เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงก็มีคำถามที่ว่า “เที่ยวยุโรป ประเทศไหนดี?”  จะบอกว่าจริง ๆ แล้ว “ยุโรป” เรียกได้ว่าเป็นดินแดนในฝันที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต แต่ละประเทศเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่หลากหลาย แถมแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง หรือหิมะขาวโพลนในฤดูหนาว 

สำหรับใครที่ใฝ่ฝันจะไป เที่ยวยุโรป แต่ยังลังเลเพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย การขอวีซ่า หรือการจัดตารางเดินทาง บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะทุกอย่างง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะหากเลือกจอง ทัวร์ยุโรป ที่จัดครบทั้งที่พัก อาหาร และโปรแกรมท่องเที่ยวสุดคุ้ม ที่สำคัญคือสามารถไปได้ด้วยงบเพียง “หลักหมื่น” เท่านั้น! และวันนี้ Travelzeed จะมาแนะนำ 16 ประเทศน่าเที่ยวในยุโรปที่ไม่ควรพลาด จะมีประเทศไหนบ้างไปดูกันได้เล๊ยยยยย!

1. สวิตเซอร์แลนด์ 🇨🇭 

เริ่มกันที่… สวิตเซอร์แลนด์  (Switzerland) ประเทศเล็ก ๆ ใจกลางยุโรป ที่ใครไปแล้วมักตกหลุมรักแน่นอน เพราะทุกอย่างดูสะอาด สงบ และเป็นระเบียบสุด ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหิมะสูง ทะเลสาบใส และหมู่บ้านเล็ก ๆ น่ารักที่เหมือนภาพในโปสการ์ดจริง ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ สายชมเมือง หรือสายชิม สวิตเซอร์แลนด์ก็มีครบ ทั้งการนั่งรถไฟชมวิวเทือกเขาแอลป์ เดินเล่นในเมืองเก่าสุดคลาสสิกอย่างซูริกหรือเบิร์น ไปจนถึงการลิ้มรสช็อกโกแลตและชีสที่ขึ้นชื่อ แถมยังเดินทางสะดวกอีกด้วยนะ ระบบขนส่งตรงเวลาเป๊ะ ผู้คนเป็นมิตรและสุภาพมาก ทำให้ที่นี่กลายเป็นกลายเป็นประเทศที่ใครได้มาก็อยากมาเที่ยวซ้ำอีก

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ซูริก (Zurich) เมืองใหญ่ที่ผสมผสานความโมเดิร์นกับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว เดินเล่นย่านเมืองเก่า แวะช้อปปิ้งถนน Bahnhofstrasse และนั่งจิบกาแฟริมทะเลสาบซูริกบรรยากาศชิลล์ ๆ
• ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองเล็กแต่น่ารัก มีสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันโด่งดัง และเป็นประตูสู่การขึ้นเขาพิลาทุส (Mt. Pilatus) หรือริกิ (Mt. Rigi) ที่วิวสวยสะกดใจ
• อินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เมืองระหว่างทะเลสาบสองแห่ง รายล้อมด้วยภูเขา สวรรค์ของสายผจญภัย และยังเป็นจุดเริ่มต้นสู่ยอดเขา Jungfraujoch หรือ “Top of Europe”
• เซอร์แมท (Zermatt) & ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ภูเขารูปทรงสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสัญลักษณ์สุดอลังการของสวิตฯ ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝัน
• เจนีวา (Geneva) เมืองนานาชาติริมทะเลสาบเจนีวา มีน้ำพุ Jet d’Eau อันเลื่องชื่อ พิพิธภัณฑ์หลากหลาย และบรรยากาศหรูหรา
• เบิร์น (Bern) เมืองหลวงสุดอบอุ่น มีเมืองเก่า (Old Town) ที่เป็นมรดกโลกยูเนสโก และหอนาฬิกา Zytglogge สัญลักษณ์ประจำเมือง

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์สวิตเซอร์แลนด์

2. เนเธอร์แลนด์ 🇳🇱

เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ฮอลแลนด์” เป็นประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปตะวันตกที่มีเสน่ห์เกินขนาดจริง ๆ สิ่งที่ทำให้เนเธอร์แลนด์น่าสนใจคือความหลากหลายในการท่องเที่ยว คุณสามารถเดินชมเมืองเก่าสุดโรแมนติกอย่างอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและคาเฟ่บรรยากาศชิลล์ ๆ หรือออกไปสัมผัสธรรมชาติในหมู่บ้านริมคลองสุดน่ารักอย่างกีธูร์น (Giethoorn) รวมถึงการไปชมทุ่งดอกไม้และกังหันลมที่ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงแห่งจักรยาน เต็มไปด้วยคลองสวย ๆ บ้านเรือนริมคลองสุดชิค และพิพิธภัณฑ์ระดับโลก
• กีธูร์น (Giethoorn) หมู่บ้านไร้ถนน ใช้เรือพายแทนรถยนต์ เงียบสงบและสวยงามราวเทพนิยาย
• สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) สวรรค์ของคนรักดอกไม้ เปิดช่วงฤดูใบไม้ผลิ พร้อมทุ่งทิวลิปหลากสีที่งดงามจนตะลึง
• ซานส์ สคันส์ (Zaanse Schans) หมู่บ้านกังหันลมโบราณที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวดัตช์ดั้งเดิม
• รอตเทอร์ดัม (Rotterdam) เมืองทันสมัยที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมสุดล้ำ และท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
• เมืองโบราณยูเทรคต์ (Utrecht) เมืองมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เต็มไปด้วยโบสถ์ วิหาร และคาเฟ่ริมคลองสุดชิล

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์สวิตเซอร์แลนด์

3. อังกฤษ 🇬🇧

อังกฤษ (England) เป็นประเทศที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว เมื่อพูดถึงอังกฤษ หลายคนคงนึกถึงลอนดอน เมืองที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กชื่อดัง รถบัสสองชั้นสีแดง และบรรยากาศแบบผู้ดีอังกฤษใช่ไหม? แต่เสน่ห์ของอังกฤษไม่ได้มีแค่นั้น ที่นี่เต็มไปด้วยความหลากหลาย คุณสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในลอนดอน จิบ Afternoon Tea แบบต้นตำรับ เดินเล่นในเมืองมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างอ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ หรือไปสัมผัสความอบอุ่นของหมู่บ้านใน Cotswolds ที่เหมือนหลุดออกมาจากนิทาน นอกจากนี้ อังกฤษยังเป็นดินแดนแห่งฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเป็นบ้านเกิดของศิลปินระดับโลกอย่าง The Beatles และ Adele อีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ลอนดอน (London) เมืองหลวงที่มีทั้งบิ๊กเบน, ลอนดอนอาย, พระราชวังบักกิงแฮม และพิพิธภัณฑ์ระดับโลก
• สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) สิ่งมหัศจรรย์ลึกลับจากยุคหินเก่า ที่ยังคงดึงดูดผู้คนให้ไปค้นหาความหมาย
• มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด และเคมบริดจ์ เมืองแห่งการศึกษาเก่าแก่และสถาปัตยกรรมสวยงามราวกับอยู่ในหนัง Harry Potter
• เมืองบาธ (Bath) เมืองโรมันโบราณที่มีบ่อน้ำร้อนและสถาปัตยกรรมหินสีทองอันเป็นเอกลักษณ์
• ลิเวอร์พูล & แมนเชสเตอร์ เมืองดังด้านฟุตบอลและดนตรี ที่แฟนกีฬาและแฟนเพลงไม่ควรพลาด

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์อังกฤษ

4. ออสเตรีย 🇦🇹

ออสเตรีย (Austria) ประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปกลางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของ เทือกเขาแอลป์ เมืองประวัติศาสตร์ และบรรยากาศโรแมนติกแบบยุโรปคลาสสิก ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยความลงตัวระหว่างธรรมชาติ ศิลปะ ดนตรี และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต นอกจากนี้ ออสเตรียยังผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกได้อย่างกลมกลืนมาก ๆ เท่านั้นยังไม่พอนะ ที่นี่ยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีระดับโลกอย่าง โมซาร์ท และ ชูเบิร์ต อีกด้วย จึงทำให้กลิ่นอายทางดนตรีและศิลปะอบอวลอยู่ทั่วประเทศเลย อบอุ่นสุด ๆ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• เวียนนา (Vienna) เมืองหลวงแห่งดนตรี เต็มไปด้วยพระราชวังหรูหรา เช่น พระราชวังเชินบรุนน์ และโรงอุปรากรระดับโลก
• ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) บ้านเกิดของโมซาร์ท เมืองเล็กที่โรแมนติกและเป็นฉากของภาพยนตร์ The Sound of Music
• ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านริมทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
• อินส์บรุค (Innsbruck) เมืองท่ามกลางขุนเขาแอลป์ ศูนย์กลางกีฬาฤดูหนาวและวิวพาโนรามาสุดตระการตา
• ลินซ์ (Linz) เมืองศิลปะร่วมสมัยที่ผสมผสานเสน่ห์เก่ากับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว
• ซังต์โวล์ฟกัง & โวล์ฟกังซี (St. Wolfgang & Wolfgangsee) เมืองเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ บรรยากาศเงียบสงบและวิวสวยจับใจ
• กือรทือส (Graz) เมืองใหญ่อันดับสอง เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากสไตล์

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์ออสเตรีย

5. ฝรั่งเศส 🇫🇷

ฝรั่งเศส (France) ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกและเสน่ห์แบบยุโรปสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตก โดดเด่นทั้งด้านศิลปะ แฟชั่น อาหาร และประวัติศาสตร์ การเดินทางมาที่นี่เหมือนการก้าวเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ตั้งแต่ถนนสายเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ ไปจนถึงพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังมีธรรมชาติสวยงาม ทั้งชายหาดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภูเขาแอลป์ ไปจนถึงไร่องุ่นสุดโรแมนติกในชนบทอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ปารีส (Paris) เมืองหลวงแห่งความโรแมนติก ชมหอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และช้อปปิ้งบนถนนช็องเซลีเซ
• พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles) ความยิ่งใหญ่หรูหราของราชวงศ์ฝรั่งเศสในอดีต
• นีซ และเฟรนช์ริเวียร่า (Nice & French Riviera) เมืองชายทะเลแสนสวย น้ำทะเลสีฟ้าใส บรรยากาศหรูหรา
• หุบเขาลัวร์ (Loire Valley) ดินแดนปราสาทและไร่องุ่นสุดโรแมนติก
• ชามอนี มงบลังค์ (Chamonix Mont-Blanc) จุดหมายของนักผจญภัยบนเทือกเขาแอลป์ ใกล้ยอดเขามงบล็องที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก
• มงต์แซงต์มิเชล (Mont Saint-Michel) เกาะกลางทะเลที่มีอารามเก่าแก่สุดตระการตา

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์ฝรั่งเศส

6. ไอซ์แลนด์ 🇮🇸

ไอซ์แลนด์ (Iceland) เป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของยุโรป ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันน่าทึ่งจนถูกขนานนามว่า “ดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง” เพราะมีทั้งภูเขาไฟ ป่าแข็ง น้ำตก ธารน้ำแข็ง และบ่อน้ำพุร้อนอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว บรรยากาศที่นี่สงบ สะอาด และมีเสน่ห์แบบดิบ ๆ ที่ไม่เหมือนที่ไหนบนโลก

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงเล็กแต่น่ารัก เต็มไปด้วยศิลปะร่วมสมัยและบรรยากาศชิล ๆ ริมทะเล
• เรคยาวิกทางเหนือ – อคูเรย์ริ (Akureyri) เมืองรองที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวธรรมชาติและโอกาสชมแสงเหนือ
• วงแหวนทองคำ (The Golden Circle) เส้นทางท่องเที่ยวสุดฮิต รวมทั้งน้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) บ่อน้ำพุร้อนเกย์ซีร์ (Geysir) และอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ (Þingvellir)
• บลูลากูน (Blue Lagoon) สปาธรรมชาติท่ามกลางบ่อน้ำร้อนสีฟ้าน้ำนมสุดผ่อนคลาย
• อุทยานสกาฟตาเฟล (Skaftafell) แหล่งท่องเที่ยวกลางธารน้ำแข็งและยอดเขาอลังการ
• ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล (Vatnajökull Glacier) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ยิ่งใหญ่อลังการ
• ลากูนธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบน้ำแข็งที่มีภูเขาน้ำแข็งลอยอยู่ เหมือนอยู่ในโลกอีกใบ

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์ไอซ์แลนด์

7. นอร์เวย์ 🇳🇴

นอร์เวย์ (Norway) ประเทศแห่งฟยอร์ดและธรรมชาติสุดอลังการของจริง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของยุโรป โดดเด่นด้วยภูเขาสูง ฟยอร์ดลึก น้ำตกไหลแรง และหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลที่เงียบสงบ บรรยากาศที่นี่ผสมผสานความทันสมัยของเมืองใหญ่กับเสน่ห์ชนบทอย่างลงตัว สำหรับใครที่เป็นสายธรรมชาติ บอกเลยว่าห้ามพลาดจริง ต้องบอกเลยว่านอร์เวย์คือสวรรค์บนดินจริง ๆ สวยจนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีธรรมชาติสวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ออสโล (Oslo) เมืองหลวงสุดชิค มีทั้งพิพิธภัณฑ์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมโมเดิร์น
• เบอร์เกน (Bergen) เมืองท่าเก่าแก่ จุดเริ่มต้นการล่องเรือชมฟยอร์ดที่ขึ้นชื่อที่สุดในนอร์เวย์ และมีบ้านไม้สีสันสดใส
• เกรังเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) ฟยอร์ดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
• โทรมโซ (Tromsø) เมืองหลวงแห่งแสงเหนือ จุดหมายยอดฮิตในฤดูหนาวสำหรับการชมแสงออโรร่า
• โลโฟเทน (Lofoten Islands) หมู่เกาะเล็ก ๆ ที่ เต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมงและวิวภูเขาริมทะเล
• โทรลล์ทังกา (Trolltunga) หินแผ่นยื่นสุดหวาดเสียว เหมาะสำหรับสายผจญภัยที่ชอบ hiking

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์นอร์เวย์

8. อิตาลี 🇮🇹

อิตาลี (Italy) เป็นประเทศในยุโรปใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกและศิลปะคลาสสิกที่แฝงอยู่ในทุกมุม ตั้งแต่ซากโรมันโบราณไปจนถึงเมืองที่เต็มไปด้วยแฟชั่นและของอร่อยอย่างพิซซ่าและพาสต้าที่เป็นต้นตำรับแท้ ๆ ใครที่มาอิตาลีจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศเมืองเก่า ศิลปะระดับโลก และวิวธรรมชาติสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ หรือชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• โรม (Rome) เมืองหลวงอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งโคลอสเซียม น้ำพุเทรวี และนครวาติกัน
• เวนิส (Venice) เมืองแห่งสายน้ำ ล่องกอนโดลาในคลองโรแมนติก และจัตุรัสซานมาร์โก
• ฟลอเรนซ์ (Florence) แหล่งกำเนิดศิลปะเรอเนซองส์ ชมมหาวิหารดูโอโม่และผลงานของมิเกลันเจโล
• มิลาน (Milan) เมืองแฟชั่นระดับโลก และมหาวิหารดูโอโม่สุดอลังการ
• ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) เส้นทางเลียบทะเลที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านหลากสี ติดอันดับวิวโรแมนติกที่สุดในโลก
• เวโรนา (Verona) บ้านของโรมิโอกับจูเลียต บรรยากาศโรแมนติกเต็มเมือง

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์อิตาลี

9. ฟินแลนด์ 🇫🇮 

ฟินแลนด์ (Finland) หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า “ดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน” และ “บ้านเกิดซานตาคลอส” เป็นประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปเหนือที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามแบบเรียบง่ายและสงบ ฟินแลนด์ขึ้นชื่อเรื่องป่าไม้ ทะเลสาบนับหมื่นแห่ง และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนในแต่ละฤดู โดยเฉพาะในหน้าร้อนจะมีแดดยาวถึงเที่ยงคืน ส่วนหน้าหนาวก็มาพร้อมหิมะและบรรยากาศล่าแสงเหนืออีกด้วยนะ นอกจากธรรมชาติแล้ว ฟินแลนด์ยังติดอันดับประเทศที่มี “ความสุขที่สุดในโลก” หลายปีซ้อน ผู้คนมีวิถีชีวิตที่รักความสงบ รักธรรมชาติ และยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและนวัตกรรม ใครไปเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรและความอบอุ่นแบบสแกนดิเนเวียแท้ ๆ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• เฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองหลวงที่ผสมผสานความทันสมัยกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เช่น โบสถ์เฮลซิงกิสีขาวโดดเด่น และตลาดกลางเมืองที่เต็มไปด้วยอาหารพื้นเมือง
• โรวานีเอมิ (Rovaniemi) เมืองบ้านเกิดซานตาคลอส ที่เด็กและผู้ใหญ่ก็สนุกได้ พร้อมกิจกรรมฤดูหนาวอย่างสโนว์โมบิลและลากเลื่อนหมาไซบีเรียนฮัสกี้
• แลปแลนด์ (Lapland) จุดไฮไลต์สำหรับการดูแสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝัน
• ทะเลสาบไซม่า (Lake Saimaa): หนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของฟินแลนด์ เหมาะกับการล่องเรือและชมธรรมชาติในหน้าร้อน
• คูซาโม & รูกา (Kuusamo & Ruka) เมืองแห่งกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสกี เดินป่า หรือคายัก
• เลวี่ (Levi): สกีรีสอร์ทชื่อดังที่สายเล่นสกีและสโนว์บอร์ดต้องไม่พลาด

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์ฟินแลนด์

10. โปแลนด์ 🇵🇱

โปแลนด์ (Poland) คือประเทศที่ตั้งอยุ่ในยุโรปกลางเต็มไปด้วยเสน่ห์สุดคลาสสิก และผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ใคร ใครที่ชอบเมืองเก่าแบบยุโรปแท้ ๆ จะต้องตกหลุมรักที่นี่แน่นอน เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่ยังคงรักษาความงามดั้งเดิมเอาไว้ จริง ๆ แล้วประเทศนี้เคยผ่านทั้งสงครามและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกเมืองมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญค่าครองชีพยังถือว่า “คุ้มค่า” เมื่อเทียบกับหลายประเทศในยุโรป ทำให้โปแลนด์กลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกที่จะมาเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• วอร์ซอ (Warsaw) เมืองหลวงที่ผสมผสานความทันสมัยกับเมืองเก่าที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่หลังสงครามโลก เดินเล่นย่านเมืองเก่า (Old Town) แล้วจิบกาแฟในบรรยากาศสบาย ๆ
• คราคูฟ (Kraków) เมืองประวัติศาสตร์สุดโรแมนติกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของโปแลนด์ ไฮไลท์คือจัตุรัสตลาดเก่า (Main Market Square) และปราสาทวาเวล (Wawel Castle)
• เหมืองเกลือวิเลชกา (Wieliczka Salt Mine) สิ่งมหัศจรรย์ใต้ดินที่มีโบสถ์ ห้องโถง และประติมากรรมแกะสลักจากเกลือทั้งหมด และเป็นแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก
• ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz) สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ชวนให้เรียนรู้และระลึกถึงบทเรียนจากสงครามโลก
• เทือกเขาทาทรา (Tatra Mountains) จุดหมายปลายทางของคนรักธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขาหรือสกีในฤดูหนาว
• วร็อตสวาฟ (Wrocław) เมืองแห่งสะพานและลำคลองที่มีบรรยากาศคล้ายเวนิส พร้อมตุ๊กตาคนแคระกระจายอยู่ทั่วเมืองให้ตามล่าถ่ายรูปสนุก ๆ
• ซาโคปาเน (Zakopane) เมืองตากอากาศท่ามกลางเทือกเขาทาทรา เหมาะกับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นสกีหน้าหนาว หรือเดินป่าหน้าร้อน

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์โปแลนด์

11. ฮังการี 🇭🇺

ฮังการี (Hungary) เป็นประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปกลางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทั้งแม่น้ำสวย สถาปัตยกรรมสุดอลังการ และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองหลวงบูดาเปสต์ (Budapest) ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เพราะมีแม่น้ำดานูบไหลผ่านแบ่งเมืองออกเป็นสองฝั่ง คือ บูดา ที่สงบและเต็มไปด้วยปราสาท และ เปสต์ ที่คึกคักทันสมัย ผสมผสานกันอย่างลงตัว

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• บูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงสุดโรแมนติกที่ถูกขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” โดดเด่นด้วยรัฐสภาฮังการีอันงดงาม และสะพานเชนที่เชื่อมเมืองบูดากับเมืองเปสต์
• บ่อน้ำพุร้อนเซเชนยี (Széchenyi Thermal Bath) สปาธรรมชาติกลางแจ้งที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผ่อนคลายท่ามกลางสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกที่เปิดให้ลงแช่ได้ทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว
• ปราสาทบูดา (Buda Castle) มรดกโลกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวิวเมืองที่สวยงาม
• ทะเลสาบบาลาตอน (Lake Balaton) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลาง เป็นแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของชาวฮังการีในช่วงหน้าร้อน
• เอเกอร์ (Eger) เมืองเล็ก ๆ น่ารักที่มีไวน์แดงรสเลิศและสถาปัตยกรรมบารอก
• รัฐสภาฮังการี (Hungarian Parliament) อาคารสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิคริมแม่น้ำดานูบที่สวยงามจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ
• สะพานเชน (Chain Bridge) สะพานแขวนเก่าแก่ที่เชื่อมบูดาและเปสต์ เข้าด้วยกัน เป็นจุดชมวิวที่โรแมนติกในยามค่ำคืน

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์ฮังการี

12. กรีซ 🇬🇷

กรีซ (Greece) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป โดดเด่นด้วยภูมิอากาศเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและสดใส เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแทบทุกฤดูกาล กรีซมีเกาะมากกว่า 6,000 เกาะ (แต่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงประมาณ 200 เกาะ) แต่ละเกาะก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว บางแห่งสงบเงียบเป็นธรรมชาติ ขณะที่บางแห่งเต็มไปด้วยสีสันและความคึกคัก ส่วนแผ่นดินใหญ่เองก็เต็มไปด้วยโบราณสถานที่ยิ่งใหญ่ และเมืองเก่าที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• เอเธนส์ (Athens) เมืองหลวงสุดคลาสสิก จุดกำเนิดอารยธรรมตะวันตกและสถานที่ตั้งวิหารพาร์เธนอนอันยิ่งใหญ่
• ซานโตรินี (Santorini) เกาะสวรรค์ริมทะเลอีเจียน บ้านสีขาวตัดกับหลังคาสีฟ้า วิวพระอาทิตย์ตกโรแมนติกสุด ๆ
• มิโคนอส (Mykonos) เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทราย น้ำทะเลใส และชีวิตยามค่ำคืนสุดคึกคัก
• ซาคินทอส (Zakynthos) เกาะที่มีหาดซากเรือแตกอันเลื่องชื่อ พร้อมน้ำทะเลสีฟ้าครามใสสะอาด
• ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Caves) ธรรมชาติสร้างสรรค์หินปูนที่เมื่อกระทบแสงแดดแล้วจะสะท้อนเป็นสีน้ำเงินสวยงามตระการตา
• เดลฟี (Delphi): สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเทพอพอลโลในตำนาน กรีกโบราณเชื่อว่าเป็น “ศูนย์กลางโลก”
• เมทีโอรา (Meteora): อารามที่ตั้งตระหง่านบนหน้าผาสูง สวยจนเหมือนฉากในหนังแฟนตาซี

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์กรีซ

13. สเปน 🇪🇸

สเปน (Spain) ดินแดนแห่งศิลปะและสีสัน ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายไม่เหมือนใคร สเปนคือประเทศที่ผสมผสานประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่กับวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ตั้งแต่วิหารเก่าแก่ สนามฟุตบอลระดับโลก ไปจนถึงการเต้นระบำฟลามิงโกสุดเร่าร้อน 

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• บาร์เซโลนา (Barcelona) เมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมของกาวดี้ (Gaudí) ชมมหาวิหารซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) และเดินเล่นริมถนนลา รัมบลา
• มาดริด (Madrid) เมืองหลวงสุดคึกคัก เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลก เช่น พิพิธภัณฑ์ปราโด (Prado Museum) และจัตุรัสปูเอร์ตา เดล โซล (Puerta del Sol) จุดศูนย์กลางของประเทศ และสนามฟุตบอลซานติอาโก เบร์นาเบว
• เซบีญา (Seville) เมืองแห่งระบำฟลามิงโก และสถาปัตยกรรมสเปนผสมอาหรับ เช่น มหาวิหารเซบียา (Seville Cathedral)
• กรานาดา (Granada) ชมพระราชวังอาลัมบรา (Alhambra) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคใหม่ที่ผสมผสานศิลปะอิสลามกับยุโรป
• ซานเซบัสเตียน (San Sebastián) เมืองริมทะเลแคว้นบาสก์ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารและชายหาดสุดชิล

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์สเปน

14. โปรตุเกส 🇵🇹

โปรตุเกส (Portugal) ประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมคาบสมุทรไอบีเรีย เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งท้องทะเล การสำรวจโลก และวัฒนธรรมที่อบอุ่นมาก ผู้คนเป็นมิตร แถมอาหารอร่อยด้วย โดยเฉพาะเมนูปลาและขนมหวานอย่างพาสเทล เดอ นาทา (Pastel de Nata) หรือ ทาร์ตไข่ นั่นเองค่ะ บอกเลยว่าใครได้ลองก็ติดใจแน่นอน ในส่วนของบรรยากาศโดยรวมของโปรตุเกสให้ความรู้สึกชิล ๆ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์มากมาย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงที่มีทั้งความคลาสสิกและโมเดิร์น นั่งรถรางสีเหลืองชมเมือง แวะ หอคอยแห่งเซนต์วินเซนต์ (Belém Tower) และอารามเจอโรนิโมส (Jerónimos Monastery)
• ปอร์โต (Porto) เมืองไวน์พอร์ตชื่อดัง ริมแม่น้ำดูโร เต็มไปด้วยบ้านสีสดและสะพานสวย ๆ อย่างสะพานดอม หลุยส์ที่ 1 (Dom Luís I Bridge)
• ซินตรา (Sintra) เมืองปราสาทสุดแฟนตาซี อย่างพระราชวังเปญา (Palácio da Pena) ที่สีสันสดใสราวเทพนิยาย
• ฟารู (Faro) & แอลการ์ฟ (Algarve) ชชายฝั่งตอนใต้ที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายสีทอง น้ำทะเลใส และหน้าผาหินสวย ๆ จนติดอันดับโลก
• ฟาติมา (Fátima) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา จุดหมายสำคัญของผู้แสวงบุญ
• มาเดรา (Madeira) เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการเดินป่าและชมวิวทะเล

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์โปรตุเกส

15. โครเอเชีย 🇭🇷

โครเอเชีย (Croatia) ดินแดนริมทะเลเอเดรียติกที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ โครเอเชียโดดเด่นด้วยเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ราวกับก้าวเข้าไปในโลกยุคกลาง บวกกับทะเลสีฟ้าใสและธรรมชาติอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย น้ำตก หรืออุทยานแห่งชาติ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) เมืองมรดกโลกริมทะเลที่ถูกขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งเอเดรียติก” และยังเป็นโลเคชันถ่ายทำ Game of Thrones อีกด้วย
• ซาดาร์ (Zadar) เมืองเก่าที่มีพระอาทิตย์ตกดินสวยติดอันดับโลก พร้อมเสียงดนตรีจาก Sea Organ สุดแปลกไม่เหมือนใคร
• ซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงที่ผสมผสานความคลาสสิกของยุโรปตะวันออกกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
• อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park) ไฮไลท์ทางธรรมชาติที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตเชื่อมกันด้วยน้ำตกสวยอลังการ
• สปลิท (Split) เมืองท่าริมทะเลที่มีพระราชวังไดโอคลีเชียนและชายหาดชวนพักผ่อน

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์โครเอเชีย

16. บัลแกเรีย 🇧🇬

ปิดท้ายกันด้วย… บัลแกเรีย (Bulgaria) ประเทศที่ซ่อนตัวอยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน อาจไม่ดังเปรี้ยงเหมือนฝรั่งเศสหรืออิตาลี แต่เชื่อไหมว่าที่นี่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทั้งภูเขาสวย ทะเลดำ เมืองเก่า และวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ผสมผสานระหว่างยุโรปตะวันตกกับตะวันออก บัลแกเรียคือหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิด โยเกิร์ต ที่คนทั่วโลกหลงรักอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

• โซเฟีย (Sofia) เมืองหลวงที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมยุคโรมัน โซเวียต และความทันสมัยเข้าด้วยกัน ไฮไลท์ คือ มหาวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky)
• พลอฟดิฟ (Plovdiv) เมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ที่ยังคงมีโรงละครโรมันและย่านเมืองเก่าที่เป็นถนนหินโบราณให้เดินเล่น
• เนสเซบาร์ (Nessebar) เมืองชายทะเลมรดกโลกริมทะเลดำ เต็มไปด้วยโบสถ์เก่าและบ้านไม้โบราณ
• รีล่า มอนนาสเทอรี (Rila Monastery) อารามเก่าแก่กลางหุบเขา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก
• บานสโก (Bansko) เมืองตากอากาศชื่อดัง อยู่ท่ามกลางภูเขาริลา (Rila) และพิริน (Pirin) ขึ้นชื่อเรื่องสกีรีสอร์ทและวิวธรรมชาติ เหมาะสำหรับสายสกีและกิจกรรมฤดูหนาว

คลิ๊กเลย!!! 👉 ชมทัวร์บัลแกเรีย