ทัวร์กว่า 2,000 รายการ ทั้งในและต่างประเทศ
แพ็คกระเป๋า เลือกวันเดินทางได้ตามใจคุณ
ราคาสุดคุ้ม ทั้งตั๋วและที่พัก
ล่องเรือสำราญระดับโลก
บริการจัดทัวร์ตามความต้องการ
บริการจัดการวีซ่าครบวงจร
หากพูดถึง ประเทศเบลเยี่ยม หลายคนอาจนึกถึงเพียงช็อกโกแลตแสนอร่อยหรือเบียร์ชื่อดัง แต่ความจริงแล้วประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองเก่า ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหารมากมาย หากคุณกำลังมองหาจุดหมายใหม่ในยุโรป เบลเยี่ยมอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณก็ได้นะ ไปทำความรู้จักเบลเยี่ยมให้มากกว่านี้กัน
ที่ตั้ง: ยุโรปตะวันตก
ประเทศเพื่อนบ้าน: ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี และลักเซมเบิร์ก
เมืองหลวง: บรัสเซลส์ (Brussels) – เป็นที่ตั้งของสหภาพยุโรป (EU) และองค์การนาโต้ (NATO)
ประชากร: ประมาณ 11.7 ล้านคน
สกุลเงิน: ยูโร (EUR)
ภาษาราชการ:
เบลเยี่ยมมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมัน ซึ่งในแต่ละภูมิภาคก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน เช่น ชาวแฟลมิชทางเหนือจะพูดภาษาดัตช์ ส่วนชาววัลลูนทางใต้จะพูดภาษาฝรั่งเศส นอกจากนี้ เบลเยี่ยมยังขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ โดยเฉพาะจิตรกรระดับโลกอย่าง Peter Paul Rubens และ René Magritte อีกทั้งยังมีวรรณกรรม การ์ตูน เช่น ตินติน (Tintin) และงานดนตรีที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล
ประเทศเบลเยี่ยมเป็นหนึ่งในประเทศยุโรปที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี แต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์และบรรยากาศที่แตกต่างกัน เหมาะกับความชอบของนักเดินทางหลากหลายสไตล์ ดังนี้:
เป็นช่วงที่ธรรมชาติเริ่มตื่นตัว ดอกไม้หลากชนิดเริ่มผลิบาน สวนสาธารณะและถนนสายหลักเต็มไปด้วยสีสันของฤดูใหม่ อากาศเย็นสบาย กำลังเหมาะกับการเดินชมเมือง เช่น บรูจส์ เกนต์ และสวนในบรัสเซลส์
จุดเด่น: บรรยากาศโรแมนติก ดอกทิวลิปบาน เที่ยวแบบไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไป
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย: 8–18°C
เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวคึกคักที่สุดในรอบปี อากาศอบอุ่นและฟ้าใส เหมาะกับการนั่งชิลริมคาเฟ่ ล่องเรือในเมืองเก่า และเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น เทศกาลเบียร์, ดนตรีแจ๊ส, และ ตลาดนัดกลางแจ้ง
จุดเด่น: แดดดี ฟ้าใส ถ่ายรูปสวย เทศกาลเยอะ ร้านค้าเปิดดึก
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย: 18–26°C
ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นภาพวาดสีน้ำตาลทอง มีบรรยากาศเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยลง ทำให้เที่ยวได้แบบชิลๆ โดยเฉพาะเมืองในชนบทหรือปราสาทกลางหุบเขา
จุดเด่น: โรแมนติก คนไม่เยอะ ค่าที่พักถูกลง
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย: 10–16°C
แม้อากาศจะหนาวจัด แต่ก็เป็นฤดูที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ โดยเฉพาะในช่วง ตลาดคริสต์มาส ที่จัดอย่างอลังการในเมืองต่างๆ เช่น บรัสเซลส์ บรูจส์ และลีแอช พร้อมเครื่องประดับไฟสวยๆ และของกินอบอุ่นหัวใจ
จุดเด่น: ตลาดคริสต์มาส บรรยากาศยุโรปแท้ ๆ ไปช่วงนี้เจอหิมะแน่นอน
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย: 0–6°C
เบลเยี่ยมไม่ใช่แค่ประเทศเล็กๆ ในยุโรปที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามเท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่อร่อยและมีเอกลักษณ์ระดับโลกอีกด้วย มาดูกันว่าเมื่อไปเยือนเบลเยี่ยมแล้ว "ต้องลอง" อะไรบ้าง:
วาฟเฟิลที่นี่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีทั้งแบบกรอบบางอย่าง Brussels Waffle และแบบหวานหนึบเนื้อแน่นอย่าง Liège Waffle จุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมของเนย รสชาติหวานกำลังดี กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่กับผลไม้สด ไอศกรีม หรือช็อกโกแลต ก็อร่อยสุดๆ
แม้หลายคนจะเรียกว่า “French Fries” แต่ต้นกำเนิดจริงๆ คือจากเบลเยี่ยม! มันฝรั่งที่นี่ทอดสองรอบให้กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟใส่ถ้วยกระดาษ พร้อมซอสต่างๆ โดยเฉพาะมายองเนสแบบโฮมเมดที่เข้ากันมาก
เรียกได้ว่าขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก มีแบรนด์ดังมากมาย เช่น Godiva, Leonidas, Neuhaus คุณภาพของวัตถุดิบและเทคนิคการผลิตที่พิถีพิถัน ทำให้ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมเป็นของฝากที่หรูหราและรสชาติเยี่ยม
เบลเยี่ยมมีเบียร์ให้เลือกมากกว่า 1,000 ชนิด! ทั้งแบบ Trappist (ผลิตในวัด), Dubbel, Tripel, และเบียร์ผลไม้แบบ Kriek (เบียร์เชอร์รี่) การดื่มเบียร์ในเบลเยี่ยมถือเป็นวัฒนธรรมประจำชาติ โดยแต่ละเบียร์จะมีแก้วเฉพาะของตัวเอง
เมนูยอดนิยมที่ผสมผสานอาหารทะเลกับความเป็นเบลเยี่ยมแบบแท้ๆ หอยแมลงภู่สดต้มในไวน์ขาว สมุนไพร และกระเทียม เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดร้อนๆ เป็นจานที่หลายคนหลงรักหลังได้ลองครั้งแรก
จัตุรัสแกรนด์เพลส (Grand Place) เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของกรุงบรัสเซลส์ จัตุรัสกลางเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ด้วยความอลังการของสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกและโกธิกที่ล้อมรอบจัตุรัส จึงทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สวยที่สุดในโลก ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือ ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) ที่มีหอคอยสูงเด่นเป็นสง่า ในช่วงเดือนสิงหาคมของปีเว้นปี ที่จะมีการจัด เทศกาลพรมดอกไม้ (Flower Carpet Festival) ซึ่งจัตุรัสจะถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลายแสนดอก
โบสถ์อาวร์เลดี้ (The Church of Our Lady) เป็นหอคอยของโบสถ์ที่สูงถึง 115.5 เมตร เรียกได้ว่าเป็นหอคอยอิฐที่สูงที่สุดในโลก สถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้สะท้อนความยิ่งใหญ่ของยุคกลาง สร้างจากหินสีเทาในสไตล์โกธิก ภายในโบสถ์มีบรรยากาศที่เงียบสงบ และมีผลงานชิ้นหนึ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงระดับโลก นั่นคือ ประติมากรรม “Madonna and Child” เป็นผลงานของไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) ที่ถูกแกะสลักขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ประติมากรรมนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ชิ้นของไมเคิลแองเจโลที่อยู่ภายนอกประเทศอิตาลี
ปราสาทวาเลิน (Veves Castle) ตั้งอยู่กลางป่าเขียวของแคว้นวัลโลเนีย ทางตอนใต้ของเบลเยี่ยม เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดของประเทศ ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และได้รับการบูรณะหลายครั้งในยุคต่อมา ด้วยหอคอยปลายแหลมเรียงรายกำแพงหินทรงกลม และทางเดินที่ทอดผ่านสะพานไม้ข้ามคูน้ำ ล้อมรอบด้วยธรรมชาติร่มรื่น ทำให้ที่นี่ดูราวกับหลุดออกมาจากนิทานของเจ้าหญิงและอัศวิน
จัตุรัสตลาดบรูจส์ (Bruges Market Square) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Grote Markt เป็นศูนย์กลางทางการค้าและชีวิตประจำวันของชาวเมืองในอดีต แต่ยังคงเป็นหัวใจของเมืองในยุคปัจจุบัน จุดเด่นคือ หอคอยเบลฟรีย์แห่งบรูจส์ (Belfry of Bruges) หอคอยหินสูงตระหง่านที่เปิดให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาของเมืองเก่าจากมุมสูง 83 เมตร พร้อมเสียงระฆังที่ดังกังวานสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกสุด ๆ
หอระฆังเมืองเกนต์ (Belfry of Ghent) หอระฆังสูงกว่า 90 เมตร เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมืองเกนต์ และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่บอกเล่าความรุ่งเรืองของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และยังเป็นหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดในเบลเยี่ยมที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ภายในยังจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และบทบาทของหอระฆังในอดีต เหมาะสำหรับทั้งสายประวัติศาสตร์และสายถ่ายภาพที่อยากเก็บวิวเมืองเกนต์จากมุมสูงสุดแสนพิเศษ
มหาวิหารเซนต์บาโว (St. Bavo Cathedral) เป็นมหาวิหารเก่าแก่และยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเกนต์ ที่ผสมผสานศิลปะและประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานภาพวาดระดับโลก “The Adoration of the Mystic Lamb” ผลงานของพี่น้อง Van Eyck ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่สำคัญที่สุดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา นอกจากความงามทางศิลปะแล้ว มหาวิหารแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีราชาภิเษกและพิธีสำคัญของศาสนจักรในอดีต สถาปัตยกรรมแบบโกธิกภายในอลังการด้วยกระจกสีและแท่นบูชาแกะสลัก เหมาะแก่การแวะชมสำหรับผู้หลงใหลในงานศิลป์และความศักดิ์สิทธิ์
หนึ่งในแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของกรุงบรัสเซลส์ อะโตเมียม (Atomium Building) เป็นอาคารทรงโมเลกุลเหล็กขนาดยักษ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในงาน Expo 1958 ตัวอาคารประกอบด้วยลูกทรงกลมเชื่อมกัน 9 ลูก มีความสูงกว่า 100 เมตร ภายในแต่ละลูกมีนิทรรศการถาวรและชั่วคราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การออกแบบ และประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังลูกกลมด้านบนสุด เพื่อชมวิว พาโนรามาของกรุงบรัสเซลส์ แบบ 360 องศา นับว่าเป็นจุดถ่ายรูปและจุดเช็กอินยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดมาก ๆ
หนึ่งในสัญลักษณ์สุดขี้เล่นของกรุงบรัสเซลส์ รูปปั้นมาเนเกนพิส (Manneken Pis) เป็นรูปปั้นบรอนซ์เด็กชายยืนฉี่ขนาดเพียง 61 ซม. แม้จะตัวเล็กแต่กลับมีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยความน่ารักและเอกลักษณ์เฉพาะตัว จุดเด่นของรูปปั้นนี้คือ การเปลี่ยนชุดให้กับรูปปั้นในโอกาสพิเศษหรือวันสำคัญต่าง ๆ โดยมีชุดสะสมมากกว่า 1,000 ชุดจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใกล้เคียง แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ในเมือง แต่ก็เป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวทุกคนมักไม่พลาดมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
สถานีรถไฟกลางแอนต์เวิร์ป (Antwerpen-Central Station – Antwerp) นับว่าเป็นสถานีรถไฟที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานีที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-บาโรกที่หรูหรา ทั้งโดมขนาดใหญ่ บันไดหินอ่อน และกระจกสีที่ตกแต่งประณีต ภายในให้ความรู้สึกราวกับเดินอยู่ในมหาวิหารมากกว่าสถานีรถไฟ และยังเป็นศูนย์กลางคมนาคมสำคัญของเบลเยี่ยม เชื่อมต่อเมืองใหญ่ในยุโรป ทั้งโดยรถไฟความเร็วสูงและขบวนท้องถิ่น เหมาะทั้งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางและจุดถ่ายภาพสวยๆ สำหรับนักท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเบลเยียม (Chocolate Nation) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของช็อกโกแลตเบลเยียม ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟกลางแอนต์เวิร์ป นำเสนอเรื่องราวตั้งแต่ต้นกำเนิดของช็อกโกแลตในอเมริกากลาง ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตเบลเยี่ยมอันเลื่องชื่อ ภายในมีเทคโนโลยีภาพและเสียงที่ทันสมัย พร้อมโซนให้ชิมช็อกโกแลตสดใหม่กว่า 10 รสชาติ เหมาะทั้งสำหรับครอบครัว คนรักขนมหวาน และนักท่องเที่ยวที่อยากรู้จักเบลเยี่ยมผ่านรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
แม้ว่า เบลเยี่ยมเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่กลับอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ศิลปะ อาหาร หรือบรรยากาศของเมืองเก่า หากคุณกำลังวางแผนจะเดินทางไปยุโรปสักครั้ง อย่าลืมใส่ “เบลเยี่ยม” ไว้ในลิสต์ด้วยนะ แล้วคุณจะพบว่า…ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ให้ประสบการณ์ยิ่งใหญ่เกินคาดแน่นอน ที่สำคัญหากสนใจ ทัวร์เบลเยี่ยม อย่าลืมทักหา Travelzeed นะคะ