัวร์จีน Travelzeed ก็มีโปรแกรมดี ๆ สำหรับพาทุกคนไปท่องเที่ยว และพักผ่อน แล้วคุณจะหลงเสน่ห์ความงดงามของประเทศจีนอย่างแน่นอนค่ะ