ทัวร์อิตาลี 2567: แนะนำเมืองน่าเที่ยวตลอดกาลในประเทศอิตาลี

เมืองหลวง

กรุงโรม (Rome) เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของ ประเทศอิตาลี ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองอันเป็นนิรันดร์ (Eternal city) ที่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมัน โดยที่นี่มีแหล่งอารยธรรมระดับโลกมากมาย ทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และประวัติศาสตร์

คนอิตาลีพูดภาษาอะไร?

ภาษาราชการที่ใช้คือ ภาษาอิตาเลียน (Italian) และใช้ ภาษาเยอรมัน (German) เป็นภาษารอง โดยภาษาอิตาลีถูกจัดในกลุ่มภาษาโรมานซ์ ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน เช่นเดียวกับพวก ภาษาสเปน ภาษาโปรตุเกส และภาษาฝรั่งเศส

สัญชาติ

สัญชาติ และเชื้อชาติของคนอิตาลีส่วนใหญ่ คือ อิตาเลียน แต่ก็เพียงมีชนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่มีสัญชาติ และเชื้อชาติอื่น ๆ อย่างเช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส สโลเวเนีย และแอลเบเนีย เป็นต้น

โคลอสเซียม (Colosseum) กรุงโรม ถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวิศวกรรม รวมถึงความยิ่งใหญ่ของโรมันตั้งแต่โบราณ เป็นอัฒจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังขึ้นเป็นมรดกโลกที่สําคัญขององค์การยูเนสโก (UNESCO)

อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน กลาดิเอเตอร์ และการแสดงตระการตามาเป็นเวลายาวนานกว่า 400 ปี สําหรับใครที่สนใจอยากจะมาเที่ยวกรุงโรมในปีนี้ ช่วงเดือนเมษายนจนถึงเดือนมิถุนายน และตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงเดือนตุลาคม 2567 ก็เป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การมาเที่ยวชมมากค่ะ

มหาวิหารซานมาร์โค หรือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (Basilica di San Marco / St. Mark's Basilica) เป็นมหาวิหารอันงดงามที่มี่ชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่า Chiesa d’oro หรือ โบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 เป็นตัวอย่างสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบ ไบแซนไทน์

ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้ชมเข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเวนิส ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของคริสตจักรจึงทำให้เป็นมหารวิหารที่มีเรื่องราว และตำนานอันน่าสนใจอยู่มากมาย เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมเนื่องจากมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนาเป็นอย่างมากค่ะ

มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดูโอโม ตั้งอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของเมือง มีชื่อเสียงในด้านโดมที่น่าประทับใจ ด้วยโดมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถูกออกแบบโดยบรูเนลเลสชิ

ผู้เข้าชมสามารถปีนขึ้นไปด้านบนเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองฟลอเรนซ์ จิตรกรรมฝาผนังอันน่าทึ่งภายในอาสนวิหาร และชื่นชมสถาปัตยกรรมแบบโกธิกอันน่าทึ่งได้ที่นี่

หอเอนเมืองปิซา (Tower of Pisa) หอคอยอันโดดเด่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในจัตุรัส Piazza dei Miracoli เมืองปิซา มีชื่อเสียงในด้านความเอียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในมุมมองที่แปลกตา

โดยที่นี่ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งวิศวกรรมยุคกลาง เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเข้ามาถ่ายรูป และตื่นตาตื่นใจกับรูปทรงของ หอเอนเมืองปิซา

ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) แนวชายฝั่งที่ทอดยาวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย (UNESCO) เป็นที่รู้จักจากเมืองที่งดงามที่เกาะติดกับหน้าผา มีน้ำทะเลสีฟ้าครามใส และบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนที่มีเสน่ห์

โดยเมืองริมหน้าผาที่เป็นที่รู้จักของสถานที่แห่งนี้คือ โปซิตาโน และอามาลฟี โดยจะนำเสนอทิวทัศน์สุดตระการตาของ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และภูมิประเทศที่เป็นแบบขั้นบันไดหลากสีสัน

ปอมเปอี (Pompeii) หรือเรียกได้อีกอย่างว่า นครแห่งความตาย โบราณที่ถูกแช่แข็งทันเวลาเนื่องจากการปะทุของ ภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) ในปีคริสตศักราชที่ 79 เหมาะสําหรับคนที่ต้องการมาชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ในบริเวณใกล้เคียง ภูเขาไฟวิสุเวียส (Mount Vesuvius) ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจนั่นก็คือ อ่าวเนเปิลส์ (Naples) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเดินป่า โดยมีทัศนียภาพอันงดงามของอ่าว และมีวิวทิวทัศน์ที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา

ชนบทของทัสคานี (Tuscany) สำรวจเนินเขาของ ทัสคานี เป็นชนบทอันงดงามที่มีชื่อเสียงในด้านเนินเขา ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่น สวนมะกอก และเมืองยุคกลางที่มีเสน่ห์ เช่น เซียนา ซานจิมิกนาโน และมอนเตปุลชาโน เป็นต้น

โดยที่นี่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองไวน์ชั้นดี และอาหารท้องถิ่น ที่มีรสชาติอร่อย ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับบ้านเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีมรดกทางวัฒนธรรมยาวนานที่น่าสนใจ ถูกเล่าสืบกันมาเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาอีกด้วย

นครวาติกัน (Vatican City) เป็นรัฐเอกราชที่เล็กที่สุดในโลก ศูนย์รวมแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยที่นครวาติกันแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่นักท่องเที่ยวมักจะแห่กันไปเยี่ยมชม ได้แก่

• มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) วิหารที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสตร์
• พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums) เป็นที่จัดแสดงคอลเล็กชันงานศิลปะอันล้ำค่า
• สวนวาติกัน (Vatican garden) ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะมากมาย

ชิงเคว แตร์เร (Cinque Terre) เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีสีสันสดใส 5 แห่ง ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ง ลิกูเรียน เชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเดินป่าอันสวยงาม รวมถึงมีทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอาหารลิกูเรียแบบดั้งเดิม อีกทั้งราคาก็ยังไม่แพงอีกด้วย

โดย ชิงเกวแตร์เร ประกอบด้วยหมู่บ้านหลากสีสัน 5 แห่ง ได้แก่ เมือง Monterosso al Mare, เมือง Vernazza, เมือง Corniglia, เมือง Manarola, และเมือง Riomaggiore

ทะเลสาบโคโม (Lake Como) เป็นสถานที่พักผ่อนสุดสงบบริเวณเทือกเขาแอลป์ มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของวิลล่าที่สวยงาม สวนเขียวชอุ่ม และมีทะเลสาบอันเงียบสงบ สําหรับใครที่อยากจะมาทัวร์อิตาลี lake como ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ

อีกทั้งยังมีเมืองที่งดงามราวภาพวาดอย่าง เบลลาจิโอ (Bellagio) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม่ (The Pearl of Lake Como) และ เมืองวาเรนนา (Varenna) ที่มอบสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชม ท่ามกลางภูมิประเทศที่น่าทึ่ง และสวนอันเก่าแก่

การเดินทางภายในประเทศ

การเดินทางในอิตาลีมีหลากหลายเส้นทางมาก โดยสามารถเดินทางได้ทั้ง รถไฟใต้ดิน รถราง รถบัส หรือรถขนส่งสาธารณะ (BIT) เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ และความสะดวกสบายของคุณ

• ซื้อตั๋ว BIT Ticket: เหมาะกับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะแค่ใบเดียว ก็สามารถใช้เดินทางได้ทั้ง รถบัส รถราง รถไฟ โดยสามารถซื้อได้หลากหลายประเภทอายุการใช้งาน ไม่ว่าเราจะทัวร์ 5 วัน 10 วัน ก็สามารถเลือกซื้อให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางของเราได้นั่นเองค่ะ
• รถบัส: เหมาะสําหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสประสบการณ์แบบคนท้องถิ่น การชมวิวข้างทาง มีจุดจอดจะใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าสถานีรถไฟ แต่อาจใช้เวลาเดินทางนานกว่า
• รถราง: โดยจะวิ่งอยู่นอกเมืองเป็นส่วนใหญ่ การใช้บริการก็จะเหมือนกับรถไฟฟ้าใต้ดินนั่นเองค่ะ
• รถไฟฟ้าใต้ดิน Metro: ที่ ประเทศอิตาลี จะมีรถไฟฟ้าใต้ดินไม่มาก เนื่องจากมักมีการขุดพบเจอสิ่งสำคัญทางโบราณคดี เลยยากต่อการ สร้างรถไฟใต้ดิน
• แท็กซี่: หากไม่ชินเส้นทาง เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง การใช้บริการแท็กซี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่แย่นะคะ แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่าการเดินทางแบบอื่นหน่อย

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปอิตาลี 2024

• ภาษาอิตาลีเป็นภาษาราชการ แม้ว่าภาษาอังกฤษจะพูดกันในพื้นที่ท่องเที่ยว แต่การเรียนรู้ภาษาอิตาลีขั้นพื้นฐาน ก็สามารถยกระดับประสบการณ์ให้คุณท่องเที่ยวได้สนุกขึ้นเเน่นอนค่ะ
• อิตาลีมีโรงพยาบาล และมีการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม แต่แนะนำให้มีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล เผื่อในกรณีฉุกเฉินนะคะ
• การให้ทิปนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาในอิตาลีเหมือนกับในประเทศอื่น ๆ บางครั้งจะมีการบวกค่าบริการ (coperto) ลงในบิลค่าอาหารในร้านอาหาร โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว
• คนอิตาลีชอบดื่มอะไร ชาวอิตาลีนิยมดื่มคาปูชิโนหรือลาเต้ในช่วงเช้า และดื่มเอสเพรสโซช่วงตอนบ่ายและตอนเย็นเพื่อช่วยย่อยอาหารค่ะ
• อิตาลีใช้เต้ารับไฟฟ้า Type C และ Type F หากคุณมาจากประเทศที่ใช้ปลั๊กอื่น ให้นำอะแดปเตอร์สำหรับการเดินทางมาด้วย
• อิตาลีอุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ซากปรักหักพังของโรมันโบราณไปจนถึงศิลปะเรอเนซองส์ จึงควรวางแผนล่วงหน้าสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น โคลอสเซียมในโรม และหอศิลป์อุฟฟิซีในฟลอเรนซ์ เพื่อหลีกเลี่ยงคิวที่ยาว
• ประเทศอิตาลีมี 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ด้วยรูปทรงอาจทําให้สงสัยว่าประเทศอิตาลีมีสภาพทางภูมิศาสตร์อย่างไร โดยภูมิศาสตร์ของอิตาลีมีลักษณะยาวยื่นลงไปในทะเล และพื้นที่ตั้งส่วนบนติดกับเทือกเขาแอลป์ ทำให้อิตาลีมีภูมิอากาศที่หลากหลายหลาย
• ประเทศอิตาลีมีกี่แคว้น หน่วยการปกครองชั้นที่หนึ่งของประเทศอิตาลี ประกอบด้วย 20 แคว้น ในจำนวนนี้ 5 แคว้นเป็นแคว้นปกครองตนเองตามรัฐธรรมนูญ

บทส่งท้าย

ประเทศอิตาลีนั้นเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โดโลไมท์, โคลอสเซียม ,มหาวิหารเซนต์มาร์ก ,หอเอนเมืองปิซา ,อาสนวิหารฟลอเรนซ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนแต่เป็นที่ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังมี ธรรมชาติที่งดงาม อากาศที่เย็นสบาย อาหารอร่อย และกิจกรรมที่หลากหลาย ท้าให้คุณได้ไปลองดูด้วยตัวของคุณเอง หรือใครที่กําลังมองว่าไป ทัวร์อิตาลี บริษัทไหนดี Travelzeed ก็มีโปรแกรมทัวร์อิตาลี ทัวร์ยุโรป ที่มีทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ มาเยือนอิตาลีแล้วคุณจะหลงเสน่ห์ ประเทศแห่งอารยธรรมเหล่านี้อย่างแน่นอน