20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ W (TOUR ZONE) เพื่อเช็คสัมภาระ และรับเอกสารการเดินทาง Passport หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำคณะไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ (OS)
23.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS026
05.35 น. ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และ วันที่ 29 ตุลาคม ปรับเวลาท้องถื่นเป็นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองเอสเตอร์กอม (Esztergom) ที่เคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของฮังการี มีจุดชมวิวท่านจะเห็นทัศนีภาพของคุ้งน้ําดานูบแบ่งเขตแดนประเทศฮังการี–สโลวาเกีย นําท่านเข้าชมมหาวิหารเอสเตอร์กอม (Esztergom Cathedral) หรือที่คนในประเทศรู้จักกันในนาม มหาวิหารเซนต์อดัลเบิร์ต (St.Adalbert Basilica) เป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศฮังการี มีขนาดความยาว 118 เมตร กว้าง 40 เมตร และ โดมสูง 71.5 เมตร ถือเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่ท่านสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล (หากมีพิธีกรรมมหาวิหารอาจปิดให้เข้าชม)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ซุปกุลาซ)
บ่าย นําท่านเดินทางสู่เมืองเซนเทนเดอร์ (Szentendre) เมืองเก่าเมืองสไตล์บาร็อคเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ (Danube River) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อพยพชาวเซอร์เบียในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคทองของเมืองนี้ นําท่านชมจัตุรัสกลางของเมือง (Main Square) เยี่ยมชมอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมบาร็อค รวมไปถึงเหล่าร้านค้า และแกลเลอรี่ต่างๆ จากนั้นไปชมอนุสาวรีย์ไม้กางเขน (Memorial Cross) อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สําคัญของเมืองเซนเทนเดร์ เป็นสถานที่แห่งระลึกถึงการรอดพ้นจากภัยพิบัติในอดีตโดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปีค.ศ. 1763 จากนั้นเป็นเวลาอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มีอารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ และชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ตัวโบสถ์สร้างแบบสไตล์นีโอ-โกธิค หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามแห่งศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ทางด้านหน้าป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาเปสที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้เป็นอย่างดี ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก LEONARDO HOTEL BUDAPEST หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมของฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภาซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคบนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชมสะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย WILLIAM TIERNEY CLARK วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ หรือมีเหตุการณ์อื่น ๆ จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 10 ยูโรต่อท่าน) จากนั้นนำเดินทางสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัค (Slovak) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ สโลวัค ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก นำท่ านชมบรรยากาศของกรุงบราติสลาวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งสโลวัก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านถ่ายรูปด้านนอกคู่กับปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ซึ่งเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่สวยงามของกรุงบราติสลาว่าจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเบอร์โน (Brno) เมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสาธารณรัฐเชก และเป็นเมืองหลวงของแคว้นโมราเวียใต้ อันมีชื่อเสียงด้านไร่องุ่น และการทำไวน์ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ จึงทำให้ได้รับการ ยกย่องเป็นมรดกโลกจากองค์กรยุเนสโก้ในปีค.ศ. 2001 นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์และพอล (Cathedral of St. Peter and Paul) มหาวิหารสไตล์โกธิก และบารอก ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบอร์โน่บนเนินเขาเปตรอฟ (Petrov Hill) ซึ่งถือได้ว่าเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดของเมือง อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL VISTA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองคุทนา ฮอร่า (Kutna Hora) เมืองที่สำคัญและมีความสวยงามไม่แพ้กรุงปราก เนื่องจากเป็นเหมืองแร่เงินของยุโรปมาตั้งแต่ยุคกลาง จึงทำให้เมืองนี้มีความร่ำรวยไม่แพ้กรุงปราก และยังมีความสวยงามทางธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ จนได้รับการจดทะเบียนเข้าเป็นมรดกโลกจาก Unescoในปี ค.ศ 1995 จากนั้นนำชมโบสถ์โครงกระดูก (Sedlec Ossuary) อันโด่งดัง สถานที่ที่แปลกที่สุดในเมืองนี้ที่ ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่แปลกที่สุดในโลก เนื่องจากโบสถ์นี้ตกแต่งไปด้วยโครงกระดูกมนุษย์กว่า 70,000 ชิ้น กว่า 40,000 คน ทุกอย่างทำขึ้นจากกระดูกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโคมไฟระย้า แท่นบูชา ไปจนถึงตราสัญลักษณ์ตระกูล เหตุผลของการนำกระดูกมาตกแต่งคือ ตระกูลผู้ปกครองสัญชาติเยอรมันมอบหมายให้สถาปนิค ชื่อ Frantisek Rint สร้างสรรค์ผลงานจากกระดูกเพื่อเป็นการระลึกถึงการ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และสื่อให้เห็นว่าความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวาสไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ ชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน (เป็ดปักกิ่ง)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN PRAGUE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปา ที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพ ตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญท่านทดลองดื่มน้ำแร่ ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วพอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เป็ดโบฮิเมียน)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาเรียนสเก้ลาสเน่ (Marianske Lazne) เมืองแห่งสปาน้ำพุร้อนเพื่อสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงทางด้านบ่อน้ำแร่-น้ำพุร้อนระดับโลกอีกแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก อีกทั้งยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งสปา" ที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและผืนป่าอันสีเขียวขจี นำท่านเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนครีโซวี (Křížový pramen) หรือ ครอสสปริง เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดที่สุดของเมืองมาเรียนสเก้ลาสเน่ โดยบ่อน้ำพุ้ร้อนครีโซวี เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีธาตุเหล็กในปริมาณสูง อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าน้ำในบ่อน้ำพุร้อนยังมีสรรพคุณในเรื่องของการรักษา โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบ ทางเดินอาหารรวมไปถึงโรคภูมิแพ้อีกด้วย จากนั้นเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN PRAGUE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งเป็นธรรมเนียบของประธานาธิบดีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1819 จนถึงปัจจุบัน ชมมหาวิหารเซนต์ วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ที่สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) แล้วชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย นำท่านเดินชมย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึกวางจำหน่ายอยู่มากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เที่ยวชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปรค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำท่านชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองเชสกี้ บูดาโจวิช ( Cesky Budajovice)
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก SPA HOTEL VITA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่หมู่บ้านฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (ปลาจากทะเลสาบฮัลสตัท)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่รายล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955 และผ่านชมพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นเชิญช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton,Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer ,สินค้าเสื้อแฟชั่นวัยรุ่นทันสมัย เช่น Zara ,H&M ฯลฯ และสินค้าของฝาก เช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท ในย่านถนนคาร์ทเนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ซี่โครงหมูและหมูทอดเวียนนา)
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก LEONARDO HOTEL VIENNA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 – 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเดินทางสู่ Mc Arthur Glen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
23.25 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ OS025
14.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ราคา: บาท