ทัวร์ซีอาน 2568 เจาะลึกเมืองหลวงจีนยุคโบราณ มรดกโลกน่าทึ่ง

ซีอาน หรือชื่อเดิมว่า ฉางอาน แปลว่า “เมืองแห่งสันติ” เป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี (Shaanxi) ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศจีน ซีอานเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์สำคัญหลายราชวงศ์ อาทิ โจว ฮั่น และถัง อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมโยงโลกตะวันออกและตะวันตกในอดีต ปัจจุบัน ซีอานยังคงเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมจีนโบราณ ควบคู่กับการพัฒนาในด้านระบบคมนาคม การศึกษา และอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดคือ กองทัพทหารดินเผา มรดกโลกที่สร้างขึ้นเพื่อพิทักษ์จักรพรรดิฉินในชีวิตหลังความตาย อีกทั้งยังมีวัด เจดีย์ และกำแพงเมืองโบราณที่บอกเล่าความรุ่งเรืองของซีอานในอดีตได้อย่างชัดเจน

สภาพภูมิอากาศของซีอาน

ซีอาน เป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีนที่มีสภาพภูมิอากาศแบบ อบอุ่นกึ่งชื้นภาคพื้นทวีป (Temperate Continental Climate) โดยมี 4 ฤดูชัดเจนตลอดปี ได้แก่ :

• ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าแจ่มใส ดอกไม้เริ่มบาน เหมาะแก่การท่องเที่ยว

• ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อากาศค่อนข้างร้อน โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26–27°C บางวันอาจสูงถึง 35°C

• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเริ่มลดลง อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่งใส เป็นฤดูยอดนิยมในการท่องเที่ยว

• ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อากาศหนาวจัด โดยเฉพาะเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 0°C และบางวันอาจต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง (-1°C หรือต่ำกว่า) มีโอกาสหิมะตกเบา ๆ บางช่วง

เคล็ดลับการแต่งกาย

ฤดูใบไม้ผลิ : ควรสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวที่ให้ความอบอุ่น แต่ไม่หนาจนเกินไป เช่น เสื้อไหมพรมบางๆ และควรพกเสื้อโค้ทยาวติดตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่นในวันที่อากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูที่อาจมีอากาศหนาวเย็น

ฤดูร้อน : ควรเตรียมอุปกรณ์กันแดด เช่น เสื้อผ้ากันแดด ร่ม และอุปกรณ์กันฝน เพื่อป้องกันการตากฝนและลดการเป็นหวัด

ฤดูหนาว : สวมเสื้อผ้าชั้นในที่อบอุ่นและเสื้อคลุมภายนอก พร้อมอุปกรณ์กันหนาวสำหรับการเดินทางในช่วงหิมะตก เช่น รองเท้าบูทกันหิมะ หรือรองเท้าฤดูหนาว และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อป้องกันความแห้งกร้าน

ฤดูใบไม้ร่วง : ควรเลือกสวมเสื้อโค้ทหนาหรือแจ็กเก็ต พร้อมผ้าพันคอและหมวกไหมพรม เพราะอากาศจะเย็นและแห้ง การเลือกกางเกงผ้าฝ้ายหรือผ้าวูลก็จะช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและสบายมากขึ้นในช่วงนี้

แนะนำที่เที่ยวในซีอาน

1. กองทัพทหารดินเผา (Terracotta Army)

กองทัพแห่งความเงียบที่ฝังลึกใต้พื้นดินในเมืองซีอาน รูปปั้นนักรบดินเผาและม้าศึกที่จำลองกองทัพของจักรพรรดิฉินชิฮวง ถูกฝังไว้เพื่อปกป้องจักรพรรดิในชีวิตหลังความตาย รูปปั้นเหล่านี้แสดงถึงความกล้าหาญของทหารในยุคฉิน เป็นหนึ่งในการค้นพบทางโบราณคดีที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 พิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ 3 หลุมขุดค้นและ 1 หอแสดง ไฮไลต์สำคัญคือรูปปั้นที่มีขนาดเท่าคนจริงและใบหน้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แม้ว่าสีของรูปปั้นจะซีดลงจากสภาพอากาศและระยะเวลา แต่ยังคงสะท้อนความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ในปี 1987 กองทัพเทอราคอตต้าแห่งจักรพรรดิฉินได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก (UNESCO)

2. กำแพงเมืองโบราณซีอาน (Xian Ancient City Wall - Cheng Qiang)

สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองซีอาน กำแพงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง มีลักษณะเป็นแนวกำแพงสูงทอดยาว รอบกำแพงประดับด้วยหอคอยและป้อมยามที่เคยใช้สำหรับให้ทหารตรวจตราเมืองในอดีต ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์ย้อนยุคจีน ปัจจุบันกำแพงเมืองโบราณซีอานได้รับการดูแลและอนุรักษ์เป็นอย่างดี กลายเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นหรือปั่นจักรยาน พร้อมชมทัศนียภาพของเมืองซีอานจากมุมสูงได้อย่างเพลิดเพลินตลอดแนวกำแพง

3. บ่อฮว่าเฉิง (Huaqing Pool)

บ่อน้ำแห่งความรักแสนโรแมนติกในประวัติศาสตร์ขององค์จักพรรดิถังซวนจง และพระนางหยางกุ้ยเฟย  จักรพรรดิสร้างบ่อน้ำพุร้อนจักรพรรดิสำหรับไว้อาบน้ำของพระนางหยางกุ้ยเฟย อยู่ในพระราชวังสถาปัตยกรรมราชวงศ์ถัง และมีหลายโซนที่น่าสนใจ ทั้งความงดงามของธรรมชาติ พร้อมบ่อน้ำพุร้อนจักรพรรดิ ตั้งอยู่เชิงเขาหลี่ซานทางตอนเหนือ และอยู่ใกล้กับกองทัพทหารดินเผา เป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ วรรณกรรม และเรื่องราวความรักของราชวงศ์ รวมถึงการแสดงที่น่าประทับใจเมื่อเข้าชม 

4. หอกลองซีอาน (Xian Drum Tower)

หอกลองซีอาน เป็นอาคารคู่แฝดกับ หอระฆังซีอาน โดยในอดีตชาวจีนนิยม ตีระฆังในช่วงเช้า และ ตีกลองในช่วงค่ำ เพื่อบอกเวลาในแต่ละวัน จึงมักพบว่าทั้งสองอาคารนี้ตั้งอยู่เคียงข้างกัน หอกลองแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัย ราชวงศ์หมิง และเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่เลื่องชื่อ เนื่องจาก ไม่มีการใช้ตะปูเหล็กแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้าง บนชั้นสองของหอกลองมี กลองตั้งประดับอยู่จำนวน 24 ใบ ซึ่งแทน 24 ฤดูกาลจีนโบราณ กลองเหล่านี้จัดแสดงเพื่อความสวยงามเท่านั้นและ ห้ามสัมผัส ไฮไลต์ของที่นี่คือ กลองใหญ่พิเศษ ซึ่งเปิดให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ ในเวลากลางคืน หอกลองจะถูกประดับไฟอย่างงดงาม ดูสง่าและน่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมี นิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรมกลองจีน จัดแสดงภายในอาคาร พร้อมทั้งสามารถ ชมวิวเมืองซีอานได้แบบ 360 องศา จากบริเวณชั้นบนของหอกลองอีกด้วย 

5. หอระฆัง (Bell Tower)

หอระฆังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซีอาน สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง และได้รับการปรับปรุงใหม่ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีจุดประสงค์ในการแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ เช่น การเตือนภัย หรือแจ้งเวลาต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนในสมัยโบราณ เป็นหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการอนุรักษ์อย่างดีจากทั้งสองราชวงศ์ การออกแบบหอระฆังมีลักษณะเด่นที่เสาสีแดงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมในยุคนั้นมีชายคาทั้งหมด 3 ชั้น แม้ว่าตัวอาคารจะมีความสูงเพียง 2 ชั้น ซึ่งสะท้อนความงามและความแข็งแกร่งของการออกแบบจีนโบราณ การมาเยือนหอระฆังในช่วงเวลากลางคืนจะทำให้คุณได้เห็นความงดงามของหอระฆังที่ถูกประดับด้วยแสงไฟ สร้างบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่และสง่างาม

6. เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Giant Wild Goose Pagoda)

สัญลักษณ์แห่งพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายไหม เจดีย์ห่านป่าใหญ่ หรือ "Dayan Pagoda" เป็นสถานที่สำคัญเชิงศาสนาและวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์ถัง อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาพระไตรปิฎก พระพุทธรูป และพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระภิกษุเสวียนจั้ง (Xuan Zang) ได้นำกลับจากอินเดียหลังการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนา เจดีย์สร้างด้วยอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบกรวย จำนวน 5 ชั้น ต่อมาบูรณะจนมี 7 ชั้น ภายในมีบันไดวนให้ขึ้นชมวิวเมืองซีอานจากหน้าต่างทรงโค้งทั้งสี่ทิศ

7. เมืองแกรนด์ถังไดนาสตี้ เอเวอร์ ไบรท์ ซิตี้ (Grand Tang Dynasty Ever Bright City)

เมืองแกรนด์ถังไดนาสตี้ เอเวอร์ ไบรท์ ซิตี้ (Grand Tang Dynasty Ever Bright City) เมืองที่นำเสนอความรุ่งเรืองของสมัยราชวงศ์ถังในรูปแบบทันสมัย พร้อมการแสดงแสง สี เสียงในยามค่ำคืน ที่สร้างบรรยากาศย้อนยุคไปยังยุคสมัยนั้น โดยแบ่งเป็นหลายจตุรัสทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ตกแต่งด้วยธีมสีสดใสและรูปปั้นธีมต่างๆ และหลากหลายกิจกรรมบนลานกว้าง รายล้อมด้วยอาคารสไตล์จีนย้อนยุค คุณสามารถสวมใส่ฮั่นฟู่ (汉服) เดินผ่านแสงไฟและเงาที่สร้างความคึกคัก เพลิดเพลินกับการฟังเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น ชิมอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ และสัมผัสการแสดงและประติมากรรมที่นำเสนอความงดงามของจีนอย่างแท้จริง

อาหารพื้นเมืองซีอาน

1. บะหมี่เย็น ( Liang Pi )

“บะหมี่เย็น” หรือ Liangpi เป็นอาหารพื้นถิ่นยอดนิยมของซีอานที่ไม่ควรพลาด โดดเด่นด้วยเส้นเหนียวนุ่มจากแป้งล้างที่ผ่านการตกตะกอนและนึ่ง ก่อนคลุกกับผักสด กระเทียม น้ำมันพริก น้ำส้มสายชู และซีอิ๊ว ให้รสเผ็ดเปรี้ยวสดชื่น เหมาะสำหรับคลายร้อนในฤดูร้อน ทั้งยังมีการเติมชิ้นกลูเตนเพิ่มรสสัมผัสและโปรตีน โดยมีตำนานเล่าว่าเมนูนี้ถือกำเนิดตั้งแต่สมัยฉินซีฮ่องเต้ เพื่อช่วยบรรเทาความขาดแคลนอาหารในช่วงหน้าแล้ง

2. ซุปขนมปังฉีก Pao Mo (bread soup)

อาหารขึ้นชื่อประจำเมืองซีอาน “เป้า โหมว” จุดเด่นของเมนูนี้คือขนมปังที่ทำขึ้นโดยไม่ใส่ยีสต์ ทำขนมปังให้เป็นชิ้นเล็กๆ นำไปแช่ลงกับน้ำซุปเนื้อแกะหอมๆที่มีรสชาติกลมกล่อม เมนูนี้เพิ่มเส้นก๋วยเตี๋ยวและผักลงไปได้ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ การฉีกขนมปังที่มีชิ้นเล็กและละเอียดมากเท่าไหร่จะยิ่งทำให้ รสชาติของขนมปังกับซุปเนื้อแกะมีความอร่อยมากขึ้นตามไปด้วย ในช่วงหน้าหนาวยิ่งทานอร่อยเป็นซุปอุ่นๆ 

3. โร่วเจียโหมว Rou Jia Mo (pork sandwich)

เมนูที่หลายคนเรียกกันว่า “แฮมเบอร์เกอร์จีน” เป็นเมนูแซนด์วิชสไตล์ซีอานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยนำเนื้อหมูที่ผ่านการตุ๋นอย่างช้า ๆ หลายชั่วโมงจนเนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟในขนมปังแบนแบบจีนที่ไม่ใส่ยีสต์ ซึ่งย่างให้มีความกรอบด้านนอกและแน่นหนึบด้านใน ต่างจากขนมปังฝรั่งทั่วไป เนื้อสัตว์ที่ใช้มักเป็นหมูหรือเนื้อแกะ พร้อมเสิร์ฟกับน้ำเกรวี่ข้น ๆ เพิ่มกลิ่นหอมด้วยผักชี และรสเผ็ดมันจากพริกกรอบ กลายเป็นรสชาติที่กลมกล่อม ชวนให้น่าทาน

4. ซุปเกี๊ยวเปรี้ยวเผ็ด (Hot and Sour Dumpling Soup) 

“เกี๊ยวเสฉวนรสเผ็ดเปรี้ยว” เป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยรสเผ็ดจากน้ำมันพริก ซีอิ๊วดำ และซอสถั่วเหลือง ผสมกับรสเปรี้ยวจัดจ้านจากน้ำส้มสายชูที่ต้องใส่ในปริมาณมาก เพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อมเฉพาะตัวตามแบบฉบับดั้งเดิม ไส้เกี๊ยวมีความแน่น โดยนิยมใช้เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ ผสมกับต้นหอมซอยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม จากนั้นนำเกี๊ยวไปต้มในน้ำเดือดจนสุกและเนื้อแป้งพองนุ่ม แล้วนำไปลอยในซุปเกี๊ยวรสเผ็ดเปรี้ยวที่เตรียมไว้ เสิร์ฟร้อน ๆ กลายเป็นจานที่ทั้งเผ็ด หอม เปรี้ยว และอร่อยกลมกล่อมในคำเดียว 

5. ขนมน้ำตาลทรายแดง (Hong Tang Ci Ba (brown sugar mochi)

“หงถางซือปา” ขนมหวานสไตล์จีนที่ไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ของแป้งที่เหนียวนุ่มหนุบหนับคล้ายโมจิ ทำจากข้าวเหนียวตำสด สอดไส้ถั่วแดงกวน ก่อนนำไปนึ่งและทอดจนได้เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในอย่างลงตัว ชูรสด้วยน้ำตาลทรายแดงกวนเข้มข้น เคลือบทั่วชิ้นขนม จากนั้นโรยหน้าด้วยผงงาคั่วหอม ๆ หรือจะเพิ่มความพิเศษด้วยน้ำผึ้ง ผลไม้อบแห้ง ถั่วลิสงคั่ว หรือเมล็ดธัญพืชตามใจชอบ มักเสิร์ฟมาในรูปแบบกล่อง จัดเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เหมาะเป็นของหวาน ของฝากที่รสชาติหวานละมุน เคี้ยวสนุก ให้ความรู้สึกเหมือนได้ลิ้มลองโมจิกรอบ ๆ ผสมน้ำตาลหอม ๆ ฟินสุดๆ 

บทส่งท้าย

ซีอาน คือ การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย สัมผัสเสน่ห์ของเมืองแห่งประวัติศาสตร์ กับแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง กองทัพเทอราคอตต้า, กำแพงเมืองโบราณ และ บ่อฮว่าเฉิง ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับสู่ยุคทองของจีน ขณะเดียวกันก็ไม่พลาด เมืองแกรนด์ถังไดนาสตี้ ที่ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของสมัยราชวงศ์ถัง นอกจากความงดงามทางประวัติศาสตร์แล้ว ซีอานยังเป็นสวรรค์ของอาหาร! ลิ้มรส บะหมี่เย็น ที่มีรสชาติสดชื่น และ ซุปขนมปังฉีกน้ำซุปแกะ  

หากคุณกำลังมองหาการผจญภัยใหม่ ๆ พร้อมทั้งความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรมและอาหาร ทัวร์ซีอาน คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด! และสำหรับใครที่ต้องการความสะดวกสบาย Travelzeed พร้อมให้บริการ ช่วยให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ